ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 78 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1541 - 1560 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1541 | ร่างกฎกระทรวงการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. .... | ทส. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ
ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ
วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
เพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือการอนุรักษ์ บำรุงรักษา
และฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน
สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรพิจารณาทบทวนอัตราการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้
ภายหลังที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับไปแล้ว ๓ ปี ควรทบทวนหลักเกณฑ์
วิธีการแบ่งเงินให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
โดยพิจารณาแหล่งกำเนิดของรายได้ว่าควรจัดสรรให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นตามสัดส่วน
และพื้นที่ที่เกิดรายได้ขึ้นจริงแทนวิธีการแบ่งให้แห่งละเท่า ๆ กัน ควรมีกลไกความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินค่าบริการและค่าตอบแทนที่แบ่งให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้มีความเหมาะสม
มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควร ควรพิจารณาทบทวนอัตราการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้
ภายหลังที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับไปแล้ว ๓ ปี
ควรกำหนดระยะเวลาในการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้ตามมาตรา ๒๙
แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ แก่เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล
คำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็นที่สนับสนุนภารกิจของอุทยานในลักษณะทั่วไป ควรมีกลไกความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินค่าบริการและค่าตอบแทนที่แบ่งให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้มีความเหมาะสม
มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1542 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | สผ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
[ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ เป็นผู้เสนอ] มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้คดีที่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารเป็นผู้กระทำผิดกับบุคคลที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลทหารเป็นผู้เสียหาย
เป็นคดีที่ไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.
๒๔๙๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กับคณะ
เป็นผู้เสนอ)
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าวไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1543 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการการบริหารจัดการ Organizational Quarantine (OQ) สำหรับแรงงานต่างด้าว และผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน | ตช. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1544 | ผลการประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย - ยุโรป ครั้งที่ 8 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ศธ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1545 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พศ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อเป็นค่าเช่ารถโดยสาร ๑๒ ที่นั่ง (ดีเชล) ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๔๐๐ ซีซี จำนวน ๖ คัน อัตราค่าเช่า ๒๔,๗๕๐ บาทต่อคันต่อเดือน ระยะเวลา ๖๐
เดือน (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ ถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๗๐) ภายในวงเงิน ๘,๙๑๐,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างสุขภาพศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ งบดำเนินงาน
ผลผลิตพระพุทธศาสนาได้รับการทำนุบำรุงส่งเสริม จำนวน ๓๙๖,๐๐๐ บาท
และผลผลิตพระพุทธศาสนาได้รับการส่งเสริมและเผยแผ่หลักธรรม จำนวน ๑๙๘,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
๕๙๔,๐๐๐ บาท
ส่วนที่เหลือจำนวน ๘,๓๑๖,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-พ.ศ. ๒๕๗๐
โดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความจำเป็น
และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1546 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | สธ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระยะการระบาดระลอกมกราคม ๒๕๖๕ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
(ระยะเวลาการดำเนินโครงการเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕) และอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
จำนวนเงินทั้งสิ้น ๘,๔๕๘,๓๘๕,๑๔๑ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔)
และการดำเนินการโครงการในเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕
รวมทั้งอนุมัติขยายระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมตามโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่
๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จากเดิมถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๕ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ จากเดิมถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1547 | โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง | กษ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
โดยให้เกษตรกรฯ
ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เดิมโดยพักชำระเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ ๕๐)
และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน และให้เกษตรกรฯ ทำสัญญาผ่อนชำระหนี้เงินต้นครึ่งหนึ่ง
(ร้อยละ ๕๐) ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน แต่ไม่เกิน ๑๕ ปี สำหรับการชดเชยเงินต้นร้อยละ
๕๐ ในส่วนที่เกษตรกรฯ ไม่ต้องรับภาระ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๕๐,๖๒๑ ราย รัฐจะรับภาระในการจัดสรรเมื่อเกษตรกรฯ
ได้ชำระหนี้คืนงวดสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร)
ร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดรายละเอียดและแนวทางดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้น
รวมถึงกำหนดกรอบวงเงินสำหรับดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสม
และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ในส่วนของการขอยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระของธนาคารรัฐ ๔ แห่ง
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร)
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้ได้ข้อยุติที่เหมาะสมแล้วเสนคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. รับทราบการยกเลิกหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร
สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ยั่งยืน
(ลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒
ตุลาคม ๒๕๖๑ [เรื่อง
โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ยั่งยืน
(ลูกหนี้ ธ.ก.ส.)] ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย
คณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เกษตรกร จำนวน ๕๐,๖๒๑ ราย ดังกล่าวข้างต้น
ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของคนในกรอบการแก้ไขปัญหาความยกจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือนของ
คจพ. ด้วย ๕. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
เช่น ประเมินผลการดำเนินการของกองทุนฯ ทบทวนและปรับปรุงรูปแบบการดำเนินโครงการ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรอย่างยั่งยืน
ควรให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ประกาศหลักเกณฑ์ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ตลอดจนเงื่อนไขและวิธีดำเนินโครงการฯ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1548 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 พ.ศ. .... | นร.01 | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา
๑๕ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐมีอำนาจมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา
๑๕ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
ให้สอดคล้องกับระดับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมในปัจจุบัน
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
ควรกำหนดขอบเขตประเภทหรือระดับตำแหน่งของผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้มีความชัดเจน
และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีควรเพิ่มเนื้อหาให้ครอบคลุมประเภทและระดับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่น
ๆ ด้วย เช่น กองทุนที่เป็นนิติบุคคล หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ สถาบันภายใต้มูลนิธิ
อันจะช่วยให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานของรัฐมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่ากรณีของรัฐที่มีการจัดตั้งใหม่ เช่น
องค์การมหาชนที่มีการจัดตั้งขึ้นภายหลังพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ
มีผลใช้บังคับอาจต้องพิจารณากำหนดหรือปรับปรุงรายชื่อหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นไว้ในร่างกฎกระทรวงฯ
ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1549 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายพีระ อารีรัตน์) | สธ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายพีระ อารีรัตน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(แพทย์) ระดับสูง] สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารรณสุข ตั้งแต่วันที่
๖ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1550 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | นร.11 สศช | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการปฏิรูป
และกรรมการปฏิรูปและเลขานุการในคณะกรรมการการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แทนผู้ที่ลาออก จำนวน ๒ คน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
รองศาสตราจารย์กัปนาท ภักดีกุล เป็นกรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1551 | ขอความเห็นชอบการเสียภาษีสลากบำรุงสภากาชาดไทย | กช. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สภากาชาดไทย
หรือเหล่ากาชาดจังหวัด หรือกิ่งกาชาดอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนของสภากาชาดไทย
ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นพนันสลากกินแบ่งหรือสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี
๒๕๖๕ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้มอบให้สภากาชาดไทย เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๐.๕
แห่งยอดราคาสลาก ซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหักรายจ่ายตามข้อ ๑๒ (๔) แห่งกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ ตามที่สภากาชาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1552 | มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับสินเชื่อภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบในหลักการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ดังนี้ ๑.๑ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft
Loan Extra เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ที่ได้รับสินเชื่อภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่จะครบกำหนดเวลาการชำระหนี้คืนให้ยังคงได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้สามารถประคับประคองกิจการและพยุงการจ้างงานภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอน
สำหรับภาระงบประมาณของโครงการ จำนวน ๑๕,๗๕๐ ล้านบาท ประกอบด้วย
การชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยในอัตราไม่เกินร้อยละ ๑๖ ของวงเงินอนุมัติค้ำประกัน
(ร้อยละ ๑๖ ของวงเงิน ๙๐,๐๐๐ ล้านบาท) จำนวน ๑๔,๔๐๐ ล้านบาท
และค่าชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน (ร้อยละ ๑.๕ ของวงเงิน ๙๐,๐๐๐ ล้านบาท) จำนวน
๑,๓๕๐ ล้านบาท ตลอดอายุโครงการไม่เกิน ๘ ปี
เห็นควรให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
โดยในส่วนของการชดเชยค่าประกันชดเชยรายปี ขอให้ บสย.
ใช้เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อของโครงการก่อน
หากไม่เพียงพอจึงขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ๑.๒
การปรับปรุงการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio
Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัสเพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการ
SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ Soft Loan พลัส
ให้มีสภาพคล่องเพิ่มเติมในการดำเนินกิจการในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง สำหรับภาระงบประมาณของโครงการเป็นการชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน
จำนวน ๑๐๔.๒๗ ล้านบาท (ร้อยละ ๑.๕ ของวงเงิน ๖,๙๕๑ ล้านบาท) เห็นควรให้ บสย.
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
โดยให้ บสย. จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบเพื่อควบคุมสัดส่วนของภาระค้ำประกันที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(Non-Performing Guarantee : NPG) โดยพิจารณาสัดส่วนการชดเชยภาระค้ำประกันและอัตราค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อที่เหมาะสม
และจัดทำประมาณการต้นทุนทางการเงินและการบริหารจัดการที่รัฐจะต้องรับภาระทั้งหมดอย่างถูกต้องครบถ้วนและเป็นรูปธรรม ๒. ให้กระทรวงการคลัง
โดย บสย. รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรการดำเนินมาตรการค้ำประกันสินเชื่อโดยการขอรับการชดเชยจากรัฐบาลภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔ ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งเห็นควรให้ บสย.
เริ่มดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะพิเศษ Soft Loan Extra ให้ทันกับการทยอยครบกำหนดเวลาชำระคืนหนี้ที่จะเริ่มครบกำหนดในวันที่
๑๙ เมษายน ๒๕๖๕ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1553 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1/2565 | นร.04 | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(กตน.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๕ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
และให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุมฯ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑) การขับเคลื่อนให้ปี
๒๕๖๕ เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน (๒) การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจน
(๓) ประเด็นติดตามขับเคลื่อนของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(การนำระบบตั๋วร่วมมาใช้ในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน
และการนำสายไฟ/สายสื่อสารลงดิน) และ (๔) รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และงบประมาณที่เกินกว่า
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน
กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ข้อเสนอแนะของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และข้อสังเกตของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น
ควรประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้ทราบถึงจุดประสงค์ในการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เน้นการพัฒนาคนอย่างยั่งยืนมากกว่าการให้ความช่วยเหลือ การจัดทำแผนการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
ภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-๑๙ เร่งหาวิธีการเพื่อให้มีฐานข้อมูลคนเร่รอน
กลุ่มคนเปราะบาง และกลุ่มคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล
ให้อยู่ในฐานข้อมูลเดียว ควรผลักดันแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโลก ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1554 | ผลการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างไทยกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย ครั้งที่ 2 | พณ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1555 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางลลิตา สิริพัชรนันท์) | นร.04 | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางลลิตา สิริพัชรนันท์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1556 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) แทนตำแหน่งที่ว่าง (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) | อว. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕)
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1557 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี 2564 | นร.11 สศช | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะ คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม
ปี ๒๕๖๔ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสี่และภาพรวม ปี
๒๕๖๔ เช่น ภาพรวมการจ้างงาน ลดลงร้อยละ ๑.๐ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อัตราการมีงานทำ อยู่ที่ร้อยละ ๙๘.๑ หนี้สินครัวเรือนในไตรมาส ๓ ปี ๒๕๖๔ มีมูลค่า
๑๔.๓๕ ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๒ แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๓
ของ GDP การเจ็บป่วยในไตรมาสสี่และภาพรวม
ปี ๒๕๖๔ ลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-๑๙ ในเด็ก ผู้สูงอายุ
กลุ่มเปราะบาง (๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑) โรคเสมือน
(Metaverse) กับโอกาสใหม่ของประเทศไทย ๒) คนไร้บ้าน : ต่อแนวทางการยกระดับความเป็นอยู่ให้พึ่งพาตนเองได้ในสังคม
และ ๓) ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยจากมุมมองของบัญชีกระแสเงินโอนประชาชาติ
และ (๓) บทความเรื่อง “เสียง SMEs ภาคการท่องเที่ยว :
การปรับตัวและความเห็นต่อการช่วยเหลือของรัฐ” พบผลการสำรวจที่สำคัญ เช่น
รายได้ผู้ประกอบการลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน
และเทคโนโลยีมีความจำเป็นต่อความอยู่รอดในการประกอบธุรกิจ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1558 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | กษ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสด
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบการเงินแล้ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1559 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 46) พ.ศ. 2531 พ.ศ. .... (สินค้าหอยมุกและผลิตภัณฑ์) | พณ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร
(ฉบับที่ ๔๖) พ.ศ. ๒๕๓๑ พ.ศ. .... (สินค้าหอยมุกและผลิตภัณฑ์)
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์
ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๔๖) พ.ศ. ๒๕๓๑ เนื่องจากปัจจุบันได้มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพื่อควบคุมการส่งออกหอยกาบน้ำจืด หอยมุกชนิดต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์เป็นการเฉพาะแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1560 | รายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 และการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2564 | กค. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
