ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชียสำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา | กค. | 22/04/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยจาก
ADB สำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมืองหมายเลข ๗ ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
กรอบวงเงิน ๖๘.๗๔ ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ ๒,๔๔๐.๑๙ ล้านบาท) ๒. เห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้โครงการฯ
และเห็นชอบในการใช้อนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(
Asian Development Bank Ordinary Operations Loan Regulations) ลงวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ ของ ADB ๓. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสัญญาเงินกู้โครงการฯ ๔.
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำคำรับรองทางกฎหมาย (Legal Opinion) สำหรับสัญญาเงินกู้โครงการฯ ภายหลังจากที่ได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวแล้ว ๕.
มอบหมายให้กรมทางหลวงปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่ถูกระบุไว้ใน PAM สัญญาเงินกู้
รวมทั้งกฎเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องของ ADB และเอกสารแนบท้ายสัญญาที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ขอให้กรมทางหลวงบริหารสัญญาและกำกับดูแลผู้รับจ้างให้ดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
และดำเนินการเบิกจ่ายเงินกู้ตามระยะเวลาที่กำหนด ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ)
กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงการคลัง
โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หารือร่วมกับกรมทางหลวง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
เพื่อปรับแผนการกู้เงินและการเบิกจ่ายเงินกู้ให้มีความสอดคล้องกับแผนการเปิดให้บริการของสนามบินอู่ตะเภาที่มีความล่าช้าและอาจส่งผลกระทบให้ปริมาณจราจรของโครงการฯ
ต่ำกว่าที่เสนอคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕
เพื่อให้การลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นว่ากระทรวงการคลังควรพิจารณาเตรียมการสำหรับกรณีที่อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนสูง
ซึ่งอาจส่งผลให้วงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติไม่เพียงพอต่อการชำระค่าใช้จ่ายของโครงการในสกุลเงินบาท
|