ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 93 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1841 - 1860 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1841 | ข้อเสนอแนะกรณีการบังคับสูญหายบุคคลที่พำนักอาศัยในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง | สม. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะกรณีการบังคับสูญหายบุคคลที่พำนักอาศัยในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1842 | กำหนดวันและเวลาประชุมวุฒิสภา | สว. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติที่ประชุมวุฒิสภาในคราวประชุมวุฒิสภา
ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันจันทร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้มีมติกำหนดวันและเวลาประชุมวุฒิสภา โดยให้มีการประชุมสัปดาห์ละ ๒ วัน
คือ ทุกวันจันทร์และวันอังคารตั้งแต่เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1843 | ขอขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบสรุปผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในเขตพื้นที่อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
อำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น อำเภอกะพ้อ อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน อำเภอปะนาเระ และอำเภอทุ่งยางแดง
จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง อำเภอกาบัง อำเภอกรงปินัง และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี
อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒.
อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ในเขตพื้นที่อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน
จังหวัดนราธิวาส อำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น อำเภอกะพ้อ อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน
อำเภอปะนาเระ และอำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง อำเภอกาบัง อำเภอกรงปินัง
และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ ๓. เห็นชอบ ๓.๑
ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๓.๒
ร่างประกาศ เรื่อง
การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๓.๓
ร่างประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ๓.๔ ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1844 | คำมั่นของสมาชิกแนวร่วมในการรับมือกับภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก | กต. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1845 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 40 วรรคสาม และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | กก. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๖๕๖๘ - พ.ศ. ๒๕๗๐
เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารสำนักงาน ค่าเช่ารถยนต์ ค่าเช่า ที่จอดรถยนต์
และค่าเช่าคลังเก็บวัสดุ รวมทั้งสิ้น ๒๐ รายการ วงเงินงบประมาณ ๒๑๔,๖๒๖,๙๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่น
สำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนได้
โดยให้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณ
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามนัยมาตรา ๔๐ วรรคสาม และมาตรา ๔๒ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้แล้วในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ สำหรับรายการค่าเช่าอาคารสำนักงาน ๑๑ แห่ง รายการค่าเช่ารถยนต์ ๖ คัน รายการค่าเช่าที่จอดรถยนต์
๒ แห่ง และรายการค่าเช่าคลังเก็บวัสดุ ๑ แห่ง ดังกล่าวข้างต้น ขอให้ ททท.
ใช้จ่ายตามรายการและวงเงินงบประมาณรายจ่ายของ ททท.
เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ประกาศใช้บังคับ
ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้ ททท.
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรกำกับ ดูแล ติดตาม และรายงานผลการดำเนินงานของ ททท. สำนักงานสาขาต่างประเทศอย่างเป็นระยะ
เพื่อประโยชน์ด้านความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางในระดับสากล
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1846 | ร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูง เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพ | สธ. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาทางการเมืองของของการประชุมระดับสูง
เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพ (Political
Declaration of the High-level Meeting on Antimicrobial Resistance) และอนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ
ครั้งที่ ๗๙ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาทางการเมืองดังกล่าว
โดยร่างปฏิญญาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพทั้งในคนและสัตว์ในประเด็นต่าง
ๆ เช่น ๑)
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของการกำกับดูแลและบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ
๒)
การให้การสนับสนุนทางการเงินรวมทั้งจัดสรรทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ
๓) การส่งเสริมการเข้าถึงยาต้านจุลชีพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและราคาไม่สูง ๔)
การส่งเสริมการดำเนินการร่วมกันเพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะและควบคุมปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ
และ ๕) การส่งเสริมการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาการฝึกอบรม การผลิต และนวัตกรรม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1847 | ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เรื่อง สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง อันเกี่ยวเนื่องกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีขอให้ตรวจสอบการใช้สปายแวร์เพกาซัส (Pegasus Spyware) | สม. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เรื่อง
สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง
อันเกี่ยวเนื่องกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กรณีขอให้ตรวจสอบการใช้สปายแวร์เพกาซัส
(Pegasus Spyware) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1848 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ณ สิ้นไตรมาสที่ 3) | นร.07 | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (ณ สิ้นไตรมาสที่ ๓) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ หมวด ๗ การประเมินผลและการรายงาน
ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้งระบบติดตามและประเมินผล ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1849 | การเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย | นร. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๗
กันยายน ๒๕๖๗) ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติมจากการดำเนินการตามระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วตามปกติในปัจจุบัน
โดยหากการดำเนินการเพิ่มเติมดังกล่าวในเรื่องใดมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
ก็ขอให้เร่งดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน นั้น เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ทั่วถึง เป็นเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน และครอบคลุมทุกมิติ
ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวข้างต้น
ไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
(ศปช.) เพื่อพิจารณาในภาพรวมโดยด่วน ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1850 | ร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน
ครั้งที่ ๔๒ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๕ ฉบับ
ได้แก่ ๑) ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๔๒
๒)
ร่างถ้อยแถลงเพื่อการพิจารณาสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหรัฐอเมริกาด้านพลังงาน
๓) ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนบวกสามด้านพลังงาน (จีน ญี่ปุ่น
และเกาหลีใต้) ครั้งที่ ๒๑ ๔)
ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมสุดยอดรัฐมนตรีพลังงานแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่
๑๘ และ ๕) ร่างถ้อยแถลงร่วมโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย
และสิงคโปร์ ฉบับที่ ๕ และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ให้การรับรองเอกสารสำหรับการประชุมดังกล่าวในช่วงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน
ครั้งที่ ๔๒ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗
ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการใช้และการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน
โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานในภูมิภาคควบคู่กันไปด้วย
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านพลังงานและสอดคล้องกับสถานการณ์และศักยภาพของไทย
เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1851 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอน | ศธ. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗๓๘,๙๕๐,๗๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าจัดการเรียนการสอนโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนและการใช้จ่ายงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๑๐๕๓๒ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗)
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนที่มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนรายการดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วน
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนจากกรณีที่อาจเกิดขึ้นได้ อาทิ การย้ายสถานศึกษากลางคัน
การที่โรงเรียนมีรายชื่อนักเรียนซ้ำซ้อน หรือการหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเป็นสำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1852 | ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 1 และเงินชดเชยความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 2 ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑,๔๕๓,๑๑๓,๕๕๙.๘๒ บาท สำหรับการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยตามมาตรา
๙ และเงินชดเชยความเสียหายตามมาตรา ๑๑ แห่ง พ.ร.ก. Soft Loan รอบแรก ครั้งที่ ๑ และรอบแรก ครั้งที่ ๒
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวการประชุมเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ได้เห็นชอบกรอบวงเงินดังกล่าวแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1853 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2567 | รง. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการ ๒.๑
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๒.๒
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการ ๓.๑
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๓.๒
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๓.๓
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การขยายระยะเวลาการเปลี่ยนนายจ้างและระยะเวลาการทำงานกับนายจ้างรายใหม่
สำหรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ ๓.๔
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การยกเว้นการแจ้งข้อมูลการทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๖๔/๒ รวม
๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
ที่เห็นว่าการทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยจะต้องมีสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าการทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
และอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตทำงาน
รวมทั้งในกรณีที่นายจ้างได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าประกันสังคม
คนต่างด้าวต้องทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรสนับสนุนการบริหารจัดการให้แรงงานต่างด้าวในไทยมีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
และเพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและเข้าถึงสิทธิที่พึงได้ตามกฎหมาย และอาจพิจารณาแจ้งแนวทางดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรกัมพูชา
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามทราบและปฏิบัติให้สอดคล้องกันด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1854 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ | กค. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗,๑๒๕,๖๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์
(EV3) ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง
(กรมสรรพสามิต)
จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑
ติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์
รวมทั้งรวบรวมข้อดี ข้อเสีย ปัญหา อุปสรรค ความคุ้มค่า
และประโยชน์ที่ประชาชนและอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะได้รับจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว
และให้รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวต่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติทราบ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการปรับปรุงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1855 | การบริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย 14 | กค. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการบริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย ๑๔
ของประเทศไทย จำนวน ๙๖,๐๕๑,๒๑๖ บาท โดยแบ่งชำระออกเป็น ๔ งวด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ – ๒๕๗๑ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และในปีต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ากระทรวงการคลังจำเป็นต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนบริหารจัดการกิจกรรมมาตรการหรือโครงการที่ได้จัดทำรายละเอียดไว้
รวมทั้งต้องวิเคราะห์และประเมินผลของการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาดังกล่าว
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1856 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย | นร.04 | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายชัย
วัชรงค์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๑๘/๒๕๖๗ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย
ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1857 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติ รายงาน และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | นร 05 | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบ ๑.๑
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการ ความเห็น
และข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ ๑.๒
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติ รายงาน
และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จำนวน
๒ เรื่อง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป
๒.
เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ
และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติ รายงาน
และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา)
โดยให้ใช้แนวทางปฏิบัติตามข้อ ๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1858 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี | พม. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี จำนวน
๑๓๘,๘๓๒ ราย เป็นเงิน ๔๑๖,๔๙๖,๐๐๐ บาท สำหรับจ่ายให้กับผู้ที่ค้างจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน
ตามที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กรมกิจการผู้สูงอายุใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ แล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
หลักเกณฑ์ และประกาศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1859 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย | ปช. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1860 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำบ้านปากช่อง จังหวัดเพชรบูรณ์ | กษ. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ จากรายการโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย
จังหวัดกาฬสินธุ์ วงเงิน ๒๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นรายการโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำบ้านปากช่อง
จังหวัดเพรชบูรณ์ วเงิน ๑๙,๑๑๕,๕๐๐ บาท
และอนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำบ้านปากช่อง
จังหวัดเพชรบูรณ์ วงเงิน ๑๙,๑๑๕,๕๐๐
บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีให้ถูกต้อง
ครบถ้วนทุกขั้นตอนเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|