ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 41 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 801 - 820 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 801 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... | สธ | 05/07/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๕ โดยการยกเว้นให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพไม่อยู่ภายใต้การบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการซึ่งอยู่ระหว่างเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นชอบ พิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามขนาดพื้นที่ การให้บริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ดำเนินการยกร่างอนุบัญญัติเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจตามพระราชบัญญัติฯ มีฐานะเป็นกอง รวมถึงอยู่ระหว่างดำเนินการยกร่างประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์การเปรียบเทียบปรับ โดยกำหนดหลักเกณฑ์การใช้อำนาจเปรียบเทียบปรับในกรณีกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติฯ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 802 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายบุญชัย ธีระกาญจน์) | สธ | 05/07/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริมสุขภาพ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านสาธารณสุข) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ๒. นายบุญชัย ธีระกาญจน์ ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๙ |
||||||||||||||||||||||||
| 803 | หลักเกณฑ์และแนวทาง เรื่อง ค่าบริการทางการแพทย์และเงินเหมาจ่ายช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล กรณีผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ วันที่ 17 สิงหาคม 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 05/07/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทาง เรื่อง ค่าบริการทางการแพทย์และเงินเหมาจ่ายช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล กรณีผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์สำหรับผู้ไม่มีสิทธิในการรักษาหรือสิทธิการรักษาไม่ครอบคลุม ในวงเงิน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณในเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการพิจารณาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บชาวต่างชาติที่ประสงค์จะขอรับเงินช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังจากเดินทางกลับประเทศไปแล้วนั้น ฝ่ายไทยควรแจ้งข้อมูลหลักเกณฑ์และแนวทางฯ ดังกล่าวให้ผู้ได้รับบาดเจ็บชาวต่างชาติจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ทุกรายได้รับทราบถึงการให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของไทยและเป็นการปฏิบัติที่มีหลักการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเพื่อให้การดำเนินการตามหลักเกณฑ์และแนวทางฯ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เห็นควรพิจารณามอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบความซ้ำซ้อนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และจัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม และประโยชน์ที่ผู้บาดเจ็บจะได้รับอย่างแท้จริง แล้วขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อใช้ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นกรณีเฉพาะราย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาจัดทำกฎหมายหรือระเบียบ เงื่อนไข และวิธีการในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาที่ครอบคลุมในทุกกรณีทั้งเหตุการณ์ภัยพิบัติ สาธารณภัย เหตุการณ์ทางการเมือง หรือการก่อการร้าย ครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทุกประเภท เช่น กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บ และครอบคลุมบุคคลทุกกลุ่ม เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน ชาวต่างชาติ เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐมีหลักเกณฑ์มาตรฐานและเกิดความชัดเจนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 804 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ) | สธ | 05/07/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริมสุขภาพ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านสาธารณสุข) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ๒. นายบุญชัย ธีระกาญจน์ ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๙ |
||||||||||||||||||||||||
| 805 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว | สธ | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป และให้มีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบานแพ้วที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 806 | ขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ปี 2559 - 2568 | สธ | 21/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๘ เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ใช้เป็นกรอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ๕ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) มาตรการเชิงนโยบายและการควบคุมกำกับอย่างเข้มข้น (๒) เสริมสร้างความเข้มแข็งและขยายความครอบคลุมของมาตรการเชิงป้องกันทั้งในประเทศและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (๓) พัฒนาคุณภาพการคัดกรองวินิจฉัย การดูแลรักษา การส่งต่อทั้งระบบอย่างบูรณาการ (๔) ส่งเสริม สนับสนุนการมีส่วนร่วมและพัฒนาศักยภาพของชุมชนและองค์กรท้องถิ่นในการป้องกันควบคุมและจัดการสิ่งแวดล้อมโรคพยาธิใบไม้ตับ มะเร็งท่อน้ำดี และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีอย่างเป็นระบบ และ (๕) การศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ๑.๒ แนวทางการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ ๒ ระยะ โดยระยะเริ่มต้น ๓ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๑) เป็นโครงการรณรงค์การกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ครบ ๗๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ตลอดจนในปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา และระยะที่ ๒ เป็นการขับเคลื่อนตามมาตรการของแผนยุทธศาสตร์ในระยะเวลาที่เหลือ (๒๕๖๒-๒๕๖๘) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ ส่งผลให้การกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีเกิดความยั่งยืน และผลักดันให้เป็นการดำเนินงานในแผนงานปกติในอนาคตต่อไป ๑.๓ สนับสนุนงบประมาณการขับเคลื่อนตามมาตรการของแผนยุทธศาสตร์เพื่อให้สามารถดำเนินการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนในอนาคต ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้ประชาชนรับประทานอาหารปรุงสุกเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ และให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ควรดำเนินการในลักษณะสอดประสานไปกับการดำเนินการยุทธศาสตร์อื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้วในพื้นที่ในลักษณะการบูรณาการประเด็นด้านสุขอนามัยและโภชนาการของปัญหาสุขภาพของชุมชน ทั้งในการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย การสร้างความตระหนัก การให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติในระดับประเทศ และควรเพิ่มเติมตัวชี้วัดการดำเนินงานที่มีเป้าหมายร่วมกันระหว่างหน่วยงาน (Joint KPI) เพื่อนำไปสู่การเกิดผลลัพธ์ในการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งควรพิจารณาเชื่อมโยงกิจกรรมและพื้นที่ดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ภายใต้แผนดังกล่าว จำนวน ๒๖๑,๓๓๔,๘๐๐ บาท ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อไป ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ๔. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขนำแผนดังกล่าวมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการตามกรอบระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล (ถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐) ทั้งนี้ กิจกรรมใดที่เป็นการดำเนินการซึ่งเกินกว่ากรอบระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ให้นำเรื่องดังกล่าวบรรจุไว้ในแผนปฏิรูป เพื่อให้รัฐบาลชุดต่อไปที่จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินพิจารณาดำเนินการต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๙ (เรื่อง การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี) |
||||||||||||||||||||||||
| 807 | แผนปฏิบัติการ พ.ศ. 2559 - 2561 ภายใต้แผนงานทันตสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | สธ | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการแผนปฏิบัติการ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑ ภายใต้แผนงานทันตสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ ระยะที่ ๑ (ปีงบประมาณ ๒๕๕๙-๒๕๖๑) ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) การพัฒนารูปแบบบริการระบบบริการ คุณภาพบริการ การเข้าถึงบริการด้านทันตสุขภาพของผู้สูงอายุ (๒) การศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ (๓) การพัฒนาบุคลากรและหลักสูตรด้านทันตกรรมผู้สูงอายุ และ (๔) การบริหารจัดการ การพัฒนาระบบฐานข้อมูล การติดตามประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้มีระบบบริหารจัดการที่ดี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินงานให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และ พ.ศ. ๒๕๖๑ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อดำเนินการและเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแต่ละกลุ่ม รวมทั้งผู้สูงอายุได้รับทราบสิทธิประโยชน์ของตนเอง การประชาสัมพันธ์หน่วยบริการทันตกรรมที่มีศักยภาพและความสามารถในการจัดบริการเฉพาะทางให้ประชาชนทุกช่วงวัยทราบ เพื่อให้ได้มีโอกาสเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมและทันตสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น การนำแผนไปสู่การปฏิบัติต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินโครงการ กิจกรรม ที่หน่วยงานนั้น ๆ ดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มทุนและเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน การดำเนินการร่วมกันระหว่างสถานพยาบาลภาครัฐทุกสังกัดและภาคเอกชนในแต่ละเขตสุขภาพ เพื่อก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัดบริการและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงบริการทันตสุขภาพของผู้สูงอายุ การกำหนดตัวชี้วัดที่สะท้อนผลสัมฤทธิ์ด้านการส่งเสริมป้องกันการเกิดโรค นอกจากการเข้าถึงบริการการรักษา อาทิ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลช่องปากของผู้สูงอายุ และภาวะโภชนาการที่สัมพันธ์กับสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ เพื่อนำไปสู่การปรับแผนปฏิบัติการฯ ในระยะที่สองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการบูรณาการขั้นตอนและการดำเนินงานให้ครอบคลุมทั้งระบบสวัสดิการและสิทธิต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 808 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (นางดวงวดี สังโขบล) | สธ | 14/06/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางดวงวดี สังโขบล ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล แทน นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป และให้มีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 809 | ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 31/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับมาตรการเพิ่มเติมเรื่องใบรับจดแจ้ง เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมทั้งปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณารวมกับร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองและแผนการเสนอกฎหมายลำดับรอง และการเร่งรัดดำเนินการเสนอกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายสำคัญ) |
||||||||||||||||||||||||
| 810 | เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข | สธ | 31/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๐ งบอุดหนุน (เงินอุดหนุนทั่วไป) รายการเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข จำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นเงินชดเชยแก่ผู้ให้บริการของหน่วยบริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ ภายหลังจากมีการจัดทำระเบียบหลักเกณฑ์รองรับการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการสาธารณสุขและเร่งรัดการจัดทำระเบียบหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการจ่ายเงินตามขั้นตอนของกฎหมาย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรจัดเตรียมแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งพิจารณาตรวจสอบการเสนอขอตั้งงบประมาณมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการเสนอขอตั้งงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 811 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (นายมานิต ธีระตันติกานนท์) | สธ | 31/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แทนนายธวัช สุนทราจารย์ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙) เป็นต้นไป และให้มีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามอย่างต่อเนื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
| 812 | แผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด พ.ศ. 2559 - 2561 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 | สธ | 24/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ ประเทศไทยปลอดภัยจากโรคติดต่อด้วยระบบป้องกันและควบคุมโรคติดต่อที่มีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน และเป้าประสงค์ กวาดล้าง กำจัด ควบคุมโรคติดต่อสำคัญของประเทศด้วยระบบและเครือข่ายการทำงานที่เข้มแข็ง รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมีแผนปฏิบัติการ ๔ ระบบหลัก คือ ระบบป้องกันโรคติดต่อ (Prevention) ระบบตรวจจับภัยจากโรคติดต่อ (Detection) ระบบควบคุมโรคติดต่อและตอบสนองต่อปัญหา (Response) และระบบสนับสนุนการดำเนินงานด้านโรคติดต่อ (Support) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ส่วนงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานและนำแผนปฏิบัติการดังกล่าวไปใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงหลักความประหยัดและความคุ้มค่า ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งรวมถึงภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาถึงความเชื่อมโยงสอดคล้องกับแผนงานและโครงการภายใต้แผนยกระดับความมั่นคงและความเป็นเลิศด้านควบคุมโรค พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๙ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานและการใช้งบประมาณ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
||||||||||||||||||||||||
| 813 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายอังกูร ภัทรากร) | สธ | 10/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอังกูร ภัทรากร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานเวชศาสตร์สารเสพติด กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 814 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางอัญชุลี เตมียะประดิษฐ์) | สธ | 10/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอัญชุลี เตมียะประดิษฐ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 815 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์) | สธ | 10/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในลำดับที่ ๒ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 816 | รายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพในเอเชีย (Tokyo Meeting of Health Ministers on Antimicrobial Resistance in Asia) | สธ | 10/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพในเอเชีย (Tokyo Meeting of Health Ministers on Antimicrobial Resistance in Asia) เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเจตจำนงและความมุ่งมั่นทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพเนื่องจากการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุสมผลทั้งในคน ปศุสัตว์ ประมง และเกษตรกรรม โดยที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ของรัฐมนตรีสาธารณสุข (Ministerial Communique) ว่าด้วยความร่วมมือของประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ในการจัดการปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพในเอเชีย และประเทศญี่ปุ่น จะนำแถลงการณ์ดังกล่าวเสนอในการประชุมระดับผู้นำประเทศ (G7 Summit) ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ และในการประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุข ในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 817 | ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขให้สถานพยาบาลซึ่งดำเนินการโดยภาครัฐต้องมีลักษณะและมาตรฐาน หรือผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่กำหนด แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสถานพยาบาล แก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดที่ผู้รับอนุญาตต้องแสดงในสถานพยาบาล และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การดำเนินการของสถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการโฆษณาสถานพยาบาล บทกำหนดโทษ และองค์ประกอบของคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง และกรอบระยะเวลาในการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
| 818 | ร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออก ใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... | สธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์ของการขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ประสงค์จะขอรับอนุญาตเฉพาะคราวในการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ และปรับปรุงแบบคำขอรับใบอนุญาตให้เป็นไปตามที่เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยากำหนด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 819 | ร่างกฎกระทรวงการส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การยื่นใบแจ้งการส่งออก การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาตส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ และการขอย้าย เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ที่จะส่งออก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 820 | รายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 (1 ตุลาคม 2557 - 30 กันยายน 2558) | สธ | 26/04/2559 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๐ กันยายน ๒๕๕๘)
๑. ความครอบคลุม ประชากรผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (Universal Coverage Scheme : UCS) จำนวน ๔๘.๓๘๖ ล้านคน มีผู้ลงทะเบียน ๔๘.๓๓๖ ล้านคน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๐ ของผู้มีสิทธิ ๒. การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เช่น (๑) การใช้บริการผู้ป่วยนอก จำนวน ๑๕๙,๔๘๐ ล้านครั้ง อัตราการใช้บริการผู้ป่วยนอกเท่ากับ ๓.๒๙๘ ครั้ง/คน/ปี และการใช้บริการผู้ป่วยใน จำนวน ๕,๗๐๗ ล้านครั้ง อัตราการใช้บริการผู้ป่วยในเท่ากับ ๐.๑๑๘ ครั้ง/คน/ปี (๒) ให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ จำนวน ๓๒๒,๙๙๖ คน (๓) ให้บริการทดแทนไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง จำนวน ๔๐,๔๒๙ คน และ (๔) ให้บริการผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จำนวน ๓,๖๐๖,๙๓๐ คน เป็นต้น ๓. คุณภาพบริการ มีโรงพยาบาลขอรับการประเมินทั้งหมด ๑,๐๖๔ แห่ง ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (Hospital Accreditation : HA) จำนวน ๔๙๔ แห่ง (ร้อยละ ๔๖.๔๓) รับรองคุณภาพขั้น ๒ จำนวน ๔๗๘ แห่ง (ร้อยละ ๔๔.๙๒) และรับรองคุณภาพขั้น ๓ จำนวน ๑๒ แห่ง (ร้อยละ ๑.๑๓) ๔. การคุ้มครองสิทธิ มีประชาชนและผู้ให้บริการเข้ามาสอบถามข้อมูล ร้องเรียน ร้องทุกข์ และประสานส่งต่อผู้ป่วยผ่านช่องทางต่าง ๆ จำนวน ๔๘๙,๔๘๑ เรื่อง โดยช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการ จำนวน ๑,๐๔๕ คน ๕. ความพึงพอใจ ประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีความพึงพอใจ ร้อยละ ๙๑.๑๑ ผู้ให้บริการมีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร้อยละ ๖๙.๗๘ ๖. อุปสรรคในการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำในระหว่างระบบประกันสุขภาพของภาครัฐ และความไม่เข้าใจกันระหว่างหน่วยบริหารงบประมาณ (Purchaser) และหน่วยให้บริการ (Providers) และ/หรือระหว่างผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
.....
