ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 95 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 1881 - 1900 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1881 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ ในท้องที่ตำบลดอนทราย ตำบลหนองบัว ตำบลท่าพลับ ตำบลสิบเอ็ดศอก ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลหนองตีนนก ตำบลคลองบ้านโพธิ์ และตำบลบางซ่อน อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1882 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนผักไห่ - ลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนผักไห่ - ลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหน้าโคก ตำบลหนองน้ำใหญ่ ตำบลลาดน้ำเค็ม ตำบลอมฤต ตำบลผักไห่ ตำบลนาคู ตำบลจักราช ตำบลดอนลาน ตำบลตาลาน ตำบลลาดชิด ตำบลบ้านใหญ่ และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1883 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกระบี่ พ.ศ. .... | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกระบี่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกระบี่ ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย ตำบลทับปริก ตำบลไสไทย ตำบลกระบี่ใหญ่ และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1884 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท | 06/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านมะเกลือ ตำบลบางม่วง ตำบลบึงเสนาท ตำบลเกรียงไกร ตำบลวัดไทรย์ ตำบลบางพระหลวง ตำบลหนองกรด ตำบลแควใหญ่ ตำบลปากน้ำโพ ตำบลนครสวรรค์ตก และตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1885 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกันตัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกันตัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลย่านซื่อ ตำบลคลองลุ ตำบลบ่อน้ำร้อน ตำบลบางเป้า ตำบลกันตัง และตำบลกันตังใต้ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1886 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองแค จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองแค จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองปลาหมอ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแค ตำบลไผ่ต่ำ และตำบลกุ่มหัก อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1887 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองแม่สอด จังหวัดตาก พ.ศ. .... | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองแม่สอด จังหวัดตาก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลแม่ปะ ตำบลท่าสายลวด ตำบลแม่สอด ตำบลพระธาตุผาแดง และตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1888 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนไร่ใหม่ - ไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนไร่ใหม่ - ไร่เก่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลศิลาลอย ตำบลศาลาลัย ตำบลไร่เก่า และตำบลไร่ใหม่ อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1889 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2554) | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสถานการณ์อุทกภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ๑.๑ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ใน ๒ พื้นที่ คือ บริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้บางจังหวัด จำนวน ๑๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร รวม ๑๐๗ อำเภอ ๘๖๙ ตำบล ๕,๐๘๑ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๘๒๐,๖๖๘ ครัวเรือน ๔,๘๘๑,๗๔๙ คน และสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบัน จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม ๗ จังหวัด ๔๙ อำเภอ ๒๔๗ ตำบล ๑,๔๗๗ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑๕๔,๑๔๔ ครัวเรือน ๓๒๔,๒๔๒ คน ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส สงขลา และยะลา มีผู้เสียชีวิต ๗ ราย ๑.๒ การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท เพิ่มเติม (ครั้งที่ ๓) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมรายชื่อส่งธนาคารออมสินแล้ว ๒๐๔,๕๒๗ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑,๐๒๒,๖๓๕,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๘.๙๓ ( ณ วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ๒. สรุปสถานการณ์ภัยหนาว (ระหว่างวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ - ปัจจุบัน) มีจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) เนื่องจากมีสภาพอากาศหนาว (อุณหภูมิ ๘.๐ - ๑๕.๙ องศาเซลเซียส) ถึงหนาวจัด (อุณหภูมิต่ำกว่า ๘.๐ องศาเซลเซียส) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวม ๒ อำเภอ ๑๑ ตำบล ๑๔๐ หมู่บ้าน
|
||||||||||||||||||||||||
1890 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นไม่ดำเนินคดีตามมาตรา 76 และ 81 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเว้นการปฏิบัติตามมาตรา ๗๖ และมาตรา ๘๑ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อเป็นการเยียวยาคนต่างด้าวซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ยกเว้นการปฏิบัติตามมาตรา ๗๖ และมาตรา ๘๑ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้แก่คนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาลงนามในประกาศฯ
|
||||||||||||||||||||||||
1891 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเงินจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เป็นเงินจำนวน ๑๑๗,๗๒๒,๓๘๕ บาท และให้ส่วนราชการที่ดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติจ่ายเงิน หรือก่อหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ก่อนได้รับเงินประจำงวด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล งานมหรสพสมโภช และการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เสนอ ๒. อนุมัติตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน ๑๑๗,๗๒๒,๓๘๕ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน
|
||||||||||||||||||||||||
1892 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (เพิ่มเติม) | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งรองศาสตราจารย์ ประภาษ ไพรสุวรรณา เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนนายสุกิจ เจริญรัตนกุล ที่ลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1893 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (เพิ่มเติม) | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางวิภารัตน์ อัศววิรุฬหการ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (เพิ่มเติม) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1894 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง | มท | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ชุดใหม่ จำนวน ๑๔ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ชุดเดิม ได้ลาออกทั้งคณะ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายพระนาย สุวรรณรัฐประธาน กรรมการ ๑.๒ นายวีระยุทธ เอี่ยมอำภา กรรมการ ๑.๓ นายถวัลย์วงศ์ ธีระวิทยภิญโญ กรรมการ ๑.๔ นายขวัญชัย วงศ์นิติกร กรรมการ ๑.๕ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ กรรมการ ๑.๖ นายภาณุ อุทัยรัตน์ กรรมการ ๑.๗ ศาสตราจารย์ ธีรวุฒิ บุณยโสภณ กรรมการ ๑.๘ นายจุมพล สำเภาพล กรรมการร ๑.๙ พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ กรรมการ ๑.๑๐ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ กรรมการ ๑.๑๑ นายสมชัย สัจจพงษ์ กรรมการ ๑.๑๒ เรืออากาศเอก ศิริเดช จุลเปมะ กรรมการ ๑.๑๓ นายเถลิง อยู่บำรุง กรรมการ ๑.๑๔ นายเดชบุญ มาประเสริฐ กรรมการ ๒. ส่วนกรณีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป และนายสมชัย สัจจพงษ์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังเห็นชอบเป็นต้นไป ซึ่งต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
||||||||||||||||||||||||
1895 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554) | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๑๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร รวม ๑๒๔ อำเภอ ๘๖๗ ตำบล ๕,๗๕๒ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๘๘๖,๐๖๒ ครัวเรือน ๕,๐๕๑,๒๓๕ คน โดยพื้นที่ประสบอุทกภัยและมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ รวมทั้งสิ้น ๖๔ จังหวัด มีผู้เสียชีวิต ๖๐๖ ราย สูญหาย ๓ คน ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู จำนวน ๔๗ จังหวัด ๒. การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่อนุมัติในหลักการในการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท เพิ่มเติม (ครั้งที่ ๓) ใน ๖๒ จังหวัด กรอบครัวเรือน จำนวน ๒,๒๘๙,๕๖๒ ครัวเรือน เป็นเงิน ๑๑,๔๔๗,๘๑๐ บาท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมรายชื่อส่งธนาคารออมสินแล้ว ๑๔,๐๓๙ ครัวเรือน เป็นเงิน ๗๐,๑๙๕,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๖๑ (ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ๓. การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งที่ ๕๔๗/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีหน้าที่อำนวยการ ประสานแผน และบูรณาการการปฏิบัติงาน รวมทั้งกำกับ ดูแลการปฏิบัติงานของฝ่ายต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ นอกจากนี้ ได้สั่งการทุกจังหวัดเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวของจังหวัด โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ของจังหวัด โดยให้มีการเตรียมการทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และภายหลังเกิดเหตุ รวมทั้งให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ทั้งในระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1896 | แผนงานให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจังหวัด | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของแผนงาน โครงการและงบประมาณตามแผนงานช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจังหวัด จำนวน ๕๘ จังหวัด ตามมติคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) เสนอ ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเหมาะสมของโครงการตามหลักการ ดังนี้ ๑.๑ เป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับด้านโครงสร้างพื้นฐานควรเป็นลักษณะซ่อมแซมหรือปรับปรุงเพื่อการฟื้นฟูเป็นหลัก ๑.๒ ไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับภารกิจ พื้นที่หรืองบประมาณจากแหล่งอื่น ๑.๓ เป็นโครงการที่มีลักษณะทำสำเร็จได้โดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับการฟื้นฟู เยียวยาอย่างรวดเร็ว และสามารถดำรงชีวิตตามปกติได้ ๑.๔ เป็นโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันทีตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติ และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี ๑.๕ เป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าและประโยชน์ที่จะได้รับอย่างแท้จริง ๒. กรณีเป็นโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) ประสานงานกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1897 | ขออนุมัติงบกลางเพื่อให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้แก่จังหวัดและส่วนราชการใช้ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ไปพลางก่อน วงเงินงบประมาณรวม ๒,๖๕๐ ล้านบาท โดยมีหลักเกณฑ์รวม ๖ ข้อ ตามมติคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) เสนอ โดยในส่วนของหลักเกณฑ์มีรายละเอียด ดังนี้
๑. จัดสรรให้จังหวัดที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ๑ จังหวัด ๑ เขต กรุงเทพมหานคร + จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม รวม ๒๕ จังหวัด จังหวัดละ ๕๐ ล้านบาท เป็นเงิน ๑,๒๕๐ ล้านบาท (เพื่อใช้จ่ายสำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ๑ จังหวัด ต่อ ๑ เขต ใน ๒๒ เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตบางพลัด ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางกอกน้อย ภาษีเจริญ หนองแขม บางบอน จอมทอง บางกอกใหญ่ บางขุนเทียน บางเขน หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว ดอนเมือง สายไหม หนองจอก คลองสามวา มีนบุรี คันนายาว และบึงกุ่ม และ อีก ๓ จังหวัด สำหรับจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม) ๒. จัดสรรให้ส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แห่งละ ๑๐๐ ล้านบาท กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แห่งละ ๕๐ ล้านบาท รวมเป็นเงินงบประมาณ ๑,๔๐๐ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายสำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ๓. ให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเหตุเฉพาะหน้าก่อน และจะต้องควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับงบประมาณอื่นใดของทางราชการ โดยให้กระทรวงที่ได้รับอนุมัติงบประมาณทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ๔. การเบิกจ่ายงบประมาณให้จังหวัดและส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้ ๔.๑ การจัดซื้อจัดจ้างให้ปฏิบัติตามหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ กรมบัญชีกลางที่ กค (กวพ) ๐๔๒๑.๓/ว ๓๘๒ ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๔.๒ ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ๔.๓ ค่าใช้จ่ายในการบริหารของส่วนราชการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๕. ระยะเวลาในการดำเนินงานและการเบิกจ่าย ให้จังหวัดและส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณดำเนินการได้ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ๖. ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณควบคุม กำกับดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และรายงานการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามที่สำนักงบประมาณกำหนด
|
||||||||||||||||||||||||
1898 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายไพโรจน์ รุ่งจินตนาการ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
1899 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งงบประมาณปี พ.ศ. 2554 | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เปลี่ยนแปลงรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของโครงการป้องกันการสูญเสียดินแดนชายฝั่งแม่น้ำชายแดนระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติเพื่อความมั่นคง และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันริมแม่น้ำและริมทะเลทั่วประเทศ จาก ๓ รายการ วงเงินรวม ๑๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็น ๕ รายการ วงเงินรวม ๑๑๔,๙๗๒,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยรายการที่มีการเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย ๑.๑ โครงการป้องกันการสูญเสียดินแดนชายฝั่งแม่น้ำชายแดนระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติเพื่อความมั่นคง จำนวน ๒ รายการ เป็นเงิน ๕,๑๒๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ ๑.๑.๑ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านสองคอน หมู่ ๒ (ต่อเนื่องเขื่อนเดิม) ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ความยาว ๒๐๐ เมตร เป็นเงิน ๓,๐๙๘,๔๐๐ บาท ๑.๑.๒ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน (ต่อเนื่องเขื่อนเดิมเหนือน้ำ) อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ความยาว ๒๘๐ เมตร เป็นเงิน ๒,๐๒๑,๖๐๐ บาท ๑.๒ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำและริมทะเลทั่วประเทศ จำนวน ๒ รายการ เป็นเงิน ๑๒,๘๘๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ ๑.๒.๑ ซ่อมแซมเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำหลังสวน บริเวณหลังเทศบาลเมืองหลังสวน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ความยาว ๒๑๐ เมตร เป็นเงิน ๘,๘๘๗,๔๐๐ บาท ๑.๒.๒ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บ้านฟากปาว หมู่ที่ ๑๔ ตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ความยาว ๒๐๐ เมตร เป็นเงิน ๓,๙๙๒,๖๐๐ บาท ๑.๓ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำและริมทะเลทั่วประเทศ ได้แก่ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำบางปะกง บริเวณวัดหัวเนิน ตำบลลาดขวาง อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ความยาว ๑๗๐ เมตร เป็นเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๒๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๙๑,๙๗๒,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณเพื่อเป็นค่างานตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1900 | ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมหรือยกเลิกการเป็นสมาชิกของสมาคม จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.๒ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสมัครเป็นสมาชิกสมาคมจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะได้รับและเป็นผลดีต่อการปฏิบัติราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งต้องพิจารณาถึงรายจ่ายตามข้อผูกพันที่จะต้องชำระเงินค่าบำรุงให้แก่สมาคมตามข้อบังคับของสมาคม และฐานะทางการคลังเป็นสำคัญ ๑.๓ การจ่ายเงินค่าบำรุงให้แก่สมาคมที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นสมาชิก ให้เบิกจ่ายได้ตั้งแต่ปีงบประมาณที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสมัครเป็นสมาชิกตามจำนวนเงินค่าบำรุงที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของสมาคม โดยให้ตั้งจ่ายไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ๑.๔ การจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยังมิได้มีการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ให้เบิกจ่ายได้ตามระเบียบนี้ ๑.๕ การจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้ว โดยไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ถือเป็นการเบิกจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมตามระเบียบนี้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) ของเทศบาล หรือการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบอื่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล) ไม่ใช่กิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือมีกฎหมายกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ ประกอบกับการออกระเบียบกำหนดให้การจ่ายเงินค่าบำรุงสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเป็นรายจ่ายอื่น ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๖๗ (๙) พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๗๔ (๙) พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๘๕ (๑๐) อาจเป็นการเกินอำนาจที่กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ไว้ อย่างไรก็ตาม การที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือองค์การบริหารส่วนตำบลเข้าเป็นสมาชิกสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ ต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมายจัดตั้งของแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว หรือกำหนดให้มีสันนิบาตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเทียบเคียงได้กับพระราชบัญญัติสหกรณ์ จากนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงสามารถออกระเบียบเพื่อรองรับการเบิกจ่ายได้ต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....