ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | โครงการบ้านประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุ | กค | 19/04/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบกรอบการดำเนินโครงการบ้านประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุ (โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ) ซึ่งมีกรอบการดำเนินโครงการในหลักการเดียวกับโครงการบ้านประชารัฐที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นรขอบแล้วเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวและหรือให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ โดยให้สถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) และเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเสนอขอปรับถ้อยคำในวัตถุประสงค์ของโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ในข้อ ๒.๑.๑.๑ ของหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๓๑๔/๖๕๗๔ ลงวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๙ จาก “เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวและหรือให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง” เป็น “เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวและหรือให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง” เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโครงการฯ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย หากมีจำนวนความต้องการเกินกว่าอุปทาน อาจพิจารณากลุ่มสูงอายุและกลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูง ส่วนการสำรวจที่ดินราชพัสดุที่ยังมิได้นำมาใช้ประโยชน์และมีศักยภาพในการพัฒนา ทั้งที่เป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย และการพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ และการให้ ธอส. และธนาคารออมสินพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบเพื่อป้องกันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans : NPLs) ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ รวมทั้งธนาคารทั้งสองแห่งควรมีกระบวนการพิจารณาคัดกรองการให้สินเชื่อที่ระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) แบบผ่อนปรนหลักเกณฑ์ Debt Service Ratio (DSR) และ Debt to Income Ratio (DTI) โดยให้คำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้และความสามารถในการใช้จ่ายประจำวัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ หากการดำเนินโครงการฯ เข้าข่ายตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้กรมธนารักษ์ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวและประกาศคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย ๓. เห็นชอบให้ ธอส. และธนาคารออมสินแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาล (Public Service Account : PSA) และไม่นับรวมหนี้ NPLs ที่เกิดจากการดำเนินโครงการฯ เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของ ธอส. และธนาคารออมสิน รวมทั้งให้สามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการฯ บวกกลับกำไรสุทธิเพื่อการคำนวณโบนัสพนักงานได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดย ธอส. และธนาคารออมสินจะต้องไม่ขอรับการชดเชยงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการฯ ในอนาคต ๔. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการคัดเลือกเอกชนที่เข้าร่วมพัฒนาโครงการฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้เอกชนที่มีศักยภาพและสามารถดำเนินโครงการได้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ๕. ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับการบูรณาการโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ข้าราชการบำนาญ และข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว เพื่อให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการสำรวจจำนวนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อวางแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในระยะยาว รวมทั้งกำหนดรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินโครงการต่อไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง บ้านประชารัฐ) |
.....