ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 333 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 6641 - 6660 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 6641 | ผลการสรรหากรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์) | สขค | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
จำนวน ๑ คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์
ตามที่คณะกรรมการการสรรหาได้คัดเลือกไว้แล้ว
แทนรองประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6642 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 15 มิถุนายน 2564 กรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าตามมาตรา 56 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560) | พน. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๕ มิถุนายน
๒๕๖๔ กรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าตามมาตรา ๕๖ วรรคสอง
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐)
และเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติกระทรวงพลังงานและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015)
ซึ่งปรับแผนใหม่เป็นแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ (PDP
2018) และฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๑ ต่อไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติกระทรวงพลังงานและแผน
PDP 2015 ซึ่งปรับแผนใหม่เป็น PDP 2018
และฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๑ เพื่อให้การดำเนินการตามแผนดังกล่าวมีความต่อเนื่อง
และให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน และแผน PDP ดังกล่าวต่อไปตามที่เห็นสมควร
และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานแจ้งข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้ผู้ร้องเรียนทราบเพื่อประโยชน์สำหรับการใช้สิทธิของผู้ร้องเรียนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๕ (๓) ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6643 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 7 | กต. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๗ จำนวน ๕ ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมฯ
ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ที่เมืองพุกาม สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองเอกสารผลลัพธ์ฯ
ตามที่ประเทศสมาชิกมีฉันทามติ โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ทั้ง ๕ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) แถลงข่าวร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๗ (๒) แถลงการณ์ณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (๓) แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (๔) แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านศุลกากรเพื่อการส่งเสริมการค้าและการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และ (๕)
แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรม
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในระดับรัฐมนตรีระหว่างประเทศสมาชิก
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การบริหารจัดการภัยพิบัติ
การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาระบบศุลกากร
และการร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6644 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2565 เรื่อง (ร่าง) แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566 - 2570 | สกพอ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่
๗ มกราคม ๒๕๖๕ ที่ได้เห็นชอบ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ยกระดับระบบการขนส่งให้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อทั้งทางถนน
ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งและโลจิสติกส์
และสนับสนุนการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะของประชาชนในพื้นที่ EEC รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและประปา
เพื่อรองรับการยกระดับขีดความสามารถของพื้นที่ EEC ให้สามารถรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เมืองใหม่ และกิจกรรมการท่องเที่ยว
ประกอบด้วยโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค จำนวน ๗๗ โครงการ
กรอบวงเงินรวม ๓๓๗,๗๙๗.๐๗ ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโดยภาครัฐประมาณร้อยละ ๕๓
และการลงทุนโดยภาคเอกชน/การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ประมาณร้อยละ ๔๗ โดยหน่วยงานรับผิดชอบโครงการนั้น ๆ
จะดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งงบประมาณจากแหล่งเงินตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ในฐานะหน่วยงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ๒.
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ เช่น (๑) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานภายใต้
แผนปฏิบัติการฯ เห็นควรให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
และ (๒) การพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการฯ
เห็นควรดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6645 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2564 | กค. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทย รอบ ๑๒ เดือน
ปี ๒๕๖๔ ขยายตัวร้อยละ ๓.๒๙ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและคาดการณ์ว่า
ในปี ๒๕๖๕ ธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ ๐.๘๔ ถึง ๒.๘๔ (๒) การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน
คปภ. ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖) และตามนโยบายของรัฐบาล เช่น
พัฒนาเครื่องมือและเพิ่มมิติการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย
ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านการประกันภัย (๓) มาตรการการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ต่อผู้เอาประกันภัย ประชาชน ภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น
มาตรการให้บริษัทสามารถให้ส่วนลดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโควิด-๑๙
และขยายสิทธิให้ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ
(๔) การประเมินผลการดำเนินงานปี ๒๕๖๔ มีค่าคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมอยู่ที่ ๔.๗๐
จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน และ (๕) ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการปี ๒๕๖๔
มีระดับความพึงพอใจมากที่สุดที่ร้อยละ ๙๓.๒๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6646 | ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารฯ สายเฉลิมรัชมงคล สายฉลองรัชธรรม และอัตราค่าโดยสารร่วม รวม 3 ฉบับ | คค. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานว่า
เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระประชาชนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจในปัจจุบันตามนโยบายรัฐบาลกระทรวงคมนาคมจะไปเจรจากับ
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เพื่อชะลอการใช้อัตราค่าโดยสารใหม่สายฉลองรัชธรรม
(สายสีน้ำเงิน) ออกไปก่อน โดยให้คงอัตราค่าโดยสารไว้ราคาเดิมจนถึงวันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๕ และจะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ๒. เห็นชอบในหลักการ ๒.๑ ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร
และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารการรถไฟฟ้ามหานคร
สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามวิธีการในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โดยอัตราค่าโดยสารใหม่จะมีอัตราเริ่มต้นที่ ๑๗ บาท สูงสุด ๔๓ บาท โดยสถานีที่ ๖ , ๙,
๑๑ และ ๑๒ ขึ้นไป จะมีอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ๑ บาท
อีกทั้งยังกำหนดให้คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย อาจประกาศกำหนดผลิตภัณฑ์ของตั๋วโดยสาร
เพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาล
หรือเพื่อประโยชน์อื่นใด ๒.๒
ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร
วิธีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร
และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารการรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับให้สอดคล้องกับรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชมงคล โดยไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสาร ๒.๓
ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารใหม่ตามวิธีการในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
และกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมให้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายอื่น รวม ๓ ฉบับ
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขร่างข้อบังคับตามข้อ ๒.๓
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
เพื่อให้การดำเนินการตามร่างข้อบังคับดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ควรมีมาตรการส่งเสริมการใช้บริการ เช่น การจัดโปรโมชั่น ตั๋วรายเดือน ตั๋วเป็นชุด
พิจารณากำหนดในรูปแบบการให้ส่วนลดค่าโดยสารและยกเลิกการจัดสวัสดิการรถรับ-ส่งพนักงานควบคู่กันไปด้วย
พร้อมทั้งเร่งพิจารณาจัดทำแผนเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชธรรม ภายใต้ขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6647 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กห. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ (16th ASEAN Defence Ministers’
Meeting : 16th ADMM) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีกระทรวงกลาโหมราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
และฝ่ายไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เป็นหัวหน้าคณะและผู้รับรองร่างเอกสารผลลัพธ์จำนวน ๘ ฉบับ ซึ่งผลการประชุมฯ
มีความคืบหน้าของความร่วมมือในกรอบการประชุม ADMM
ที่เป็นประเด็นคาบเกี่ยวระหว่างเสาและสาขาความร่วมมือของประชาคมอาเซียน
รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศคู่เจรจา
ที่ส่วนราชการสมควรรับทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6648 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2565)] | นร. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. ....
ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6649 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ) | นร.04 | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6650 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์) | ยธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอน นางพงษ์สวาท
กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักนายกรัฐมนตรี ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อให้นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์
รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมอีกตำแหน่งได้ตั้งแต่วันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6651 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) | นร.04 | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง
ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้นายวิศิษฏ์
วิศิษฏ์สรอรรถ
รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งแต่วันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6652 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์) | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานเวชศาสตร์
ภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6653 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารศึกษาในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติแต่งตั้ง
รองศาสตราจารย์สิรี ชัยเสรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านอาหารศึกษา) ในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระเนื่องจากถึงแก่กรรม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน
๒๕๖๕) เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ซึ่งตนแทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6654 | การแต่งตั้งประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (นายปรเมธี วิมลศิริ) | สบร. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปรเมธี
วิมลศิริ เป็นประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6655 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นการปฏิรูปที่ 1 ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา | สว. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประเด็นการปฏิรูปที่ ๑ ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน
ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยและมีความเห็นเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า ประเด็นการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ควรมีการทบทวนกำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าไม้ให้สอดคล้องกับการกำหนดพื้นที่สีเขียวทุกประเภทตามเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(พ.ศ. ๒๕๖๑-พ.ศ. ๒๕๘๐) ประเด็นที่ ๑๘ การเติบโตอย่างยั่งยืน
และในการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติด้วย
ประเด็นการปรับปรุงคุณภาพดิน
ควรจัดทำแผนบูรณาการการปรับปรุงคุณภาพดินและการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ตลอดจนพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน และรัฐบาลควรพิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการบูรณาการของหน่วยงานท้องถิ่นและเกษตรกรในการดำเนินงาน
ประเด็นการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ควรจัดทำแผนการเพาะปลูกโดยการกำหนดโซนนิ่งการเพาะปลูก เพื่อให้ผลผลิตสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ซึ่งจะเป็นการลดภาระรัฐบาลในการประกันราคาผลผลิต
ตลอดจนการส่งเสริมด้านการตลาดโดยวิธีสร้างแรงจูงใจเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6656 | ผลการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 4 | นร.14 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ครั้งที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ เมษายน ๒๕๖๕ ณ เมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น
ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วงพิธีเปิดการประชุมฯ ผ่านระบบวีดิทัศน์แบบถ่ายทอดสด
โดยชื่นชมข้อริเริ่มและความมุ่งมั่นด้านน้ำของญี่ปุ่นในการสร้างสังคมคุณภาพที่มีภูมิคุ้มกัน
ยั่งยืน ครอบคลุม
และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและบูรณาการในทุกมิติ
และสนับสนุนความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ทั้งในระดับพื้นที่จนถึงระดับนโยบายเพื่อการบริหารจัดการที่มั่งคง ยั่งยืน
และสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ๒.
ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญาคุมาโมโตะ ซึ่งเป็นร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสำหรับการบริหารจัดการน้ำในบริบทการฟื้นฟูจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
โดยมีการปรับแก้ถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญ
เพื่อให้มีความครอบคลุมและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
ซึ่งไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๙ เมษายน ๒๕๖๕)
ให้ความเห็นชอบและยังคงประเด็นสำคัญของร่างปฏิญญาฯ จำนวน ๔ ประการ คือ (๑)
ความท้าทายด้านน้ำท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
และการฟื้นฟูจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ (๒)
การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่มุ่งเน้นคุณภาพ (๓) การเร่งรัดการปฏิบัติ และ (๔)
ผลลัพธ์การประชุมฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6657 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่ง ปี 2565 | นร.11 สศช | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่ง ปี ๒๕๖๕
ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสหนึ่ง ปี ๒๕๖๕ เช่น ภาพรวมการจ้างงาน
(๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ ภาวะการณ์เรียนรู้ถดถอย :
โอกาสการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ความท้าทายของตลาดคาร์บอนไทยและประเด็นที่ต้องคำนึงถึง
และ (๓) บทความเรื่อง “สภาพปัญหาการหลอกลวงยุคดิจิทัลและแนวทางแก้ไข” พบผลการศึกษาที่สำคัญ
ได้แก่ คนไทยประมาณครึ่งหนึ่งมีประสบการณ์ถูกหลอกลวงทางโทรศัพท์และข้อความ SMS
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6658 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 | กษ. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ โดยมีมติที่สำคัญ
เช่น (๑) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิดและสำรวจและรายงานสต็อกน้ำมันปาล์มดิบและปริมาณการส่งออกให้ทันต่อสถานการณ์
(๒) เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
ชุดใหม่แทนชุดเดิมที่กำลังจะหมดวาระ (๓) เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มภายใต้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีอธิบดีกรมการค้าภายใน
เป็นประธาน และมีองค์ประกอบจากหน่วยงานรัฐ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน
โดยมีหน้าที่และอำนาจในการวิเคราะห์ด้านการผลิต การตลาด และการกำหนดมาตรการ
และแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสมดุลน้ำมันปาล์มให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำมันปาล์ม
และ (๔) ให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รับผิดชอบเกี่ยวกับข้อร้องเรียนของเกษตรกร เช่น
แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องปุ๋ยราคาแพงและการตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันและต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันปลอม
ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6659 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai | ดศ. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ เมืองดูไบ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์โครงการฯ เช่น
การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศ
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเสริมสร้างและต่อยอดบทบาทที่เข้มแข้งของไทยในเวที
World Expo ทั้งนี้
มีข้อเสนอแนะสำหรับอาคารแสดงประเทศไทยครั้งต่อไป เช่น ควรเสนอให้จัดพื้นที่เพิ่มเติม
ได้แก่ พื้นที่เชิงธุรกิจและพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดนิทรรศการหมุนเวียน
ควรเสนอให้มีการจัดทำคลังข้อมูลการเข้าร่วมจัดงานแสดง World Expo ของไทย
และควรมีการพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการมอบหมายหน่วยงานกลางเพื่อดูแลความต่อเนื่องในเชิงปฏิบัติการสำหรับการร่วมจัดแสดงอาคารแสดงประเทศไทยในทุกครั้ง
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 6660 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2565 และครั้งที่ 2/2565 | นร.52 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๕ และครั้งที่ ๒/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.
เรื่องเพื่อทราบ เช่น (๑) รายงานการตรวจติดตามงานด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ประธาน กพต. (๒)
รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา)
ผ่านโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ตำบลปากบาง อำเภอเทพา
จังหวัดสงขลา และ (๓) การขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รองรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ๒.
เรื่องที่ประชุมรับทราบรายงานการติดตามข้อสั่งการประธาน กพต. เช่น (๑)
การขับเคลื่อนโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผ่านโครงการนำร่อง “๑ ข้าราชการ ๑ ครัวเรือนยากจน” และ (๒)
ความคืบหน้าการช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ๓.
เรื่องเพื่อพิจารณา เช่น (๑)
โครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์หลักสูตรเข้มข้นและเตรียมการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๒) ขออนุมัติหลักการโครงการเสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาเพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
