ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 319 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 6361 - 6380 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6361 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 | สนง. กสม. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในวงกว้างแม้ว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินนโยบายและมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว
แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนหนึ่ง
โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาสได้รับผลกระทบและเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐ
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยสรุปผลในภาพรวมได้ว่า
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6362 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้มีการประกาศและเผยแพร่ในส่วนของหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงาน
ความรู้ ความสามารถ และสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง ๆ ในราชกิจจานุเบกษา
รวมทั้งยังได้เผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
สำนักงานศาลยุติธรรม ด้วยแล้ว และได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลการลงโทษกรณีถูกสั่งลงโทษไล่ออก
ปลดออก ให้ออก หรือกรณีอื่น ๆ ตามมติคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
และมีการรวบรวมประมวลลักษณะการกระทำความผิดและแนวทางการลงโทษให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมเป็นแนวทางในการดำเนินงานหากมีกรณีบุคคลภายนอกขอข้อมูลคัดถ่ายเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าวสามารถดำเนินการคัดถ่ายได้ที่สำนักงานศาลยุติธรรม
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6363 | โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2567 | อก. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM 2.5) ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย
กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล และวิสาหกิจชุมชน
วงเงินปีละ ๒,๐๐๐ ล้านบาท รวม ๖,๐๐๐
ล้านบาท และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับการบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗ ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๗๘๙.๗๕
ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการชดเชยดอกเบี้ยภายในกรอบวงเงินงบประมาณ ๗๘๙.๗๕
ล้านบาท ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดำเนินการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามผลการดำเนินการจริง
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
และให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นลำดับแรก ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการฯ อย่างใกล้ชิด
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ควรมีการนำข้อมูลแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกมาประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ในการปลูกอ้อยและพัฒนาแหล่งงน้ำ
ให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการแหล่งน้ำและเครื่องจักรกลทางการเกษตรในการยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตอ้อย
และควรมีการรายงานผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลดต้นทุนการผลิตของชาวไร่อ้อยและการลดลงของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
ที่สามารถลดได้จากการดำเนินโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6364 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รายการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 อาคาร | ตช. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ รายการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๕ อาคาร เดิม รายการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ แขวงตลาดบางเขน
เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เป็น รายการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ
ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
(พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่างในที่ดินราชพัสดุของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในโครงการเมืองทองธานี)
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการ/แผนงานใด ๆ
ในระยะต่อไปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถือปฏิบัติตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน
๒๕๖๒ (เรื่อง การเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
ที่ให้ส่วนราชการเจ้าของแผนงาน/โครงการตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการนั้น
ๆ อย่างละเอียดรอบคอบ ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อน เช่น
ความพร้อมทางกายภาพของที่ตั้งโครงการ สภาพภูมิศาสตร์ กรรมสิทธิ์ครอบครอง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินโครงการให้เป็นไปตามนัยข้อกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6365 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 12 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 256 - 31 มีนาคม 2565) | นร.04 | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๑๒ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕)
ซึ่งสรุปรายงานดังกล่าวเป็นการรายงานผลการดำเนินงานตาม (๑) นโยบายหลัก ๙ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การทะนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย
การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม เป็นต้น และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๘
เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการคุณภาพชีวิตของประชาชน
การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม การยกระดับศักยภาพของแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6366 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าขนย้าย (ค่าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ) เป็นกรณีพิเศษให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี | กษ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้มีการจ่ายค่าขนย้าย
(ค่าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ)
เป็นกรณีพิเศษให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายกุมภวาปี
จังหวัดอุดรธานี ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าขนย้าย จำนวน ๒๒๒ แปลง เนื้อที่ ๔,๔๘๓-๒-๙๗ ไร่
ตามหลักการของมติคณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๒ โครงการฝายกุมภวาปี
ที่กำหนดให้จ่ายเงินค่าขนย้ายให้แก่ราษฎรที่ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ได้รับผลกระทบในเขตพื้นที่อ่างเก็บน้ำในอัตราราคาสูงสุดไร่ละ
๕๐,๐๐๐ บาท และราคาต่ำสุดไร่ละ ๑๐,๐๐๐
บาท สำหรับการช่วยเหลือในส่วนเพิ่มเพื่อให้เหมาะสมตามสถานะและสภาพของที่ดินนั้น
ให้ใช้แนวทางการพิจารณากำหนดจำนวนเงินตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรเป็นรายปีงบประมาณ
ตามความเหมาะสมเท่าที่จำเป็นแล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ในส่วนของการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าขนย้ายตามข้อ
๑ ให้รอบคอบ ถูกต้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม
๒๕๖๔ (เรื่อง
แนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล)
ที่เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามแนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยไม่ควรกำหนดให้คณะกรรมการที่จัดตั้งตามคำสั่งของฝ่ายบริหารนั้นทำงานปกติประจำ
รวมทั้งให้พิจารณากำหนดวิธีการจ่ายเงินค่าขนย้ายให้แก่ราษฎรตามหลักเกณฑ์และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าขนย้ายที่ถูกต้อง
ครบถ้วน ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น ควรเร่งกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐ
ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบและครบถ้วน
เพื่อให้การจ่ายเงินค่าขนย้ายทำได้ในครั้งเดียว และไม่เกิดปัญหาเช่นในโครงการอื่น
ๆ ที่ผ่านมา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6367 | รายงานข้อร้องเรียนของขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน | นร.04 | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) รายงานว่า กลุ่มกระบวนการต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนที่ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอให้พิจารณายกเลิกการเสนอร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรแสวงหากำไร
พ.ศ. .... โดยมีข้อเรียกร้องเบื้องต้น ดังนี้ ๑.๑
ให้มีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร
พ.ศ. .... ที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยทันที
และยุติการเสนอกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ ๑.๒
ให้ทำข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร
พ.ศ. .... และกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับอีก ๑.๓ ให้การรับรองว่าจะไม่มีผู้ใดตกเป็นเป้าหมายการถูกคุกคาม
การใช้ความรุนแรง ถูกจับคุมขัง
หรือถูกตั้งข้อหาต่อการที่ประชาชนใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุมและสดงออกโดยสันติ คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
การเสนอร่างกฎหมายมีกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว
และโดยที่ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมายตามนัยมาตรา
๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ สมควรมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนและดำเนินการให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนโดยเร็วต่อไป ๒.
มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้เรียกร้องและประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อเร่งดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร
พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จเพื่อให้ได้แนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6368 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร | กษ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) จ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเขื่อนน้ำอูน
จังหวัดสกลนคร เฉพาะในส่วนราษฎรที่ตกค้างยังไม่เคยได้รับเงิน จำนวน ๒๙๕ ราย รายละ
๑๕ ไร่ ในอัตราไร่ละ ๑๐,๐๐๐ บาท
ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่เคยจ่ายให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการนี้ไปแล้วจำนวน
๒,๒๘๕ ราย
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ในส่วนของการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงินตามข้อ
๑ ให้รอบคอบ ถูกต้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม
๒๕๖๔ (เรื่อง
แนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล)
โดยไม่ควรกำหนดให้คณะกรรมการที่จัดตั้งตามคำสั่งของฝ่ายบริหารนั้นทำงานปกติประจำ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เช่น ควรเร่งกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐ
การอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามระเบียบ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามระเบียบกฎหมายให้ถูกต้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6369 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สมัยที่ 15 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ สมัยที่ 10 และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน สมัยที่ 10 ในรูปแบบ face-to-face | ทส. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6370 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเชิง จังหวัดสุรินทร์ | กษ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6371 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านทำนบ จังหวัดสุรินทร์ | กษ. | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในการให้ความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านทำนบ
จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๖๔ แปลง เนื้อที่ ๕๑๒-๑-๕๖ ไร่
เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยา
และบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการชลประทานของรัฐ
สำหรับอัตราค่าชดเชยที่จะต้องจ่ายนั้น
เห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาตามหลักการที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นชอบไว้ในการประชุมคณะทำงานตรวจสอบพิสูจน์สิทธิย้อนหลังและแสวงหาราคาค่าทดแทน
โดยกรณีการจ่ายเงินทดแทนค่าขนย้าย (ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์)
เป็นการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาความเสียหายตามหลักมนุษยธรรม
ไม่ใช่การจ่ายเงินทดแทนค่าที่ดิน
จึงไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยโดยใช้ราคาซื้อขายที่ดินมาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคา
โดยเห็นควรใช้แนวทางการพิจารณากำหนดจำนวนเงินตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อมิให้มีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าที่รัฐได้เคยจ่ายชดเชยสำหรับที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์
อันจะนำไปสู่กรณีกลุ่มราษฎรจะมาเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินชดเชยในลักษณะเดียวกันตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๒ ดังกล่าว
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม .ถูกต้อง เป็นธรรม
และสอดคล้องกับข้อเท็จจริง ครอบคลุมในทุกมิติอย่างรอบคอบตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
รวมทั้งรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
ควรเร่งกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐ
เร่งดำเนินการจ่ายค่าทดแทนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการโดยเร็วและเป็นธรรม การขออนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าชดเชยให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิและจำนวนค่าชดเชย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6372 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | นร.04 | 30/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน ๕ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. จ่าเอก ยศสิงห์
เหลี่ยมเลิศ ๒. สิบเอก คิมหันต์
ตลับนาค ๓. นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ๔. นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ๕. นายอานนท์ แสนน่าน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6373 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (1. นายประกิต วาทีสาธกกิจ ฯลฯ จำนวน 9 ราย) | สธ. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ
จำนวน ๙ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณาสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการแพทย์ ๒. นางนันทวรรณ วิจิตรวาทการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านการสาธารณสุข ๓. นายปกป้อง ศรีสนิท กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ๔. นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการคุ้มครองสิทธิสตรีหรือสิทธิเด็ก ๕. นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ๖. นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
จากองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์มิใช่เป็นการแสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน ๗. นายสมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์มิใช่เป็นการแสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน ๘. นายอิสรา ศานติศาสน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
จากองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์มิใช่เป็นการแสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน ๙. นางฐาณิษา สุขเกษม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
จากองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์มิใช่เป็นการแสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6374 | รายงานประจำปี 2564 ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา | กสศ. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
๒๕๖๔ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานของ กสศ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่สำคัญ เช่น มาตรการเร่งด่วนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
โดยให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่นักเรียนในครอบครัวยากจนพิเศษกลุ่มช่วงชั้นรอยต่อของระดับการศึกษา
(อ. ๓, ป. ๖ และ ม. ๓)
ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดจากระบบการศึกษา โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
โดยการช่วยเหลือเด็กปฐมวัย
เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาโดยดำเนินการในระดับพื้นที่ผ่านต้นแบบและการทำงานใหม่ๆ
เป็นต้น และ (๒) รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของ กสศ. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6375 | รายงานความก้าวหน้าของมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. 2561 - 2570 | อก. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าของมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย
ปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ ถึงปัจจุบัน
และสรุปประเด็นปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานภายใต้มาตรการฯ
ประกอบด้วย
มาตรการขจัดอุปสรรคการลงทุนและสร้างปัจจัยการสนับสนุนมาตรการเร่งรัดการลงทุนภายในประเทศ
มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และมาตรการสร้างเครือข่ายในรูปแบบของศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านชีวภาพ
และ (๒) ปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงาน เช่น
การกระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพยังไม่สามารถผลักดันให้เกิดผลในวงกว้างได้มากเท่าที่ควร
การลงทุนของภาคเอกชนไม่เป็นไปตามแผนการเนื่องจากสถานการณ์โควิด-๑๙ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ที่ไม่เอื้อต่อการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมชีวภาพในประเทศ
และปริมาณเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ผลิตทั่วไปทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมชีวภาพ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6376 | รายงานประจำปี 2564 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ศธ. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๔ ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(สสวท.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานของ สสวท. ประจำปี ๒๕๖๔ ใน ๕
ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ๑) การพัฒนาหลักสูตร สื่อ และกระบวนการจัดการเรียนรู้
ที่เน้นการปฏิบัติการและการสร้างความเข้าใจในระดับที่เหมาะสมกับหนักเรียนแต่ละกลุ่มโดยใช้เทคโนโลยีต่าง
ๆ ๒) การขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และเทคโนโลยีและสถานศึกษา ผ่านเครือข่าย สสวท. ให้มีคุณภาพทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ
๓) การขับเคลื่อนกระบวนการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
ให้เน้นความเข้าใจลงมือปฏิบัติการ และสามารถนำไปใช้จริงทั้งในและนอกระบบตามแนวทาง
สสวท. ๔) การเร่งรัดพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อเป็นกำลังใจในการพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรมตามนโยบายของประเทศไทย ๔.๐ และ ๕) การส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพิ่มการยอมรับ สสวท. ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีของเยาวชนให้ทันสมัย และ (๒)
รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของ สสวท. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6377 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการถมทะเลตามโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการถมทะเลตามโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ๑) การแก้ไขและป้องกันผลกระทบต่ออาณาเขตทางทะเลกรมอุทกศาสตร์ทำหน้าที่ให้บริการด้านการเดินเรือ
แผนที่เดินเรือ บรรณสารการเดินเรือต่าง ๆ
รวมถึงการปรับปรุงแผนที่การเดินเรือให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน
และมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ
เพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาร่วมลงทุนให้ถูกต้องและครบถ้วน และ ๒)
การแก้ไขและป้องกันปัญหาผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งทะเล
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เอกชนคู่สัญญาและผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามมาตรการฯ
และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6378 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 และวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565) | ปสส. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ และวันจันทร์ที่
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕
ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง)
วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6379 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พ.ศ. .... | กค. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ รวม ๔ ชนิด ได้แก่ ๑)
เหรียญกษาปณ์ทองคำ ชนิดราคาสองหมื่นบาท ๒) เหรียญกษาปณ์เงิน ชนิดราคาหนึ่งพันบาท
๓) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทขัดเงา และ
๔) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท ประเภทธรรมดา
เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม
๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยกระทรวงการคลังแก้ไขถ้อยคำในบัญชีท้ายกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
จากเดิม “... “สก” ภายใต้มงกุฎขัตติยราชนารี ...” เป็น “... “ส.ก.”
ภายใต้พระมหามงกุฎ ...” และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6380 | รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ประจำปี 2563 - 2564 | กก. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ ซึ่งประกอบด้วย
(๑) สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยและของโลก เช่น
สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ และแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
และ (๒) ผลการดำเนินงานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ
ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ เช่น การจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕)
การประกาศเขตการพัฒนาการท่องเที่ยวและการปรับปรุงมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติจัดทำรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งชาติตั้งแต่ปี
๒๕๖๕ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๑๔ (๘)
แห่งพระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
|