คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมติคณะกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ 
ของเอกชน ตามคำสั่งคณะปฏิรูประบบการปกครองแผ่นดิน (ปร.37) ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่ง  
ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท ใช้อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลล้อปเมนต์ จำกัด ขายและขนย้ายผลิตภัณฑ์โดยการส่งออก
ไปนอกราชอาณาจักรให้กับบริษัทต่าง ๆ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการพิจารณามาตรฐานการ 
ศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก  :  ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  4
มกราคม  2543  สรุปได้ว่า  กระทรวงศึกษาธิการได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมพิจารณาเกี่ยวกับ 
การเพิ่มมาตรฐานการศึกษา ฯ จาก 10 มาตรฐาน เป็น  14  มาตรฐาน และปรับตัวบ่งชี้ของมาตรฐานให้ 
ชัดเจนทั้งจำนวนและระดับคุณภาพ  รวมทั้งพัฒนาเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณภาพภายนอกเพื่อให้สอด 
คล้องกับมาตรฐานมากขึ้น

             รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการปกครองพิจารณารายงานผลการพิจารณา 
ศึกษาญัตติที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง  ของสภาผู้แทนราษฎร  ซึ่งจากผลการศึกษาสภาพปัญหาภัยแล้ง   
ทั้งที่เกิดจากข้อเท็จจริงและที่เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ เห็นควรที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้อง   
ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแผนการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 
รวมทั้งแผนการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม   โดยเฉพาะนโยบาย  มาตรการและ 
แผนงานในระยะสั้นและระยะยาว  มาตรการและแนวทางในการกำหนดวิธีบริหารงบประมาณ  การพิจารณาจัดตั้ง 
องค์กรระดับกระทรวงให้มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำโดยเฉพาะ  การรีไซเคิล  รวมถึงผลการ  
สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องน้ำทั้ง 75 จังหวัด ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ และมอบให้   
กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม  กระทรวงสาธารณสุข 
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม  ทบวงมหาวิทยาลัย  สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  สำนักงบ   
ประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ  แล้วแจ้ง 
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป


   

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติในหลักการร่างมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพ 
ภายนอกสำหรับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 27 มาตรฐาน 91 ตัวบ่งชี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพ 
การจัดการศึกษาของสถานศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก กับให้ใช้   
มาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอกสำหรับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน  10  มาตรฐาน  ที่มี  
ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ   เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางและหลักในการเทียบเคียงสำหรับการประเมินคุณภาพ   
ภายนอกในรอบแรก  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกโรงเรียน (สกศ.) เสนอ   โดยให้กระทรวง 
ศึกษาการรับไปพิจารณารายละเอียดร่วมกับทบวงมหาวิทยาลัย   สกศ.   และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา  
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วเสนอผลการพิจารณาต่อสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ
การศึกษาภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ให้รายงานคณะรัฐมนตรีทราบด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวง 
การคลัง เรื่อง การจ่ายเงินค่าชดเชยกรณีพิเศษให้พนักงานขององค์การอุตสาหกรรมห้องเย็น โดยให้เบิกจ่ายเงิน   
ชดเชยจากบัญชีเงินฝากขององค์การ ฯ ที่มีอยู่ ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2542 เป็นเงินทั้งสิ้น 28.8 ล้านบาท เป็นเงิน  
ในบัญชีเงินฝากกองทุนบำเหน็จขององค์การ ฯ จำนวนเงิน 14.7 ล้านบาท   และจากบัญชีเงินฝากซึ่งเป็นเงินทุน   
หมุนเวียนอันเป็นผลมาจากการดำเนินงานขององค์การ ฯ จำนวน 14.1 ล้านบาท  สำหรับเงินค่าชดเชยที่ใช้จ่าย  
ให้พนักงานเป็นกรณีพิเศษอีก 6 เท่าของอัตราเงินเดือนดังกล่าว ให้ใช้งบประมาณ จำนวน 1 3.8  ล้านบาท   ซึ่ง 
สามารถเบิกจ่ายได้จากเงินในบัญชีผลการดำเนินงานขององค์การ ฯ  ณ  วันที่ 2 ธันวาคม 2542   ที่มีอยู่จำนวน 
14.1 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของระบบอุตสาหกรรม 
อ้อยและน้ำตาลทราย   และรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2541/ 
42  กับเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับที่ .. พ.ศ. 2542  เรื่อง  หลักเกณฑ์และวิธี 
การเกี่ยวกับการจัดทำประมาณการรายได้ ฯ  และการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43   รวมทั้ง  
เห็นชอบในหลักการให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายทำการกู้ยืมเงิน เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย  
เพื่อเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2542/43 ให้กับชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำ  
ตาลทรายพิจารณากำหนดต้นทุนการผลิตอ้อยฤดูการผลิตปี 2542/43  ให้ชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา 
วงเงินและอัตราต่อตันในการให้กู้ยืมเงินแก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับเกษตรกรชาวไร่ 
อ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้จำหน่ายกิจการองค์การแก้วให้กับบริษัทบวรกิจร่วมทุน (1992) จำกัด   
เป็นเงิน 175 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า หนี้สินระหว่างองค์การ ฯ กับบริษัทบวรกิจ ฯ ให้เป็นไปตามสัญญาที่  
ทำกันไว้เดิม  และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การแก้ว พ.ศ. ....  (ยุบเลิกองค์การแก้ว และ 
กำหนดวิธีการจัดทรัพย์สิน  ตามมาตรา 6  แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐ พ.ศ. 2496) 
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อ  
ไปได้  สำหรับเงินบำเหน็จและค่าชดเชยพนักงานองค์การ ฯ  ส่วนที่ขาดอยู่ประมาณ  150  ล้านบาท ให้องค์  
การ ฯ กู้เงินจากธนาคารออมสิน โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันและให้นำเงินจากกองทุนสำหรับพนักงาน   
ที่ได้รับผลกระทบจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาชดใช้ให้ต่อไป  ในกรณี ณ วันที่ยุบเลิกกิจการองค์การ ฯ ได้มี  
การจัดตั้งกองทุน ฯ ดังกล่าวขึ้นแล้ว ให้จ่ายเงินค่าชดเชยส่วนที่ขาดดังกล่าวจากเงินกองทุน ฯ  ตามความเห็น 
ของคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและกระทรวงการคลัง

             

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท 
ใช้อินเตอร์เนชั่นแนลดีเวลล้อปเมนต์ จำกัด  ขายและขนย้ายผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศมาเลเซีย เป็นเงิน 238,350  
ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเท่ากับ 9,057,300 บาท ตามที่ร้องขอ ประกอบด้วย วัตถุระเบิด EMULSION 
SLURRY TYPE จำนวน 50,000 กิโลกรัม เชื้อปะทุไฟฟ้า จำนวน 200,000 ดอก สายชนวนชนิดธรรมดา จำนวน 
500,000 เมตร และสายชนวนชนิดฝักแคระเบิด จำนวน 200,000 เมตร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาในปัญหาข้อกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  
เรื่อง  สัญญาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายและจ่ายรางวัลสลากบำรุงการกุศลแบบอัตโนมัติ  (ระบบ  On Line)  ของสำนัก  
งานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงการคลังเสนอ และรับทราบตามที่ 
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล)  รายงานเพิ่มเติม  (เกี่ยวกับการให้ส่วนราชการ 
และรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ระงับการเสนอเรื่องเพื่อขอออกสลากงวดพิเศษ  สำหรับการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลาก   
บำรุงการกุศลแบบอัตโนมัติ  (ระบบ On Line)  กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการเพื่อจัดระบบการจำหน่ายสลาก  
กินแบ่งรัฐบาลทั้งหมด    ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแรงงานคนพิการ นั้น จะมีการออกสลากรูปแบบใหม่ เป็นสลาก 
คนพิการและเป็นรายได้ให้กับแรงงานคนพิการโดยเฉพาะเท่านั้น

              คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งเรื่องโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ
ให้คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการของโครงการเขื่อนที่ยังไม่ได้ดำเนิน
การก่อสร้าง 4 เขื่อน ตามข้อเรียกร้องกลุ่มสมัชชาคนจน พิจารณาเป็นกรณีพิเศษและเร่งสรุปผลการพิจารณาเสนอ 
นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตร ฯ ประสานการดำเนินงานกับคณะ 
กรรมการ ฯ ด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการจำหน่ายกิจการธนาคารนครธน จำกัด 
(มหาชน) (สรุปได้ว่า กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งที่ 156/2542 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2542 แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อ 
พิจารณาคัดเลือกผู้เสนอราคาธนาคารนครธน ฯ โดยมี ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็น ประธานกรรมการ ฯ  
และได้อนุมัติให้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด  จำกัด  เป็นผู้ร่วมทุนในธนาคารนครธน ฯ  ตามผลการพิจารณาของ  
คณะกรรมการ ฯ  โดยให้ซื้อหุ้นของธนาคารนครธน ฯ  จำนวน 525,225,000 หุ้น  เท่ากับร้อยละ  75  ของจำนวน  
หุ้นทั้งหมดในราคา 12,377.25 ล้านบาท  จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน   และจากการ 
ดำเนินการดังกล่าว มีผลทำให้ธนาคารนครธน ฯ   ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด  นครธน  จำกัด 
(มหาชน) สามารถดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งจะเป็นผลดีต่อระบบสถาบันการเงินโดยรวมต่อไป) 

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานผลการพิจารณาร่าง  
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ....  โดยสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติไม่เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ ฯ 
ที่คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว และวุฒิสภาเห็นชอบด้วยแล้ว จึงถือว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้ถูกยับ 
ยั้งไว้ ตามมาตรา 175 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

               คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงบประมาณเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา 
ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543   ซึ่งคณะกรรมาธิการ ฯ  ได้พิจารณาเพิ่ม 
งบประมาณรายจ่ายปี 2543 เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 9,815.6 ล้านบาท  ซึ่งมีรายการที่แตกต่างจากรายการที่คณะ 
รัฐมนตรีเห็นชอบ รวมจำนวน 3,903.7 ล้านบาท โดยรายการที่แตกต่างจากรายการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เป็น 
รายการที่คณะกรรมาธิการ ฯ  พิจารณาเสนอเพิ่มเติมขึ้นเอง  ซึ่งอาจมีปัญหาว่าจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐ 
ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540   และประเพณีปฏิบัติหรือไม่   คณะรัฐมนตรีจึงไม่พิจารณาข้อเสนอใน
เรื่องนี้

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ....  
(ให้มีกฎหมายว่าด้วยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย   โดยปรับปรุงอำนาจหน้าที่ขององค์การรถ 
ไฟฟ้ามหานครให้สามารถดำเนินกิจการรถไฟฟ้าให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น)  ตามที่สำนักนายก  
รัฐมนตรีเสนอ   ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว     และให้ส่งสำนักงานคณะ  
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  โดยให้รับข้อสังเกตขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร สำนักเลขา 
ธิการคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก สมบุญ ระหงษ์) (เกี่ยวกับการ 
แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่กิจการขององค์การรถไฟฟ้า ฯ  เพิ่ม
มาตรการคุ้มครองอุโมงค์ ห้ามการละเล่น เรี่ยไรบนรถ ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายหรือก่อความรำคาญแก่ผู้โดย 
สาร และให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบนรถ  การกำหนดเรื่องการวางเงินค่าทดแทน  การประกาศแนว   
เขตระบบรถไฟฟ้าในราชกิจจานุเบกษา   และการเพิ่มหลักเกณฑ์ที่ห้ามผู้ว่าการเป็นพนักงานของรัฐวิสาหกิจ 
ในเวลาเดียวกัน  เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการ  
และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 ที่กระทรวงการคลังเสนอ) ไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุง    รวมทั้งผลการ 
พิจารณาของคณะกรรมการ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) ในฐานะประธานคณะ
กรรมการจัดระบบการจราจรทางบกรับไปพิจารณา (เกี่ยวกับนโยบายด้านขนส่งมวลชนซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะ
ดำเนินการในลักษณะใด  การแปรรูปองค์การรถไฟฟ้า ฯ  ควรจะเป็นรูปแบบใดและมีอำนาจหน้าที่อย่างใด) 
ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี  (นายศุภชัย พานิชภักดิ์)  ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐ    
วิสาหกิจ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (พลอากาศเอก สมบุญ  ระหงษ์)  รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  แล้วแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎี 
กาเพื่อตรวจพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2542 (ตุลาคม 2541 - มีนาคม 2542) รวม 6 ด้าน  จำนวนทั้ง  
สิ้น 15 โครงการ  ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ  โดยให้ทบวงมหาวิทยาลัยรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรม  
การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการติดตามผลการพิจารณาทั้งในเชิงปริมาณ  คุณภาพ  และ    
กระบวนการเพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายว่า  ทบวงมหาวิทยาลัยจะดำเนินงานในเรื่องใด  และจะมีกระบวนการ  
บริหารจัดการอย่างไร  รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ  
เพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้นและการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนสมรรถนะและวางรากฐานการพัฒนา
ของประเทศในระยะยาว) ไปดำเนินการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเห็นว่า ร่างพระราช 
บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. .... มีข้อความขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพื่อให้  
ศาลรัฐธรรมนุญวินิจฉัยแล้ว รวมทั้งผลการพิจารณาของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เกี่ยวกับร่างพระราช  
บัญญัติดังกล่าว  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับบทบัญญัติมาตรา  39  วรรคสอง  ที่บัญญัติให้กิจการของสำนักงานผู้  
ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภาไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน  กฎหมายว่าด้วยแรง  
งานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทนไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา  
จักรไทย) ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำบันทึกคำชี้แจงตาม 
ผลการพิจารณาของกระทรวงแรงงาน ฯ แล้วยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี  เรื่อง  ขอให้พิจารณาเพื่อทบ 
ทวนในส่วนของการดำเนินการตามผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  (กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด  
ไทพิพัฒน์ กับผู้ร่วมร้องทุกข์อื่น ร้องทุกข์ว่า บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ดำเนินการประกวด 
ราคาจ้างเหมางานปรับปรุงพื้นที่ (งานถมทราย) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย) ตามที่กระทรวงคมนาคมรายงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานผลเกี่ยวกับการที่คณะกรรมการพิจารณาการ
ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่ง ปร. 37  ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม  ได้ 
เห็นชอบให้บริษัท ใช้อินเตอร์เนชั่นแนลดีเวลล้อปเม้นต์ จำกัด ขายและขนย้ายผลิตภัณฑ์ โดยการส่งออกไปนอกราช  
อาณาจักร ได้แก่ วัตถุระเบิด EMULSION SLURRY TYPE จำนวน 200,000 กิโลกรัม ให้แก่บริษัท ORICA  AUSTRALIA  
PTY.LTD. ประเทศออสเตรเลีย และวัตถุระเบิด EMULSION SLURRY TYPE จำนวน 1,575 กิโลกรัม และเชื้อปะทุไฟฟ้า 
จำนวน 500 ดอก ให้แก่ บริษัท  สระบุรีซีเมนต์  จำกัด  เพื่อส่งให้กับโครงการเหมืองถ่านหิน  MAW  TAUNG  ประเทศ
สหภาพพม่า 

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ  รับทราบ 
แนวทางการแก้ไขมาตรการระยะยาวและระยะสั้น  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2541  เกี่ยวกับ 
การขออนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้และการขอต่อใบอนุญาตเป็นรายปี   และการแก้ไขพระราชบัญญัติป่าไม้  พ.ศ.  
2484  ตามที่กรมป่าไม้เสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์      และรับทราบผลการพิจารณาของคณะทำงานแก้ไข  
ปรับปรุง  กฎ  ระเบียบ  มาตรการต่าง ๆ  ของหน่วยราชการที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการส่งเสริมและพัฒนาการ 
ส่งออกอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ประกอบประเด็นอภิปรายของ คศก. และมอบหมายให้กระทรวงเกษตร ฯ  รับไป 
ดำเนินการตามประเด็นอภิปรายของ คศก. โดยด่วน (เกี่ยวกับการเร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติเลื่อยยนต์ พ.ศ. .... 
และร่างพระราชบัญญัติสวนป่า  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นการด่วนเพื่อส่งเสริมสนับสนุน  
อุตสาหกรรมไม้ป่าปลูกให้ครอบคลุมไม้ทุกประเภท         รวมทั้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามลักลอบ  
ทำลายทรัพยากรป่าไม้ผ่อนผันให้โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราสามารถขออนุญาตนำเลื่อยยนต์เข้ามาในราชอาณา  
จักรได้เป็นรายกรณีไปพลางก่อน  ในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติเลื่อยยนต์ พ.ศ. ....  ยังไม่มีผลบังคับใช้   และให้ 
กระทรวงเกษตร ฯ กำหนดระบบควบคุมให้รัดกุม)

   รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับนานาชาติ และองค์การ
ระหว่างประเทศ ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง  รวมทั้งปัญหาชายแดนกับประเทศ
เพื่อนบ้าน (เมษายน 2540 - พฤศจิกายน 2541) พร้อมทั้งข้อสังเกต  ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
เสนอ (เกี่ยวกับการผลักดันประเทศต่าง ๆ ในแทบเอเซีย - แปซิฟิก ให้มีการแข่งขันโดยเสรีทางการค้า 
และบริการเพื่อเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดสินค้าและบริการของประเทศมหาอำนาจ  การพัฒนาศักยภาพในการ 
ผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และสร้างค่านิยมต่อสินค้าไทย การผลักดันให้มีกลไกด้านการเงินระหว่าง 
ประเทศ   การรวมกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาเพื่อผลประโยชน์และความมั่นคงทางเศรษฐกิจร่วมกันและสร้าง
ระบบป้องกันและช่วยเหลือกันยามฉุกเฉิน รวมทั้งการเตรียมตัวรับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรในอนาคต) และมอบให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
กระทรวงกลาโหม     กระทรวงพาณิชย์     กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม      สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด)   และสำนัก  
งานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ    แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อ 
นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป