ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 691 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 13801 - 13820 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13801 | ตราสัญลักษณ์โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล (1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ) | ศธ | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อพัฒนาโรงเรียนในท้องถิ่นระดับตำบลให้เป็น “โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล” มีความเข้มแข็งทางวิชาการและมีความพร้อมในการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม งานอาชีพ และสุขภาพอนามัย สามารถให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนและชุมชน (๒) เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม สำหรับนักเรียนในท้องถิ่นชนบท และ (๓) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างโรงเรียน ชุมชน และหน่วยงานอื่น ๆ พร้อมทั้งกำหนดตราสัญลักษณ์โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล
|
|||||||||||||||||||||||||||
13802 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561) | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติในชั้นกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว อันช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศบรรลุผลสัมฤทธิ์ ๒.๑ มอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการพิจารณาเพิ่มเติมสัดส่วนของผู้แทนคณะรัฐมนตรีในคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ จาก “ไม่เกินหนึ่งในห้าของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมด” เป็น “กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมด” ๒.๒ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปเพื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วน พร้อมแจ้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
13803 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13804 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13805 | ร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13806 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 4 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | คค | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางรถไฟทางคู่เลี่ยงเมืองที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และเพื่อให้การก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท รย. ๒๐๑๕ ได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าไข่ และตำบลหน้าเมือ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๓. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๔. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง และตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13807 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 4 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | คค | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางรถไฟทางคู่เลี่ยงเมืองที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และเพื่อให้การก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท รย. ๒๐๑๕ ได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าไข่ และตำบลหน้าเมือ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๓. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๔. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง และตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13808 | ร่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13809 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 4 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง และตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | คค | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางรถไฟทางคู่เลี่ยงเมืองที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และเพื่อให้การก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท รย. ๒๐๑๕ ได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าไข่ และตำบลหน้าเมือ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๓. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๔. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง และตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13810 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13811 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
13812 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561)] | นร | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
13813 | การรายงานผลการดำเนินงานการส่งเสริมเกียรติภูมิ ภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลกด้วยมิติทางวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | วธ | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานการส่งเสริมเกียรติภูมิ ภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลกด้วยมิติทางวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับประชาชน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินงานรวม ๑๘๔ กิจกรรม ใน ๔๔ ประเทศ เช่น การถวายคัมภีร์พระมาลัยฉบับปริวรรตแล้วแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก การจัดงานศิลปะการแสดงพื้นบ้าน “สานสัมพันธ์ไทย-จีน” ณ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน และโครงการเผยแพร่ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน (ลิเก) ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และการจัดโครงการวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูต เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกวัฒนธรรมและศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13814 | รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี ครั้งที่ 3 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และคณะ | พม | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และคณะ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าร่วมพิธีเปิดและการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี ครั้งที่ ๓ โดยมีผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียน ๑๐ ประเทศ เข้าร่วมการประชุม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามของรัฐบาลไทยในหัวข้อ “การคุ้มครองทางสังคมแก่สตรีและเด็กหญิง” โดยนำเสนอผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพบุคคลในประเทศไทยซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมทั้งนำเสนอความก้าวหน้าในการคุ้มครองทางสังคมแก่ผู้หญิงและเด็กหญิงในทุกช่วงวัย โดยการผลักดันกฎหมาย และการกำหนดมาตรการเพื่อช่วย นอกจากนี้ รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะจากทุกประเทศได้มีการรับรองถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี ครั้งที่ ๓ ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหัวหน้าคณะผู้แทนจาก ๑๐ ประเทศอาเซียน เดินทางไปยังสภาแห่งชาติเวียดนาม เพื่อเข้าพบประธานสภาแห่งชาติเวียดนามและรับฟังการนำเสนอเกี่ยวกับบทบาทสตรีทางการเมืองของเวียดนาม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พบปะเยี่ยมเยียนตัวแทนผู้หญิงไทยที่พำนักอยู่ในเวียดนาม โดยได้สอบถามเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ การรวมกลุ่มและการติดต่อสื่อสารระหว่างกันเพื่อช่วยเหลือกันของชาวไทย รวมถึงปัญหาการใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนของชาวไทยในเวียดนามและช่องทางการขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต และช่องทางการช่วยเหลืออื่น ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13815 | ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางบริหารในเรื่องทางศุลกากร | กค | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขร่างความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางบริหารในเรื่องทางศุลกากร ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงฯ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ โดยกระทรวงการคลังและฝ่ายเนเธอร์แลนด์ได้เห็นชอบร่วมกันเพื่อปรับปรุงถ้อยคำของร่างความตกลงฯ ก่อนการลงนาม และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ ได้แก่ (๑) แก้ไขการอ้างถึงเดือนของข้อมติเรื่อง ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกของห่วงโซ่อุปทานทางการค้าระหว่างประเทศขององค์การศุลกากรโลกในส่วนของอารัมภบท จาก “เดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๐๐ และเดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๐๒” เป็น “เดือนมิถุนายน ค.ศ. ๒๐๐๐ และเดือนมิถุนายน ค.ศ. ๒๐๐๒” และ (๒) ปรับตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและคำร้องของเนเธอร์แลนด์เพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับส่วนอื่น ๆ ของร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ความตกลงฯ จะมีผลใช้บังคับภายหลังจากที่ภาคีคู่สัญญาได้แจ้งแต่ละฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการทูตว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายภายใน เพื่อให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13816 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 | ทส | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๗ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. การดำเนินคดีหมายเลขดำที่ อ.๖๐๔/๒๕๕๖ ระหว่างสมาคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ ๑ กับพวก รวม ๓ คน ผู้ฟ้องคดีกับคณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี กรณีใช้อำนาจไม่ถูกต้องในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐ ๒. การทบทวนมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติกรณีรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ๓. ร่างกฎกระทรวงการขอ และการออกใบอนุญาต เป็นผู้มีสิทธิทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม [กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๕๑/๔] ๔. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การแต่งตั้ง การพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ การประชุมและวิธีพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบความผิด [กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๑๑๐/๑] ๕. แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๖. กลไกการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ ๗. ร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM25 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
|||||||||||||||||||||||||||
13817 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 36 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง [36th ASEAN Ministers on Energy Meeting (36th AMEM) and its Associated Meetings] ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ | พน | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง [36th ASEAN Ministers on Energy Meeting (36th AMEM) and its Associated Meetings] ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประธานการประชุม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไทยเป็นรองประธาน ซึ่งผลการประชุม 36th AMEM ประกอบด้วยประเด็นในด้านนโยบายและแผนพลังงาน ด้านประสิทธิภาพและการอนุรักษ์พลังงาน ด้านพลังงานทดแทน ด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อประชาชน ด้านเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ด้านโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และด้านโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน สำหรับการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียน+๓ ด้านพลังงาน ครั้งที่ ๑๕ (15th AMEM+3) การประชุมรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านพลังงาน ครั้งที่ ๑๒ [12th East Asia Summit Energy Ministers Meeting (12th EAS EMM)] และการหารือทวิภาคี เช่น การประชุมหารือทวิภาคีกับทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (The International Energy Agency : IEA) การประชุมหารือทวิภาคีกับทบวงพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (The International Renewable Energy Agency : IRENA) การประชุมหารือทวิภาคีกับสถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก (Economic Research Institute for ASEAN and East Asia : ERIA) และการประชุมหารือพหุภาคีระหว่าง ๓ ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และไทย เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13818 | รายงานสรุปผลการเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Green Industry Conference (GIC) ครั้งที่ 5 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมจากการเยือนประเทศไทยของผู้อำนวยการใหญ่ UNIDO | อก | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Green Industry Conference (GIC) ครั้งที่ ๕ ภายใต้หัวข้อ “อุตสาหกรรมสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมจากการเยือนประเทศไทยของผู้อำนวยการใหญ่องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization : UNIDO) ระหว่างวันที่ ๓-๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร โดยกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงพิธีเปิดการประชุมฯ ได้แก่ การกล่าวปาฐกถาเปิดการประชุม การแลกเปลี่ยนแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและ UNIDO และการเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในประกาศเจตนารมณ์ร่วม (Joint Declaration) ระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและ UNIDO นอกจากนี้ ยังมีการหารือทวิภาคีระหว่างผู้อำนวยการใหญ่ UNIDO กับผู้บริหารระดับสูงของไทย เช่น การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่ง UNIDO แสดงความสนใจที่จะร่วมมือเกี่ยวกับการริเริ่มโครงการ Inno-space network และความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงไปสู่อนุภูมิภาคเพื่อพัฒนา SMEs ผ่านการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดย UNIDO มีนโยบายสนับสนุนความร่วมมือแบบใต้-ใต้ และยินดีแบ่งปันความชำนาญกับไทยในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่ง UNIDO ประสงค์จะริเริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาโรงงานผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กในพื้นที่ชนบท และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมทั้งการเข้าเยี่ยมชมศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) สาขากรุงเทพฯ ของผู้อำนวยการใหญ่ UNIDO และคณะ ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอข้อริเริ่มความร่วมมือกับ UNIDO เช่น ให้ UNIDO รวบรวมแนวทางการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรม ๔.๐ จากประเทศต่าง ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเป็นแนวทางปฏิบัติให้ประเทศสมาชิก และการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการออกแบบแนวทางการดำเนินการด้านอุตสาหกรรม ๔.๐ ในบริบทของไทย เป็นต้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13819 | รายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 20 [20th ASEAN Socio - Cultural Community (ASCC) Council Meeting] ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ | พม | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๒๐ [20th ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Council Meeting] ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และคณะ ระหว่างวันที่ ๒-๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยที่ประชุม ASCC รับทราบรายงานของประธานการประชุมคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๒๕ (25th Senior Officials Committee for the ASCC : SOCA) เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในปี ๒๕๖๑ เช่น การพิจารณาทบทวนความถี่ของการจัดประชุม ASCC การรับรองสถานะเครือข่ายผู้ใจบุญแห่งเอเชีย [Asia Philanthropy Circle (APC)] การผลักดันปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยวัฒนธรรมการป้องกันเพื่อมุ่งไปสู่สังคมแบบสันติ ครอบคลุม เข้มแข็ง และกลมเกลียว การกำหนดรูปแบบใหม่ของการจัดประชุมประสานงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Coordinating Conference on the ASCC : SOC-COM) การจัดส่งเจ้าหน้าที่ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนไปประจำการ ณ สำนักงานคณะผู้แทนถาวรประจำอาเซียน และการประชุม ASCC อย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับแผนแม่บทอาเซียน ๒๐๒๕ เพื่อบูรณาการสิทธิคนพิการ เป็นต้น รวมทั้งรับทราบความก้าวหน้าของเอกสารผลลัพธ์สำคัญที่จะเสนอต่อผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๓๓ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ซึ่งจะมีเอกสารที่เสนอเพื่อรับรอง จำนวน ๖ ฉบับ เช่น ปฏิญญาอาเซียนเกี่ยวกับการส่งเสริมงานสีเขียวเพื่อความเท่าเทียมและการเติบโตแบบมีส่วนร่วมของประชาคมอาเซียน และปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการรับรองวันเยาวชนอาเซียนเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ เป็นต้น สำหรับการประชุม ASCC .ในครั้งต่อไป (ครั้งที่ ๒๑) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ที่ประเทศไทย และการประชุม ASCC ครั้งที่ ๒๒ จะพิจารณาจัดต่อเนื่องกับการประชุมสุดยอดอาเซียนในปลายปี ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
13820 | ข้อสังเกตของกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย พ.ศ. .... | สว | 18/12/2561 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย พ.ศ. .... ซึ่งเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเร่งรัดกระบวนการให้เปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทยในกรุงเทพมหานคร เห็นควรแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรากฎหมายฉบับนี้ อีกทั้งทำความเข้าใจกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงถึงการที่ประเทศไทยจะเร่งรัดการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรและตราอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีในหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้สอดคล้องและครอบคลุมเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... ที่จะมีการประกาศใช้ รวมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศหามาตรการรองรับในทางปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประเทศไทยในช่วงแรกก่อนที่จะมีการแก้ไขและจัดทำพระราชบัญญัติและอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนควรเร่งรัดการจัดทำคู่มือการกำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ และคำแปลศัพท์ภาษาต่างประเทศสำหรับใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันตามข้อสังเกตในการให้ความเห็นชอบพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของกรรมาธิการฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
.....