ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 95 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1881 - 1900 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1881 | มาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 | มท. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย
สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม ๒๕๖๗
และให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไปดำเนินการต่อไป ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นควรปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก และการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะต้องกระทำเท่าที่จำเป็น
และไม่ซ้ำซ้อนกับการช่วยเหลือจากภาครัฐในลักษณะประเภทเดียวกันด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1882 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าแก่ประชาชน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนสิงหาคม 2567 | มท. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้จ่ายงบประมาณในวงเงิน
๑,๗๙๐,๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยใช้แหล่งเงินจากรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม
๒๕๖๗ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
โดยเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน ๓๐๒,๔๙๐,๐๐๐ บาท และเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๑,๔๘๘,๒๑๐,๐๐๐ บาท โดยให้การไฟฟ้านครหลวงและการใฟฟ้าส่วนภูมิภาคเบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1883 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | สธ. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓,๘๔๙,๒๙๗,๑๑๘.๓๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง
สอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
ค้างจ่ายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ที่ปฏิบัติงานระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ - เดือนกันยายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1884 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 799.90 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง | คค. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๗๙๙.๙๐
ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำหรับความเหมาะสมของกรอบวงเงินและแหล่งเงินให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1885 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้สอยและค่าวัสดุประจำปี พ.ศ. 2566 | ยธ. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้สอยและค่าวัสดุประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖
จำนวน ๓๓๒,๑๐๙,๒๐๐ บาท และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีค่าสาธารณูปโภค ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1886 | แนวทางการเสนอเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 4(8)-(20) | นร. | 24/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการการเมือง
ประกอบกับประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๔
กำหนดให้ข้าราชการการเมืองต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีอยู่ในกรอบจริยธรรม
รวมทั้งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ได้บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของข้าราชการการเมืองไว้ ดังนั้น
เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองมีความถูกต้อง และเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จึงขอให้ทุกส่วนราชการที่จะเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเสนอแต่งตั้ง
โดยจะต้องดำเนินการรับรองคุณสมบัติตามแบบรับรองประวัติบุคคลประกอบการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔ (๘) - (๒๐) จำนวน ๑๔
ข้อ รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงาน ๗ หน่วยงาน ได้แก่ (๑)
สำนักงานศาลยุติธรรม (๒) กรมบังคับคดี (๓)
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (๔)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (๕) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(๖) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ (๗)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
แล้วให้เสนอเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งแนบเอกสารการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติไปให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1887 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | กค. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่อาจปฏิบัติราชการได้
ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒
ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1888 | ขอความเห็นชอบการแต่งตั้งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (นายวีริศ อัมระปาล) | คค. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวีริศ อัมระปาล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการถไฟแห่งประเทศไทย
โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่รายเดือนในอัตรา ๓๗๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปีและสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
และไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1889 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | นร.05 | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม จำนวน ๗๘ คณะ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงวันที่
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ และหลังจากนั้นให้คณะกรรมการ ฯ ดังกล่าวสิ้นสุดลง ๒. ในกรณีที่ส่วนราชการใดพิจารณาเห็นว่าคณะกรรมการ
ฯ คณะใด (ตามข้อ ๑) ยังคงมีภารกิจสำคัญและจำเป็นที่จะต้องคงอยู่ต่อไป
เพื่อให้การดำเนินการตามภารกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ให้ส่วนราชการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการคณะนั้น ๆ ขึ้นใหม่
โดยให้ตรวจสอบและปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
แล้วส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้
ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
แนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล)
อย่างเคร่งครัด
และหากเป็นกรณีที่มีการเสนอแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการที่จะเสนอแต่งตั้งด้วย
ให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องระบุชื่อ/ชื่อสกุล และตำแหน่ง (ถ้ามี)
ของบุคคลที่จะเสนอแต่งตั้งให้ชัดเจน พร้อมทั้งจัดทำเอกสารต่าง ๆ
ประกอบการพิจารณาด้วย ดังนี้ ๒.๑
แบบสรุปประวัติของผู้ที่จะเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนั้น ๆ ๒.๒
แบบตรวจสอบประวัติบุคคลเพื่อประกอบการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่าง
ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1890 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ไทยได้ให้การรับรอง และ/หรือให้ความเห็นชอบในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 56 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 24 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ไทยได้ให้การรับรอง
และ/หรือให้ความเห็นชอบในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ ๕๖
และการประชุมที่เกี่ยวข้อง การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ครั้งที่ ๒๔ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๔ และ ๔๕ โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ที่จะมีการรับรอง และ/หรือให้ความเห็นชอบในช่วงการประชุมฯ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทยในเชิงนโยบายและอาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหลายหน่วยงาน
จึงเข้าข่ายที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาตามนัยมาตรา ๔ (๗)
ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทั้งนี้
เอกสารดังกล่าวไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน
ครั้งที่ ๕๖ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่
๒๔ และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๔ และ ๔๕ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
จำนวน ๔ ฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1891 | แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร.04 | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๑๑/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ เรื่อง
แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผนตามระบบรัฐสภา
ตลอดจนการประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกรัฐสภา และพรรคการเมือง
ด้านนิติบัญญัติให้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสนับสนุนการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีในการเสนอร่างกฎหมาย
และดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนิติบัญญัติ
อันจะส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเรียบร้อย
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1892 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 320/2567 [ถูกยกเลิกโดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 68 (ว 259/68)] | นร.04 | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๒๐/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1893 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
วงเงินไม่เกิน ๒๓,๕๕๒.๔๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน ๒,๐๕๙.๕๔ ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
สำหรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม และให้นำเงินที่เหลือดังกล่าวไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
ต่อไป ๒. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน ๒๑,๔๙๒.๘๖ ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
และให้นำเงินเหลือจ่ายดังกล่าวส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1894 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลา การลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม) | กค. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะครบกำหนดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๗ ต่อไปอีก เป็นระยะเวลา ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ โดยยังคงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๖.๓
(ไม่รวมภาษีท้องถิ่น) หรือร้อยละ ๗ (รวมภาษีท้องถิ่น) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณาทยอยปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ
ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลและขยายฐานภาษีให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เพื่อลดข้อจำกัดทางการคลัง และรองรับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเงินโลก
การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น สำนักงบประมาณ เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1895 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือว่าด้่วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น และร่างแผนการดำเนินงานสหราชอาณาจักร - ไทย ฉบับที่ 2 | พณ. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น
(Memorandum of Understanding between the
Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the United Kingdom
of Great Britain and Northern Ireland for an Enhanced Trade Partnership) และร่างแผนการดำเนินงานสหราชอาณาจักร-ไทย ฉบับที่ ๒ (UK-TH Workplan
2.0) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารทั้ง
๒ ฉบับ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
การค้า และการลงทุนของสองฝ่ายให้เป็นไปอย่างแน่นแฟ้นและใกล้ชิดยิ่งขึ้น ส่วนร่างแผนการดำเนินงานฯ
มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดกิจกรรมและรูปแบบความร่วมมือที่ต่อยอดจากแผนการดำเนินงานฯ
ฉบับแรก ในสาขายุทธศาสตร์สำคัญที่สองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ และร่างแผนการดำเนินงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1896 | ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๒๐/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1897 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่10 กันยายน 2567 | นร.05 | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีได้ลากิจในวันอังคารที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น.
เป็นต้นไป ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1898 | การให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม | นร. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย
วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ขึ้นแล้ว นั้น เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
เหมาะสม และทั่วถึง เห็นควรให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการ
ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิด
และเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนตามแผนงานที่กำหนดไว้ให้บรรลุผลโดยเร็วและหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดเพิ่มขึ้น
ก็ให้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีด้วย ๒.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติมจากการดำเนินการตามระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วตามปกติในปัจจุบัน (ตามข้อ ๑)
แล้วให้เร่งดำเนินการต่อไป เพื่อให้สามารถให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้อย่างครบถ้วน
ทั่วถึง และบรรเทาทุกข์ของผู้ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น โดยหากการดำเนินการเพิ่มเติมดังกล่าวในเรื่องใดมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
ก็ขอให้เร่งดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๓. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเตือนภัย
เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กรมอุตุนิยมวิทยา) กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
ตรวจสอบระบบการแจ้งเตือนภัยในความรับผิดชอบให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเท่าทันสถานการณ์มากยิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1899 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการยกระดับและพัฒนาระบบบริการสุขภาพหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รวมวงเงินทั้งสิ้น ๖๒๔,๘๐๐,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการยกระดับและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาจัดทำกรอบทิศทางและแนวทางการลงทุนในการขยายศักยภาพของสถานพยาบาลแต่ละระดับของเขตสุขภาพในภาพรวมของประเทศ
เพื่อให้มีการจัดลำดับความสำคัญและเป็นทิศทางในการจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับความจำเป็นและความคุ้มค่าในการดำเนินการในแต่ละเขตสุขภาพ
โดยคำนึงถึงรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคส่วนต่าง ๆ
ที่จะเข้ามาร่วมจัดบริการสุขภาพในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
1900 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) | สปสช. | 17/09/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ๕,๙๒๔,๓๑๔,๖๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ยกระดับ ๓๐ บาท
รักษาทุกโรค “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
สำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าการที่ผู้มีสิทธิไปรับบริการที่หน่วยบริการอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้หรือหน่วยบริการสาธารณสุขพื้นฐานใกล้บ้าน
ขณะที่หน่วยบริการเดิมที่ได้ลงทะเบียนไว้ไม่ต้องจัดบริการแก่ผู้มีสิทธิรายนั้น ๆ
แต่ยังได้รับงบประมาณในการดำเนินงานตามค่าเหมาจ่ายรายหัวอาจก่อให้เกิดการซ้ำซ้อนของการสนับสนุนงบประมาณในการจัดบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้
สำนักงานหลักประกันสุขภาพควรพิจารณาหาแนวทางในการจัดสรรงบประมาณที่เป็นการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดบริการร่วมกันระหว่างหน่วยบริการที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไว้ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและหน่วยบริการอื่นภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานในระยะต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|