ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 94 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 1861 - 1880 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1861 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๑๙๒ ไร่ ๑ งาน ๙๓ ๖/๑๐ ตารางวา เพื่อมอบให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชใช้เป็นที่ตั้งวิทยาเขตและศูนย์ให้การศึกษาแก่ประชาชนในพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1862 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. ... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๕๗ ไร่ ๒ งาน ๒๐ ตารางวา โดยที่ดินแปลงที่ ๑ เนื้อที่ประมาณ ๑๑ ไร่ ๒ งาน ๗๐ ตารางวา มอบให้เทศบาลตำบลอุบลใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลอุบล แปลงที่ ๒ เนื้อที่ประมาณ ๔๒ ไร่ ๓ งาน ๙๘ ตารางวา มอบให้กรมทางหลวงใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการสำนักงานแขวงการทางอุบลราชธานีที่ ๒ และแปลงที่ ๓ เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๓ งาน ๕๒ ตารางวา มอบให้กรมทางหลวงใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการสำนักงานหมวดการทางอุบลราชธานีที่ ๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1863 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนจันจว้า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนจันจว้า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลจันจว้า และตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1864 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น ทั้งแปลง เนื้อที่ประมาณ ๑๑ ไร่ ๒ งาน ๕๖ ตารางวา เพื่อมอบให้เทศบาลตำบลเปือยน้อย ใช้เป็นที่ตั้งโรงเรียนอนุบาลและอาคารประกอบอื่น ๆ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1865 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๔๙ ๘/๑๐ ตารางวา เพื่อมอบให้เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดใช้เป็นที่ตั้งศูนย์บริการสาธารณสุข ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1866 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลโคกสูง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1867 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ ๒ งาน ๓๓ ตารางวา เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลดอนปรูใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลดอนปรู และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1868 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๗ ไร่ ๑ งาน ๔๔ ตารางวา เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรืองใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรือง และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1869 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังประจบ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังประจบ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลวังประจบ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒๐ ไร่ เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลวังประจบใช้เป็นสถานที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลวังประจบ และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลวังประจบ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1870 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ่อทอง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ่อทอง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ่อทอง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ ๓ งาน ๒๗ ๙/๑๐ ตารางวา เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทองใช้เป็นสถานที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1871 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๘๒ ตารางวา เพื่อมอบให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1872 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จัหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน ๓๙ ตารางวา เพื่อมอบให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1873 | ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช 2474 | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช ๒๔๗๔ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๔๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช ๒๔๗๔ เพื่อกำหนดตำแหน่งผู้ที่ทำหน้าที่นายตรวจเสียใหม่ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ดังนี้
๑. กำหนดให้อธิบดีกรมการปกครอง และข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกรมการปกครองตั้งแต่ตำแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงานขึ้นไป ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการขึ้นไป ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับต้นขึ้นไป และตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้นขึ้นไป เป็นนายตรวจ ในกรุงเทพมหานคร ๒. กำหนดให้ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ปลัดอำเภอ เป็นนายตรวจ แต่สำหรับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่จังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครให้ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ เป็นนายตรวจ |
||||||||||||||||||||||||
1874 | ขออนุมัติขยายวัตถุประสงค์เพื่อให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้จังหวัดที่ได้รับอนุมัติงบประมาณจาก ๑ จังหวัด ๑ เขต ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (เรื่อง ขออนุมัติงบกลางเพื่อให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย) ขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือได้มากกว่า ๑ จังหวัด ถ้าเขตที่จับคู่เดิมหมดปัญหาเดือดร้อนแล้ว (เดิมได้ ๑ จังหวัด ต่อ ๑ เขต) เป็น ให้จังหวัดที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมาย ๒๕ จังหวัด สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยได้เพิ่มเติม ในทุกพื้นที่ของ ๒๒ เขต และจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม ตามที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมายเพิ่มเติม สำหรับวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์อื่น ๆ คงเป็นไปตามเดิม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1875 | การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เสนอ สรุปสาระสำคัญของแผนฯ ได้ดังนี้
๑. ช่วงเวลาการดำเนินการรณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ - ๔ มกราคม ๒๕๕๕ รวม ๗ วัน ๒. เป้าหมายการดำเนินการ เพื่อให้สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ (Admit) ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ - ๔ มกราคม ๒๕๕๕ ให้ลดลงร้อยละ ๕ ๓. มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (เน้นหนัก) ให้หน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการเน้นหนัก ๕ มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านการบริหารจัดการ มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการด้านวิศวกรรมจราจร มาตรการด้านประชาสัมพันธ์ และมาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ ๔. ช่วงเวลาในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ช่วงเตรียมความพร้อม ระหว่างวันที่ ๑ - ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ให้จังหวัดเตรียมความพร้อมทั้งด้านการปฏิบัติและงบประมาณเพื่อการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ตามมาตรการเน้นหนัก และช่วงปฏิบัติการเข้มข้น ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ - ๔ มกราคม ๒๕๕๕ ให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ระดับจังหวัด อำเภอ และศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจัดจุดตรวจ/ด่านตรวจร่วมแบบบูรณาการ การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน และการจัดตั้งหน่วยงานสนับสนุนและบริการประชาชน เป็นต้น ๕. แผนการดำเนินงาน ให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยใช้งบประมาณปกติของแต่ละหน่วยงาน ดังนี้ ๕.๑ แผนงานที่ ๑ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ระดับจังหวัด อำเภอ ๕.๒ แผนงานที่ ๒ การจัดตั้งจุดตรวจร่วม/ด่านตรวจร่วม บนเส้นทางสายหลัก (เส้นทางหลวงแผ่นดิน) สายรอง (เส้นทางหลวงชนบท และเส้นทางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ๕.๓ แผนงานที่ ๓ การจัดตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน โดยให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหัวหน้าชุมชน หมู่บ้าน ภาคประชาชนทำการตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเบื้องต้นในระดับพื้นที่ ๕.๔ แผนงานที่ ๔ การตั้งหน่วยสนับสนุน และบริการประชาชนระดับพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
|
||||||||||||||||||||||||
1876 | การพิจารณาแผนงาน/โครงการและงบประมาณด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ระยะที่ 3 (ระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด) ของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) และเรื่อง สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการแผนงาน/โครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ระยะที่ ๓ (ระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด) ของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต (กคช.) จากส่วนราชการ ๖ กระทรวง จำนวน ๑๙๘ โครงการ ในกรอบวงเงินรวม ๖,๘๐๓,๗๗๔,๔๐๑ บาท ประกอบด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน ๑๔ โครงการ งบประมาณ ๒,๒๙๖,๓๕๘,๖๐๐ บาท กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๑๒ โครงการ งบประมาณ ๗๗๘,๑๙๙,๐๐๐ บาท กระทรวงแรงงาน จำนวน ๖ โครงการ งบประมาณ ๑,๒๘๓,๐๒๘,๖๐๐ บาท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน ๕ โครงการ งบประมาณ ๑๓๐,๘๕๐,๘๐๐ บาท กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๘ โครงการ งบประมาณ ๖๖๙,๔๐๑,๑๐๐ บาท และกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑๕๓ โครงการ งบประมาณ ๑,๖๔๕,๙๓๖,๓๐๑ บาท ๒. อนุมัติในหลักการแผนงาน/โครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) ในกรอบวงเงินรวม ๑๒,๙๘๓,๖๒๙,๐๐๐ บาท ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (ประธาน กฟย.) เสนอ ประกอบด้วย ด้านคมนาคมขนส่ง วงเงินรวม ๔,๔๔๔.๕๒๓ ล้านบาท ด้านสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภค วงเงิน ๓๘๔.๙๐๙ ล้านบาท ด้านศาสนสถานและโบราณสถาน วงเงินรวม ๑,๕๙๓.๔๖๘ ล้านบาท ด้านสถานศึกษา วงเงินรวม ๑,๔๖๒.๔๔๗ ล้านบาท และด้านแหล่งน้ำและระบบชลประทาน วงเงินรวม ๕,๐๙๘.๒๘๒ ล้านบาท ๓. ให้ประธาน กฟย. รับแผนงาน/โครงการ ตามข้อ ๑ และ ๒ ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณเป็นฝ่ายเลขานุการ เพื่อกลั่นกรองและจัดลำดับความสำคัญเฉพาะโครงการเดิมที่ชำรุดเสียหายและจำเป็นต้องซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ เช่น ถนน สะพาน หรือโรงเรียน เป็นต้น หากโครงการใดเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ก็ให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอให้คณะกรรมการดังกล่าวให้ความเห็นด้วย ส่วนแผนงาน/โครงการส่วนที่เหลือจากการกลั่นกรองดังกล่าว ให้ฝ่ายเลขานุการ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับสำนักงบประมาณ) รวบรวมและประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามวันเวลาที่นายกรัฐมนตรีกำหนด โดยให้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละจังหวัดร่วมพิจารณากลั่นกรองแผนงาน/โครงการของจังหวัดที่รับผิดชอบด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1877 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งนายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1878 | ผลการประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ร่วมกับคณะกรรมการเพื่อให้ ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน (กศอ.) ครั้งที่ 1/2554 | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอขอแก้ไขความคลาดเคลื่อนของข้อมูลมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ [เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ร่วมกับคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน (กศอ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔] ในหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๒๑๑.๖/๑๑๘๑๒ ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ในส่วนของมาตรการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต หน้า ๗ จากเดิม “๔,๑๔๖,๓๘๘,๓๐๐ บาท” เป็น “๔,๑๔๖,๓๘๔,๓๐๐ บาท” และจากเดิม “๒๖๕,๔๖๐,๐๐๐ ล้านบาท” เป็น “๒๖๕,๔๖๐,๐๐๐ บาท”
|
||||||||||||||||||||||||
1879 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2554) | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสถานการณ์อุทกภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔) ๑.๑ ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ใน ๒ พื้นที่ คือ ประเทศไทยตอนบน ๑๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร รวม ๙๑ อำเภอ ๖๙๙ ตำบล ๔,๓๕๓ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๗๑๖,๒๘๑ ครัวเรือน ๔,๖๑๒,๙๙๖ คน ส่วนสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง รวม ๑๑ อำเภอ ๕๘ ตำบล ๓๑๑ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๓๑,๐๐๘ ครัวเรือน ๑๑๐,๑๔๑ คน ๑.๒ การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่อนุมัติในหลักการในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท เพิ่มเติม (ครั้งที่ ๓) ใน ๖๒ จังหวัด กรอบครัวเรือน จำนวน ๒,๒๘๙,๕๖๒ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑๑,๔๔๗,๘๑๐,๐๐๐ บาท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมรายชื่อส่งธนาคารออมสินแล้ว จำนวน ๓๘๓,๑๒๘ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑,๙๑๕,๖๔๐,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๗๓ และธนาคารออมสินจ่ายเงินแล้ว ๙,๔๑๑ ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔) ๒. สถานการณ์ภัยหนาว (ระหว่างวันที่ ๒ พฤศจิกายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔) มีจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) เนื่องจากมีสภาพอากาศหนาว (อุณหภูมิ ๘.๐ - ๑๕.๙ องศาเซลเซียส) ถึงหนาวจัด (อุณหภูมิต่ำกว่า ๘.๐ องศาเซลเซียส) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวม ๒ อำเภอ ๑๑ ตำบล ๑๔๐ หมู่บ้าน
|
||||||||||||||||||||||||
1880 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตดัดแปลงอาคารเพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงของอาคารให้สามารถต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว พ.ศ. .... | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตดัดแปลงอาคารเพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงของอาคารให้สามารถต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้อาคารทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตามกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนักความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. ๒๕๕๐ สามารถดัดแปลงอาคารเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแรงในการต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ โดยได้รับยกเว้นหลักเกณฑ์บางประการในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร อาคาร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....