ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,112 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ของกรมทางหลวง | คค | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕,๑๑๒ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา จำนวน ๕๐๐ ล้านบาท ตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน ๑,๘๔๒ ล้านบาท ให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖ และตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนและทรัพย์สินที่ถูกเขตทางเพื่อส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาที่ได้ลงนามในสัญญาแล้ว และค่าก่อสร้างงานโยธาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน ๒,๗๗๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่างานล่วงหน้าร้อยละ ๑๕ ของค่าก่อสร้าง ๔ ช่วง ที่ขาดอยู่ และค่างวดงานตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๒ เห็นชอบในหลักการให้กรมทางหลวงปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ แผนงานบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ งบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จากโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน กิจกรรมก่อสร้างทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ สายอำเภอหล่มสัก-อำเภอน้ำหนาว ตอนบ้านน้ำดุก-อำเภอคอนสาร จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ รวม ๔ รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๘๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ให้กรมทางหลวงก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๒ แต่เนื่องจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ทำให้ต้องชะลอโครงการ ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ มอบหมายให้กรมทางหลวงไปพิจารณาทบทวนและศึกษาทางเลือกแนวทางอื่นที่มีความเหมาะสม มีข้อมูลประกอบรอบด้าน และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่าและสัตว์ป่าน้อยที่สุด ไปตั้งจ่ายโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน ๕๑๖ ล้านบาท และค่าก่อสร้างงานโยธา จำนวน ๕๖๔ ล้านบาท โดยปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย สำหรับแผนงานบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพิจารณาทบทวนและศึกษาทางเลือกแนวเส้นทางดำเนินโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางสายหลักให้เป็น ๔ ช่องจราจร สายอำเภอหล่มสัก-อำเภอน้ำหนาว ตอนบ้านน้ำดุก-อำเภอคอนสาร จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ สำหรับกรณีกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรีอาจต้องปรับเพิ่มขึ้นนั้น เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมกำกับติดตามให้กรมทางหลวงเร่งดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งควรคำนึงถึงผลกระทบต่อความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย แล้วรายงานความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดนครราชสีมา ๓. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๓.๑ ให้กรมทางหลวงเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการสำรวจทรัพย์สินเพื่อจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓.๒ ในการเสนอขอปรับเพิ่มกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ต่อคณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงทบทวนผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการภายใต้กรอบวงเงินลงทุนเดิมกับกรอบวงเงินลงทุนใหม่ และหากพบว่า ผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการภายใต้กรอบวงเงินลงทุนใหม่มีความคุ้มค่าน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ให้กระทรวงคมนาคมเสนอแนวทางการบริหารโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือมีมาตรการเพิ่มความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย รวมทั้งให้ปรับปรุงแผนการใช้จ่ายงบประมาณในภาพรวมของทั้งโครงการ และชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่โครงการดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ด้วย ๓.๓ ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในอนาคตให้กระทรวงคมนาคมกำกับให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐในสังกัดดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัด
|
.....