ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
|---|---|---|---|
| 1 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค. | 19/08/2568 |
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ
(Nation Credit Guarantee Agency : NaCGA) โดยมีการกำหนดวัตถุประสงค์
ขอบเขตการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจโครงสร้างองค์กรและการบริหารจัดการ และการกำกับดูแลการดำเนินการของ
NaCGA รวมทั้งกำหนดแนวทางและระยะเวลาในการจัดตั้ง NaCGA
ตลอดจนแนวทางการผนวกบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
กับ NaCGA เพื่อยกระดับกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมความยั่งยืนทางการคลัง และสามารถส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ด้วยต้นทุนทางการเงินในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยง
(Risk-based Pricing) มากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงาน
ก.พ.ร. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
เช่น กระทรวงพาณิชย์ เห็นว่าในประเด็นที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลให้แก่สถาบัน
NaCGA เพื่อเป็นฐานข้อมูลและแบบจำลองด้านเครดิตตามภารกิจของสถาบันฯ
ภายใต้ร่างมาตรา ๕๓ อาจต้องพิจารณากฎหมายของหน่วยงานของรัฐนั้นประกอบด้วย
เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายอื่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมบทบาทสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ
ในด้านการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ระบบ (Formalization) และให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการทบทวนภารกิจและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐอื่นที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมผู้ประกอบการ
SMEs ในลักษณะที่เกี่ยวเนื่องและคล้ายคลึงกันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานและช่วยลดภาระทางการคลัง ทั้งนี้ ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานหรือลูกจ้างตามมาตรา
๑๓๐ ของร่างพระราชบัญญัติฯ
ควรให้มีการดำเนินการโดยให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและการสร้างประสิทธิภาพให้กับ NaCGA
ตามรูปแบบองค์กรที่เปลี่ยนแปลงไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นควรกำหนดกลไกการบริหารความเสี่ยง
การตรวจสอบความคุ้มค่า และการควบคุมการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม
เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการคลังของประเทศในระยะยาว
และป้องกันไม่ให้เกิดหนี้สินแฝงที่อาจกระทบต่อฐานะการเงินการคลังของประเทศในอนาคต สำนักงาน ก.พ. เห็นควรมีการพัฒนาความรู้ความสามารถบุคลากรที่มีอยู่ให้มีศักยภาพในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับภารกิจที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
รวมถึงพิจารณาการถ่ายโอนภารกิจบางส่วนให้ภาคเอกชนดำเนินการแทน
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐในระยะยาว และมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงาน
เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจของสถาบันฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||
