อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลตำบลบ้านหรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
พ.ศ. ....   (เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นได้ปกครองดูแล   และทะนุบำรุงท้องถิ่นของตนตามระบบ
เทศบาล) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

          อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ....
(เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นได้ปกครองดูแล    และทะนุบำรุงท้องถิ่นของตนตามระบบเทศบาล)
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

          ให้ความเห็นชอบร่างประกาศทบวงมหาวิทยาลัย   เรื่อง การรับวิทยาลัยแพทยศาสตร์
กรุงเทพมหานครเข้าเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล      และให้ดำเนินการต่อไปได้
เพราะการจัดตั้งวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครเป็นเรื่องของราชการส่วนท้องถิ่น   ซึ่ง
มีอำนาจหน้าที่ทำได้ตามกฎหมายและใช้งบประมาณของท้องถิ่นเอง    ส่วนนโยบายเดิมที่ว่าจะ
ไม่ให้มีการเพิ่มโรงเรียนแพทย์ของรัฐในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลนั้น หมายถึงการใช้
งบประมาณแผ่นดิน และยังคงเป็นนโยบายที่ควรยึดถือต่อไป

          อนุมัติการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและการขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน   (โครงการจัดหา
เครื่องสูบน้ำ) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กรมการปกครองดำเนินการ
จัดซื้อได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2536 
ประกาศใช้แล้ว และโครงการดังกล่าวต้องได้รับงบประมาณในปีงบประมาณ 2536 
ใด้ดำเนินการด้วย

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
พ.ศ. .... (เพื่อประโยชน์ในการบริหารกิจการและการทะนุบำรุงท้องถิ่น) ตามที่กระทรวงมหาด
ไทย เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป

          ในระหว่างที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2536
ยังไม่ประกาศใช้ ให้  6  กระทรวงหลัก สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนิน
การโดยให้ 6 กระทรวงหลัก และสำนักงบประมาณร่วมกันเร่งรัดจัดสรรงบประมาณเฉพาะ
ที่เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำให้แก่จังหวัด ตามระบบ กชช. จำนวนกึ่งหนึ่งของงบประมาณ
ปี พ.ศ. 2535 เพื่อให้คณะกรรมการพัฒนาจังหวัดสามารถนำไปแก้ไขปัญหาการขาดแคลน
น้ำได้ทันฤดูกาลที่จะมาถึง และใช้ กชช. และสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามโครง
การพัฒนาจังหวัด   (เงินอุดหนุนภูมิภาคและท้องถิ่น)     จำนวนกึ่งหนึ่งของงบประมาณปี
พ.ศ.  2535  (ประมาณ   3,000 ล้านบาท) เพื่อให้จังหวัดนำไปใช้แก้ไข เฉพาะปัญหาการ
ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างทันท่วงที

          เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักผังเมือง กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ....  
(จัดตั้งสำนักงานผังเมืองจังหวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนงานของจังหวัดและท้องถิ่น)      ตามที่  
กระทรวงมหาดไทย เสนอ  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว  และให้นำ 
ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

          1. เห็นชอบในหลักการและแนวทางดำเนินงานจัดวางผังแม่บทศูนย์ราชการส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวง
มหาดไทย เสนอ 
          2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของกระทรวงการคลัง ไปพิจารณาในประเด็นข้อกฎ 
หมาย ดังนี้ 
              2.1 พื้นทีส่วนใหญ่หรือพื้นที่แทบทั้งหมดที่จะใช้สร้างศูนย์ราชการ เป็นที่ราชพัสดุ  หรือจะต้องตกเป็น    
ที่ราชพัสดุในที่สุด  รวมทั้งอาคารสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ    ซึ่งตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ 
ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 กรมธนารักษ์มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์  การที่ 
กระทรวงมหาดไทยเสนอให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีหน้าที่  และความรับผิดชอบดังกล่าว จะขัดหลักกฎหมาย 
หรือไม่
              2.2 การตั้งงบประมาณควรตั้งรวมกันไว้ที่ส่วนราชการใดส่วนราชการหนึ่งเพียงแห่งเดียว  หรือแยกตั้ง 
ไว้ตามส่วนราชการต่าง ๆ ตามความจำเป็น จะสอดคล้องกับพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 และพระราช
บัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 หรือไม่
          3. ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเลือกสถานที่เพื่อสร้างศูนย์ราชการ
ในระดับจังหวัด ไปประกอบการพิจารณา ดังนี้ 
              3.1 ในอดีต การสร้างสถานที่ราชการในหลายจังหวัดมักจะสร้างในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
และโบราณสถาน และมีการทำลายสถานที่สำคัญดังกล่าว  จึงควรหลีกเลี่ยงการสร้างสถานที่ราชการในสถาน  
ที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณสถาน
              3.2 พื้นที่ที่จะสร้างศูนย์ราชการ ฯ      ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางความเจริญ 
ของจังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีราคาสูง    หากทางราชการมีที่ดินซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว   ให้กระทรวงมหาดไทย 
พิจารณาเพื่อแลกเปลี่ยนที่ดินดังกล่าวกับที่ดินบริเวณอื่นที่มีราคาไม่สูง ซึ่งจะทำให้ได้ที่ดินเป็นจำนวนมากขึ้น  
          4. การจัดสร้างศูนย์ราชการ ฯ ให้คำนึงถึงรูปแบบ สถาปัตยกรรม  โดยควรให้เหมาะสมกับสภาพวัฒน 
ธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ และสมประโยชน์ใช้สอยด้วย

          รับทราบรายงานข้อเท็จจริงเรื่องเนิน 491 ที่จังหวัดชุมพร    ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  
รายงาน โดยพม่าได้ส่งกำลังทหารเข้ามาขับไล่กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระที่ตั้งมั่นอยู่ที่บริเวณเนิน 491 จังหวัด  
ชุมพร     และเมื่อขับไล่กองกำลังกะเหรี่ยงอิสระออกไปแล้ว  ได้ยึดเนินดังกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่  19  กุมภาพันธ์   
2535 ฝ่ายทหารได้พยายามดำเนินการให้ทหารพม่าถอนกำลังออกไปอย่างสันติวิธี   โดยคำนึงถือสัมพันธ  
ไมตรีอันดีระหว่างประเทศ สรุปได้ดังนี้
          1. มีการเจรจาระดับท้องถิ่น  เริ่มตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ 2535   ระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยกับทหารพม่า
หลายครั้ง
          2. มีการเจรจาระดับเอกอัครราชทูตของไทยและเอกอัครราชทูตของพม่า
          3. มีการเจรจาของ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทย กับ นายกรัฐมนตรีพม่า 1 ครั้ง
          4. กระทรวงมหาดไทยสั่งปิดช่องเขาหินดาด อำเภอท่าแซะ  จังหวัดชุมพร  เพื่อตัดการส่งกำลังบำรุง  
          5. มีการเจรจาระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคครั้งสุดท้ายที่เชียงใหม่   เมื่อวันที่ 16 - 20 
พฤศจิกายน 2535
          ซึ่งผลการเจรจาทหารพม่าบ่ายเบี่ยงไม่ยอมถอนกำลัง โดยยืนยันจะให้มีการสำรวจให้แน่ชัดว่าเนินนี้ 
เป็นของประเทศใด และได้รับทราบจากกระทรวงการต่างประเทศว่า  ได้มีการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการ  
กระทรวงการต่างประเทศไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่า  เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 
2535 ว่าจะมีการเจรจาปรึกษาหารือในเรื่องนี้ต่อไป

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนชื่ออำเภอ จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... (เปลี่ยนชื่อ "อำเภอ  
ศรีมโหสถ" เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น  และเป็นการส่งเสริมการค้น  
คว้าทางประวัติศาสตร์) ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ    และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ 
พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้  

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 241/2535 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ตามที่สำนักเลขา
ธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ประกอบด้วย 
          1. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
          2. รองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน เป็นกรรมการ
          3. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เป็นกรรมการ
          4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ
          5. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นกรรมการ
          6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการ
          7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการ
          8. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการ
          9. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ
        10. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการ
        11. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นกรรมการ
        12. เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นกรรมการ
        13. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
        14. ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
        15. ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 3 คน เป็นกรรมการ
        16. ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย 3 คน เป็นกรรมการ
        17. ผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจเอกชนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 3 คน เป็นกรรมการ
        18. เลขาธิการคระกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ
        19. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
        20. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
          ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่พิจารณาปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ   
ของภาคเอกชน  ทั้งในส่วนกลาง  ส่วนภูมิภาค  และท้องถิ่น   ประสานการจัดทำแผนและโครงการร่วมระหว่าง  
ภาครัฐบาลและเอกชน  ในสาขาเศรษฐกิจที่สำคัญ   ส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนในการกระจายการผลิต
การค้า การลงทุน และการจ้างงาน ไปสู่ส่วนภูมิภาค ฯลฯ

          รับทราบรายงานเรื่อง กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองลิเอจขอลาออกจากตำแหน่ง โดยศาลเมือง  
ลิเอจได้พิจารณาลงโทษจำคุก นาย Georges Goldine กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำเมืองลิเอจ  ในคดีพัวพัน 
กับกรณีทุจริตของสำนักงานคณะผู้บริหารท้องถิ่น  และให้รอการลงอาญาไว้   ซึ่งนาย Goldine  ได้ขอ 
อนุมัติลาออกจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ฯ ดังกล่าว  ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ รายงาน 

          รับทราบสรุปประเด็นการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา   ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา 
โดยได้สรุปสาระสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะตลอดจนแนวทางแก้ไขปัญหา 
ต่าง ๆ แยกออกเป็ฯประเด็นสำคัญ ๆ รวมทั้งสิ้น 9 ด้าน คือ
          1. การกระจายอำนาจการปกครอง การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและชนบทและการเลือกตั้ง 
ผู้บริหารท้องถิ่น
          2. ทรัพยากรน้ำ
          3. การเกษตร พืชเกษตร หนี้สินเกษตรกร
          4. การศึกษาและปัญหาครู
          5. แรงงาน
          6. ปัญหาชายแดนและความมั่นคง
          7. การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร
          8. การเงินและการคลัง
          9. อื่น ๆ ได้แก่ การเมืองและการบริหาร การต่างประเทศ เศรษฐกิจและสังคม
          และเห็นชอบให้กระทรวง ทบวง กรม  รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่  หาก  
เรื่องใด   ปัญหาใด   ที่จำเป็นต้องจัดทำเป็นแผนงาน/โครงการ  หรือกิจกรรมเพื่อเสนอขออนุมัติต่อคณะ  
รัฐมนตรี ก็ให้เร่งรัดพิจารณาดำเนินการโดยด่วนต่อไป     กับอนุมัติแจกจ่ายสรุปประเด็นการอภิปราย ฯ  
แก่ผู้บริหารระดับสูง ฯ ที่เข้าร่วมการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา   ในวันจันทร์ที่ 2
พฤศจิกายน 2535 เวลา 09.00 - 12.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
          ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          รับทราบรายงานการค้าต่างตอบแทนตามสัญญาจ้างเหมาสร้างข่ายสายท้องถิ่น โครงการพัฒนา 
เศรษฐกิจและสังคมขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2527 - 2535    โดยองค์การโทรศัพท์ ฯ 
ได้เจรจาเงินค่าชดเชยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535   กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างข่าย
สายท้องถิ่น จำนวน 8 ราย แล้ว ปรากฎว่า บริษัททั้ง 8  จะชดเชยให้กับองค์การโทรศัพท์ ฯ  เป็นเงินประ
มาณ 145 ล้านบาท     สำหรับวงเงินที่ต้องชดเชยจริงขึ้นอยู่กับการปิดงานโครงการภายหลัง     แต่คณะ  
กรรมการองค์การโทรศัพท์ ฯ  เห็นควรให้บริษัททั้ง 8 ราย   เสนอวงเงินขั้นต่ำที่ต้องชดเชยให้ไม่น้อยกว่า  
150 ล้านบาท สุดแต่วงเงินใดจะสูงกว่า ก็ให้ใช้วงเงินนั้นเป็นค่าชดเชย ซึ่งบริษัททั้ง 8  ยินยอมรับเงื่อนไข   
แล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคม รายงาน   และให้นำเงินค่าชดเชยส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามมติคณะ 
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535 ด้วย

          อนุมัติการปรับบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการพนักงานและลูกจ้างของหน่วยการบริหาร
ราชการส่วนท้องถิ่น ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้
          1. จัดสรรเงินงบกลาง งบประมาณปี 2535 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  
จำนวน 27.368 ล้านบาท   เป็นเงินอุดหนุนทั่วไป   ชดเชยเงินปรับเงินเดือนค่าจ้างของเทศบาลสุขาภิ 
บาล 28 แห่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
          2. ให้ผูกพันงบประมาณปี 2536  จำนวน 109.102 ล้านบาท  เพื่อจัดสรรให้เทศบาล 53 แห่ง 
ที่เหลือ

          คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงมหาดไทย
ใช้งบประมาณเหลือจ่ายในส่วนที่รัฐบาลสมทบตามโครงการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิง
ให้แก่ท้องถิ่นเพิ่มเติมดังกล่าวดำเนินการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยผูกพันเงินงบประมาณ
ผ่อนชำระเป็นเวลา 4 ปี ปีละ 4,235,000 บาท ทั้งนี้ให้ใช้งบประมณเหลือจ่ายจากงบประมาณ
ปี 2534 จำนวน 4,255,000 บาท สำหรับชำระในงวดที่ 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2535 และขอให้
กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ในปีต่อๆ ไปให้สอดคล้องกับการผ่อนชำระ
ในแต่ละปีด้วย

          อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้งบประมาณเหลือจ่ายในส่วนที่รัฐบาลสมทบโครงการจัดหา 
เครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงให้แก่ท้องถิ่นเพิ่มเติม   และดำเนินการตามที่กระทรวงมหาดไทย 
เสนอ   โดยผูกพันงบประมาณผ่อนชำระเป็นเวลา 4 ปี  ปีละ4,255,000 บาท  ทั้งนี้  ให้ใช้งบประ 
มาณเหลือจ่ายจากงบประมาณปี 2534 สำหรับชำระในงวดที่ 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2535 และ 
ให้กระทรวงมหาดไทยขอจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในปีต่อๆ ไปให้สอดคล้องกับการผ่อน
ชำระในแต่ละปีด้วย

          เห็นชอบในหลักการ ให้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยยกเลิกสัญญาการค้าต่างตอบแทน 
ระหว่างองค์การโทรศัพท์ ฯ กับบริษัทผู้รับเหมาทั้ง 8 ราย  โดยให้มีการเจรจาเงินชดเชยให้เป็นประ 
โยชน์ต่อทางราชการมากที่สุด ทั้งนี้ เงินชดเชยที่ได้รับจากการเจรจาให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน 
ตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

          เห็นชอบในหลักการค่าลงทุนโครงการระบบทางด่วนสายรามอินทรา - อาจณรงค์   ตามผล   
การศึกษาพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ        โดยให้  
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก    รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการ  
กลั่นกรอง ฯ  ฝ่ายเศรษฐกิจ  เกี่ยวกับการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยคำนวณผลตอบแทนทาง  
ด้านเศรษฐกิจ  (EIRR)  และผลตอบแทนทางด้านการเงิน  (FIRR)   แตกต่างไปจากเดิมอย่างไรบ้าง
ยังคุ้มกับการลงทุนหรือไม่และข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย ดังนี้ 
              1.1 ให้คณะแกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก  ดำเนินการปรับแผนแม่บท  (Master 
Plan) ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยให้คำนึงถึงโครงข่าย  (Network)  ทั้งด้าน 
ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ระบบทางด่วนและระบบถนนท้องถิ่น 
              1.2 ให้คณะกรรมการ ฯ      ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ จัดทำแผนการเงินเพื่อรองรับโครงข่ายตามข้อ 1.1
              1.3 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอรัฐบาลชุดต่อไปพิจารณาปรับปรุงประกาศ รสช.ฉบับที่
44 เพื่อขจัดปัญหาราคาที่ดินในการดำเนินการโครงการขนาดใหญ่  
          2. สำหรับเงินลงทุน     มอบให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับความเห็นและข้อ  
สังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  ฝ่ายเศรษฐกิจ   เกี่ยวกับการขอกู้เงินมาก่อสร้างเพิ่มขึ้นจาก  
เดิมมาก   ในขณะเดียวกันที่ทางการพิเศษ ฯ   คิดค่าผ่านทางระยะ 4 ปีแรก  25 บาท   ซึ่งเป็นการ
คำนวณในปี 2532 นั้น จะคุ้มกับการลงทุนหรือจะเพียงพอกับการชำระหนี้คืนหรือไม่

          รับทราบโครงการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงให้แก่ท้องถิ่น (เพิ่มเติม)   ตามผล   
การประกวดราคา ได้แก่ รถยนต์ดับเพลิงชนิดมีถังน้ำในตัว จำนวน 108 คัน รถยนต์บรรทุกน้ำชนิด  
มีถังน้ำในตัว  จำนวน 119 คัน    และรถยนต์บรรทุกเล็กสำหรับติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดหาบหาม 
จำนวน 21 คัน ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ