ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 50 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 981 - 1000 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
981 | การขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2555 - 2558 (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๘) เป็นกรณีเฉพาะราย โดยอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินรายการที่ก่อหนี้ผูกพันไม่ทันวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๙ แต่ยังมีความประสงค์จะดำเนินการต่อ ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑๑ รายการ ในวงเงิน ๒๐๕,๓๒๓,๗๕๘ บาท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน ๒๙ รายการ ในวงเงิน ๕๕,๒๗๑,๙๖๐ บาท และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน ๑๔ รายการ ในวงเงิน ๓๕,๕๓๒,๙๐๐ บาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
982 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช | มท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
983 | การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2560 | มท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี ๒๕๖๐ ซึ่งมีผลการดำเนินการเกี่ยวกับ (๑) การเตรียมความพร้อม (ก่อนเกิดภัย) (๒) แนวทางปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน “๓ มาตรการ เชิงพื้นที่ ๔ มาตรการบริหารจัดการ” (ขณะเกิดภัยหรือใกล้เกิดภัย) (๓) การให้ความช่วยเหลือ (ขณะเกิดภัย) และ (๔) การฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน (หลังเกิดภัย) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
984 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท | 21/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดโดยคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนและปริมาณการใช้น้ำในพื้นที่ ตลอดจนการกำนหดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม และพิจารณามิให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดสร้างระบบรวบรวมหรือระบบบำบัด/กำจัดมลพิษ รวมทั้งควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมือง นอกจากนี้ ควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
985 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดจันทบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดจันทบุรี พ.ศ. 2555) | มท | 21/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดจันทบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดจันทบุรี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดย (๑) แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว โรงแรมและหอพักในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (๒) เพิ่มข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเกี่ยวกับการกำหนดระยะห่างจากอ่างเก็บน้ำคลองศาลทราย ในที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้สามารถประกอบกิจการโรงแรมได้ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนที่ดินในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายกฎกระทรวง และ (๔) ยกเลิกบัญชีท้ายกฎกระทรวง ในที่ดินประเภทชุมชน และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนและปริมาณการใช้น้ำในพื้นที่ รวมทั้งให้กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวดและจริงจัง บไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
986 | ร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราตามมาตรา 12 (1) ประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว เป็นการชั่วคราว พ.ศ. .... | มท | 21/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราตามมาตรา ๑๒ (๑) ประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว เป็นการชั่วคราว พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราตามมาตรา ๑๒ (๑) ประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว สำหรับกรณียื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย และปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นการชั่วคราว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
987 | สรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 และข้อเสนอเพื่อขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนน | มท | 14/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๐ และข้อเสนอเพื่อขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนน โดยผลการดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในภาพรวมพบว่า จำนวนการเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต และบาดเจ็บ สูงกว่าปี ๒๕๕๙ ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์และจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนน ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านคน ด้านถนน ด้านยานพาหนะ และด้านสิ่งแวดล้อม โดยแนวทางการขับเคลื่อนที่สำคัญ เช่น (๑) ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาประสิทธิภาพเรื่อง “ด่านชุมชน” ในชุมชน/หมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง (๒) ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยกำหนดคุณภาพของถนนให้เป็นมาตรฐาน (๓) ให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ อุปกรณ์บันทึกพฤติกรรมการขับขี่ และอุปกรณ์ดับเพลิงในยานพาหนะ และ (๔) ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยดำเนินการมิให้มีสิ่งอันตรายบนเขตทางเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
988 | โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 | มท | 14/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ ๑ มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้า พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในพื้นที่โครงการเพื่อเพิ่มความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ลดปัญหาและอุปสรรคด้านการปฏิบัติการบำรุงรักษาและความปลอดภัย พื้นที่ดำเนินการ ๔ เมือง (เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครนครราชสีมา เมืองพัทยา และเทศบาลนครหาดใหญ่) ระยะเวลาดำเนินการ ๕ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๓) วงเงินลงทุน ๑๑,๖๖๘.๕๖ ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ในประเทศ จำนวน ๘,๗๔๘.๕๖ ล้านบาท และเงินรายได้ กฟภ. จำนวน ๒,๙๒๐ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบให้ กฟภ. กู้เงินในประเทศ ภายในกรอบวงเงิน ๘,๗๔๘.๕๖ ล้านบาท เพื่อเป็นเงินลงทุนของโครงการดังกล่าว โดย กฟภ. จะทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นจนกว่างานจะแล้วเสร็จ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเกี่ยวกับการกำกับดูแลและควบคุมต้นทุนการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้การลงทุนเกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด การศึกษาแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการขอใช้ไฟฟ้าแรงต่ำและแรงสูงในพื้นที่ระบบสายใต้ดินที่เหมาะสมและเป็นธรรม และการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในโครงการฯ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และสำนักงบประมาณ อาทิ การพัฒนาโครงการฯ ควรคำนึงถึงความสอดคล้องและความเชื่อมโยงกับแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่ให้เกิดการลงทุนซ้ำซ้อน และให้ความสำคัญต่อการวางแผนการเตรียมความพร้อมในขั้นตอนของแผนการปฏิบัติงานกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องและแผนการใช้จ่ายเงินที่ชัดเจน ตลอดจนการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. เร่งรัดดำเนินการตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ ๑ ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดโดยให้บูรณาการการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประปาส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน รวมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการดำเนินการของ กฟภ. ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการโครงการลงทุน เช่น กรณีโครงการนี้ของ กฟภ. ให้เป็นไปตามแผนงานอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนของน้ำหนักตัวชี้วัดในระบบการประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal : SEPA) ในการวัดผลการดำเนินโครงการลงทุนตามแผนงานและระยะเวลาที่กำหนดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
989 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ และนายประภัสสร์ มาลากาญจน์) | มท | 14/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุทัยธานี สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
990 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย) (นายนรภัทร ปลอดทอง) | มท | 31/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนรภัทร ปลอดทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
991 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ย่านเก่ากับการปกป้อง คุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน | มท | 31/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ย่านเก่ากับการปกป้องคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะว่าควรให้มีการตรากฎหมายขึ้นมากำกับดูแลย่านเก่าโดยเฉพาะอย่างเป็นระบบ และในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแลย่านเก่าโดยเฉพาะ ให้นำกฎหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่ใช้บังคับไปพลางก่อน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรายงานว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการตรากฎหมายขึ้นมากำกับดูแลย่านเก่าโดยเฉพาะ และในระหว่างที่ยังไม่ได้ดำเนินการตรากฎหมาย เห็นชอบให้นำกฎหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมมาใช้บังคับไปพลางก่อน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำบัญชีทะเบียนย่านชุมชนเก่ารายภาค ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ซึ่งเบื้องต้นมีทั้งหมด ๔๘๒ ชุมชน และได้จัดทำมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมประเภทย่านชุมชนเก่าที่จะเป็นตัวบ่งชี้ให้ทราบแนวทางในการดำเนินงานให้เกิดความยั่งยืนของย่านเก่าและแนวทางการบริหารจัดการที่ส่งเสริมอนุรักษ์ย่านชุมชนเก่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
992 | แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ปี 2551 - 2556 (ฉบับปรับปรุง) ของการไฟฟ้านครหลวง | มท | 31/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ดำเนินการตามแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๖ (ฉบับปรับปรุง) วงเงินลงทุนรวม ๙,๐๘๘.๘ ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ในประเทศ จำนวน ๕,๔๐๐.๐ ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟน. จำนวน ๓,๖๘๘.๘ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ กฟน. เร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนงานและกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยไม่ให้มีการขยายระยะเวลาและเพิ่มวงเงินลงทุนอีก รวมทั้งให้รายงานผลการดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟน. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน รวมทั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความล่าช้าของแผนงานและกำหนดแผนงานให้สอดคล้องกับความสามารถในการดำเนินงาน การกำกับดูแลและควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดและประหยัดมากที่สุด การประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้าและการให้บริการไฟฟ้าในอนาคตเป็นหลัก การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการลงทุนและคุณภาพการให้บริการ การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น การจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนงาน การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงานและเพื่อให้โครงการสามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานที่ตั้งเป้าหมายไว้ และการจัดทำการประเมินผลความคุ้มค่าการลงทุนตามแผนงานในด้านประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า ความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า คุณภาพการบริการ รวมถึงผลกระทบค่าไฟฟ้าในอนาคต ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป ๒. ให้ กฟน. ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่ออัตราค่าไฟโดยรวม และให้จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนงานด้วย ๓. ให้ กฟน. บูรณาการการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน รวมทั้งลดผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และประชาชนผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการดำเนินการของ กฟน. ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการโครงการลงทุนให้เป็นไปตามแผนงานอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนของน้ำหนักตัวชี้วัดในระบบการประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal : SEPA) ในการวัดผลการดำเนินโครงการลงทุนตามแผนงานและระยะเวลาที่กำหนดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
993 | รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (ครั้งที่ 3) | มท | 31/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ครั้งที่ ๓) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินการตามโครงการฯ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๐) หมู่บ้านจำนวน ๗๔,๖๕๕ หมู่บ้าน เสนอโครงการจำนวน ๘๒,๒๖๗ โครงการ งบประมาณจำนวน ๑๘,๖๖๐.๒๒ ล้านบาท งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้วจำนวน ๑๖,๗๕๘.๘๒ ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๘๑) โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน ๖๕,๔๗๖ โครงการ (คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๕๙) งบประมาณจำนวน ๑๔,๗๙๒.๒๓ ล้านบาท ๒. ผลการดำเนินการโครงการฯ เฉพาะพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประกาศเป็นสาธารณภัยขนาดใหญ่ หมู่บ้านจำนวน ๙,๐๐๖ หมู่บ้าน เสนอโครงการจำนวน ๙,๖๕๔ โครงการ งบประมาณจำนวน ๒,๒๕๑.๔๕ ล้านบาท งบประมาณที่เบิกจ่ายแล้วจำนวน ๑,๕๒๔.๑๔ ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ ๖๗.๗๐) โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน ๖,๐๗๘ โครงการ (คิดเป็นร้อยละ ๖๒.๙๖) งบประมาณทั้งสิ้น ๑,๔๐๑.๐๖ ล้านบาท สำหรับโครงการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน ๒,๖๒๐ โครงการ ประกอบด้วย (๑) ขอขยายระยะเวลาดำเนินการจำนวน ๒,๕๖๕ โครงการ (๒) ขอเปลี่ยนแปลงโครงการจำนวน ๑๓ โครงการ และขอเปลี่ยนสถานที่ดำเนินการจำนวน ๔๒ โครงการ งบประมาณจำนวน ๖๕๐.๑๕ ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๑๔) ๓. โครงการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าว กรมการปกครองได้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง ในเรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางการเปลี่ยนแปลงโครงการของหมู่บ้านพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ๑๓ จังหวัดภาคใต้ โดยโครงการตามข้อ (๑) ให้ดำเนินการและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ส่วนโครงการตามข้อ (๒) และ (๓) ต้องดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ และดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จตามงวดงานที่กำหนดไว้ในสัญญา หรือไม่ควรเกินวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
994 | ร่างกฎกระทรวง เรื่อง กำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 24/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมแบบรายการบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (ตม.๖) ท้ายกฎกระทรวงกำหนดแบบเอกสารตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และวิธีการขอหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก และการขอกลับเขามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามเดิม พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
995 | รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 (ครั้งที่ 22) | มท | 17/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (ครั้งที่ ๒๒) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปความก้าวหน้างานก่อสร้าง ๑.๑ ผลงานสะสมที่ทำได้ คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๑๐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๓๓ ๑.๒ การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งมอบพื้นที่ที่เหลือทั้งหมด (๑๒-๐-๔๒.๗ ไร่) ให้แก่ผู้รับจ้างแล้วเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ โดยรวมส่งมอบพื้นที่เสร็จเรียบร้อยซึ่งมีจำนวนทั้งหมด ๑๒๓-๑-๕ ๗/๑๐ ไร่ ๑.๓ ปัญหา/อุปสรรคที่สำคัญ คือ ยังมีปัญหาอื่น เช่น การจัดจ้างผู้ออกแบบศึกษาและออกแบบงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ล่าช้า ๒. คณะทำงานติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ มีความเห็นว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ครั้งที่ ๒ ออกไปจำนวน ๔๒๑ วัน ยังไม่สามารถทำให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จได้ อีกทั้งยังมีเหตุให้ผู้รับจ้างขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปได้อีก คือ ปัญหาจากการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา รวมทั้งได้ใช้เวลาในการจัดจ้างผู้ออกแบบระบบ ICT มากกว่า ๖ เดือน และยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้กระทบกับระยะเวลาการทำงานของผู้รับจ้างหลัก [บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)] จึงเห็นควรแจ้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้เร่งรัดการจัดจ้างผู้ออกแบบโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหลักขอสงวนสิทธิ์ในการขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปอีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
996 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.) แทนตำแหน่งที่ว่าง (นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง) | มท | 17/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบราชการในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจาก นายพงศ์โพยม วาศภูติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ มกราคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
997 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... | มท | 10/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ในท้องที่ตำบลบางคู้ ตำบลท่าวุ้ง และตำบลโพตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเพิ่มประเภทโรงงานในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เช่น โรงงานประเภท ๑๐๑ ปรับคุณภาพของเสียรวม โรงงานประเภท ๑๐๕ โรงงานคัดแยก ฝังกลบสิ่งปฏิกูล โรงงานประเภท ๑๐๖ โรงงานนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมือง ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนและปริมาณการใช้น้ำในพื้นที่ รวมทั้งการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
998 | โครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาขอนแก่น - น้ำพอง และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพัทยา - แหลมฉบัง - ศรีราชา ปี 2559 | มท | 10/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนินโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาขอนแก่น-น้ำพอง และ กปภ. สาขาพัทยา-แหลมฉบัง-ศรีราชา วงเงินลงทุนรวม ๕,๖๒๑.๑๒๙ ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยใช้เงินกู้ภายในประเทศเต็มวงเงินโครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประปาและขยายเขตการให้บริการน้ำประปาให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอและทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปภ. ขอบรรจุโครงการฯ ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี ๒๕๖๐ ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ อาทิ การให้ กปภ. หารือแนวทางการระดมทุน (การกู้เงิน) กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะตามระเบียบและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสานงาน ติดตาม และประเมินผลการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายภายใต้กรอบวงเงินลงทุนที่กำหนด การศึกษารูปแบบและแนวทางการจัดหาแหล่งเงินทุนอื่น การใช้เงินรายได้ชำระคืนการกู้เงิน การควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการโครงการฯ การจัดทำและดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นอย่างเคร่งครัด การจัดทำแผนการใช้น้ำตามข้อตกลงกับกรมชลประทาน การเร่งประสานการขอใช้ที่ดินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจน การศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีระบบการผลิตให้สามารถรองรับกับคุณภาพน้ำที่เสื่อมโทรมได้มากขึ้น หรือมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำดิบก่อนเข้าสู่ระบบ การศึกษาแนวทางให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการประปา นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อบูรณาการบริหารจัดการแผนปฏิบัติการรองรับปริมาณน้ำเสียที่จะเกิดขึ้น การวางแผนและกำกับดูแลการดำเนินโครงการโดยเคร่งครัดเพื่อให้การลงทุนโครงการฯ เป็นไปตามแผนการกู้เงิน ตลอดจนมีการดำเนินงานโดยโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการน้ำประปาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านน้ำอื่น ๆ ผลักดันให้มีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ในการพิจารณาการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำให้ชัดเจน โดยมีการบูรณาการโครงการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
999 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย - มาบข่า จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย - มาบข่า จังหวัดระยอง พ.ศ. 2555) | มท | 04/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๕ ในที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เพื่อเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยบางส่วน และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรมบางส่วน เป็นที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า และแก้ไขเพิ่มเติมรายการประกอบแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายกฎกระทรวงของที่ดินประเภทดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับข้อกำหนดของกฎกระทรวงฯ มีการใช้บัญชีกำหนดประเภทและจำพวกโรงงานท้ายกฎกระทรวงบังคับใช้ผังเมืองรวม/เมือง/ชุมชน ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘) ให้ยกเลิกการใช้บัญชีกำหนดประเภทและจำพวกโรงงานท้ายกฎกระทรวงบังคับใช้ผังเมืองรวม/เมือง/ชุมชน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม และในการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเภท เมื่อมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละบริเวณแล้ว ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมืองด้วย นอกจากนี้ การใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน และกรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ควบคุม บังคับ และอนุญาตการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมืองรวมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เว้นว่าง พื้นที่กันชน และที่ตั้งของพื้นที่อุตสาหกรรม รวมทั้งการอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1000 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังกะพี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | มท | 04/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังกะพี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับเมืองรวมชุมชนวังกะพี้ ในท้องที่ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเพิ่มประเภทโรงงานในร่างกฎกระทรวงฯ และเพิ่มประเภทโรงงาน เช่น โรงงานประเภท ๑๐๑ ปรับคุณภาพของเสียรวม โรงงานประเภท ๑๐๕ โรงงานคัดแยก ฝังกลบสิ่งปฏิกูล โรงงานประเภท ๑๐๖ โรงงานนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินริมฝั่งแม่น้ำลำคลองหรือแหล่งน้ำสาธารณะอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการรุกล้ำลำน้ำ รวมทั้งที่เว้นว่างตามแนวขนานลำน้ำเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมีประสิทธิภาพ สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและรองรับการขยายตัวของเมืองได้อย่างดี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|