1. เรื่องนักเรียนทุนของรัฐบาล ให้ดำเนินการตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ โดยให้คงจำนวน  
เป้าหมายของนักเรียนทุนของรัฐบาลตามที่กำหนดในงบประมาณปี 2541  ส่วนผู้เข้าฝึกตามเงื่อนไข  
การจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ  ให้สำนักงบประมาณพิจารณาทบทวนลดจำนวนให้เหลือเท่า 
ที่จำเป็น 
          2. เรื่องหน่วยราชการไทยในต่างประเทศ   เห็นชอบในหลักการให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณา 
ยุบรวมสำนักงานต่างประเทศของกระทรวงให้เหลือในประเทศที่มีความสำคัญสูง      รวมทั้งพิจารณา 
ทบทวนขนาดของอัตรากำลังของหน่วยราชการไทยในต่างประเทศทั้งจำนวนข้าราชการและลูกจ้างชั่ว  
คราวท้องถิ่นให้คงเหลือเฉพาะเท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน   ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณา
แล้วเห็นว่ายังจำเป็นต้องมีสำนักงานถาวรในต่างประเทศอยู่ต่อไป      ให้ปรับแผนการดำเนินงานและ 
การใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับจำนวนงบประมาณที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 2541 ตาม 
ที่สำนักงบประมาณ เสนอ โดยมอบให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่อง ประสานงานกับกระทรวงที่ 
มีสำนักงานและบุคลากรในต่างประเทศต่อไป 
          3. เรื่องรายจ่ายชำระคืนต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศ  เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณ   
เสนอ  โดยมอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาบริหารหนี้ต่างประเทศ  ภายในวงเงินงบประมาณที่ได้
รับในปีงบประมาณ 2541   
          4. การจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่องประ  
สานงานกับกระทรวง  ทบวง  กรมที่เกี่ยวข้อง  ดำเนินการขอเจรจาผ่อนปรนระยะเวลาการชำระเงิน  
ให้สอดคล้องกับจำนวนงบประมาณที่ได้รับในปี 2541    และพิจารณาทบทวนให้ใช้วัสดุอุปกรณ์และ  
ครุภัณฑ์ที่ผลิตได้ในประเทศทดแทนหรือชะลอหรือยุบเลิกรายการ  หรือลดจำนวนรายการครุภัณฑ์  
ที่มีลำดับความสำคัญต่ำ   หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะรัฐ  
มนตรีโดยเคร่งครัด
          5. กรณีการก่อสร้างและการจัดหาครุภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาปรับรูปแบบรายการตามโครงการ โดยให้ใช้วัสดุครุภัณฑ์ที่ 
ผลิตในประเทศให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องมีการนำเข้าให้ใช้หลักการค้าต่างตอบแทนตามมติคณะ  
รัฐมนตรีโดยเคร่งครัด 
          6. เนื่องจากมีมูลนิธิและองค์กรเอกชนในต่างประเทศได้แสดงความประสงค์ที่จะให้การสนับ
สนุนให้ทุนการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรแก่ประเทศไทย จึงมอบให้กระทรวงการต่างประเทศ 
รับไปดำเนินการ     โดยให้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ  ทบวงมหาวิทยาลัย  และสำนักงาน 
ก.พ.  ด้วย

          เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าฝังซ้ายลำโดมใหญ่ ในท้องที่ตำบลโซง   
อำเภอน้ำยืน ตำบลโคกสะอาด กิ่งอำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี  และป่าเขาพระ   
วิหาร ในท้องที่ตำบลเสาธงชัย ตำบลภูผาหมอก อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ  ให้เป็นเขต  
อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีชุดก่อน   ซึ่งสำนักงานคณะกรรม  
การกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายต่อไป     ตามที่สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เสนอ

          รับทราบรายงานการใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตามมาตรการจูงใจในการประหยัด  
ในภาครัฐ และเห็นชอบแบบรายงานการใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตามที่สำนักเลขาธิการ  
คณะรัฐมนตรี เสนอ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้น 
ไป

          1. รับทราบเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานด้านการประสานงานราชการในพระองค์  เรื่อง การขอ 
พระราชทานความเป็นธรรมและขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์   ในรอบปีงบประมาณ  พ.ศ. 
2540  และให้กระทรวง ทบวง กรมถือปฏิบัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ ดังนี้ 
              1.1 ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้ถือเป็นหลักการว่า  เรื่องการ 
ขอพระราชทานความเป็นธรรมและขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์   เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
ที่จะต้องพิจารณาดำเนินการหรือหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว 
              1.2 ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานรีบพิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ  
ไปโดยเร็ว   
              1.3 ในกรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลาในการดำเนินการ   
นานกว่าที่กำหนด     ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้นแจ้งกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จให้   
สำนักราชเลขาธิการและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบด้วย      
             1.4 ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่มีเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการดำเนินการ     จำนวน  
111 เรื่อง  พิจารณาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน   และหากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา  
ในการดำเนินการนานกว่าเวลาที่กำหนด     ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้นแจ้งกำหนดระยะเวลา   
ดำเนินการแล้วเสร็จให้สำนักราชเลขาธิการและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบด้วย   
          2. เพื่อเป็นการลดพระราชภาระเกี่ยวกับเรื่องการขอพระราชทานความเป็นธรรม และการขอ    
พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการ  โดยให้สำนัก  
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีติดตามและประสานงานโดยใกล้ชิดด้วย

          อนุมัติให้กรมการปกครองโอนเงินจำนวน 534,998 บาท ชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ 
ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน  ของจังหวัดสมุทรสาคร   (ผู้ประสบอุทกภัยโดยการก่อสร้างเขื่อนเรียงหิน
ใหญ่ป้องกันคลื่นซัดชายฝั่ง) ตามที่จังหวัดสมุทรสาครขอเบิกจริง ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบหลักเกณฑ์การจำแนกพื้นที่และรายชื่อโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร 
และขาดแคลนบุคลากร   ซึ่งมีโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลนระดับ 1 จำนวน
127 แห่ง และระดับ 2 จำนวน 70 แห่ง ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ราย  ดังนี้
          1. นางรัชนี วิวัฒน์กุล ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรม  สาขากุมารเวช  
กรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลลำปาง  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง  สำนัก 
งานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2540
          2. นายสัญชัย เชื้อสีห์แก้ว ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรม สาขากุมาร 
เวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี  กรมการแพทย์  ตั้งแต่ 
วันที่ 8 ตุลาคม 2540  
          ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้ง นายสมทรง รักษ์เผ่า ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรมป้องกัน) 
กลุ่มงานที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2540 
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2541 ของสำนัก
งานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดังนี้
          1. ได้จัดทำโครงการประสานความร่วมมือระดับนโยบายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปราม  
และแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 1,500,000 บาท และโดยที่การดำเนินการใน 
ภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายสากลมีลักษณะพิเศษจะต้องดำเนินการในลักษณะปิดลับ เนื่องจากเป็นกิจกรรม  
ที่มีความเสี่ยงและจะเสียหายต่อผลประโยชน์ของชาติหากถูกเปิดเผย  จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอเบิกจ่ายเงิน  
งบประมาณดำเนินการโครงการดังกล่าวในลักษณะเป็นเงินราชการลับ  
          2. ได้ขอให้สำนักงบประมาณ  พิจารณาเปลี่ยนแปลงประเภทงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2541  จากแผนงานดำเนินนโยบายเพื่อความมั่นคง  งานบริหารทั่วไป  หมวดรายจ่ายอื่น  รายการค่าใช้    
จ่ายในการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลบางส่วน   จำนวน  1,500,000  บาท   
เป็นเงินราชการลับ เพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว   ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาแล้ว เห็นชอบในหลักการให้    
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว ในลักษณะเงินราชการลับได้ 
          3. นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2541 เพื่อใช้ในการ  
ดำเนินการของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จำนวน 1,500,000 บาท   ถือจ่ายในลักษณะเงินราชการ 
ลับ และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
          ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รายงาน 

    
 

          รับทราบสรุปผลการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาล  เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2540  ตามที่
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ  ดังนี้ 
          1. นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงภาพรวมของนโยบายรัฐบาล
          2. รองนายกรัฐมนตรี (นายศุภชัย  พานิชภักดิ์)  ได้ชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน  - 
ปานกลาง
          3. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ) ได้ชี้แจงเรื่อง การดำเนิน 
การในเรื่องต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 
          4. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิสิฐ  ลี้อาธรรม)  ได้ชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจ 
ด้านการเงินการคลัง
          5. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณได้ชี้แจงเรื่อง การบริหารงานด้านงบประมาณ 
          6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมและปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิ  
การสังคมได้ชี้แจงเรื่อง แผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาการว่างงาน
          7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายธารินทร์  นิมมานเหมินท์)  ชี้แจงเรื่อง  นโยบาย 
เศรษฐกิจด้านการเงินการคลัง 
          ให้กระทรวง  ทบวง    เร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการ หรือปรับแผนปฏิบัติการของ  
กระทบวง  ทบวง  ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล   กับให้เตรียมพร้อมในเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อ  
รองรับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร  ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2540    และให้สำนัก 
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำแบบตารางสรุปผลการดำเนินการและปัญหาอุปสรรคในการดำเนิน   
การตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้ เพื่อแจ้งให้กระทรวง ทบวง ปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ตามที่ระบุไว้ใน  
รัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 88

          เห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีชุดก่อน   ซึ่งสำนักงานคณะ 
กรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว รวม 5 ฉบับ ดังนี้  
          1. กฎกระทรวง ฉบับที่ 46  (พ.ศ. 2540)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทาน  
หลวง  พุทธศักราช 2485   (กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำชากนอก   ในท้องที่ตำบลหนอง 
ปรือ และตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี) 
          2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 47  (พ.ศ. 2540)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทาน
หลวง พุทธศักราช 2485 (กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองกลางดง   ในท้องที่ตำบลบึง   
อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี)  
          3. กฎกระทรวง ฉบับที่ 48 (พ.ศ. 2540)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทาน  
หลวง  พุทธศักราช 2485  (กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองค้อ   ในท้องที่ตำบลหนอง  
ขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี) 
          4. กฎกระทรวง ฉบับที่ 49 (พ.ศ. 2540)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทาน  
หลวง พุทธศักราช 2485 (กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ในท้องที่ตำบลหนอง  
ปรือ และตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี) 
          5. กฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติการชลประทาน  
หลวง  พุทธศักราช  2485   (กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต   ในท้องที่ตำบลตะ 
เคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี) 
         ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปได้ 
 

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการตามมาตรการปรับภาคราชการในสภาวะวิกฤตทาง
เศรษฐกิจ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ  ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก คือ
         1. มาตรการปรับระบบงานภาครัฐ
         2. มาตรการปรับปรุงคุณภาพข้าราชการ
         3. มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
         4. มาตรการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
         5. มาตรการลดบทบาทการดำเนินกิจการของรัฐ
         6. มาตรการอื่น ๆ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
โดยให้ส่วนราชการรับไปดำเนินการต่อไป โดยให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับกระทรวงการคลังและ
สำนักงบประมาณ ติดตามผลการดำเนินการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย 
ทั้งนี้  ให้รับข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณา
ดำเนินการด้วย 

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ จำนวน 2 คน แทนกรรมการ
เดิมที่ลาออก ดังนี้
          1. นางจิระพรรณ นิรัติศัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ  เป็นกรรมการแทน นาย 
วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์
          2. นายสุชาติ ศุภทนต์ เป็นกรรมการแทน นายจิรายุ จรัสเสถียร
          ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์) เสนอ    โดยให้  
แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          เห็นชอบคำสั่ง ที่ 408/2540 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2540 แต่งตั้งข้าราชการการเมือง 
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ราย ดังนี้
          1. พลตำรวจโท ธนู  หอมหวล
          2. นายวีระศักดิ์  โควสุรัตน์
          3. นายประสาร  เรืองสุขอุดม
          4. นายสุรชัย  ทิณเกิด
          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) เสนอ

         เห็นชอบคำสั่ง ที่ 247/2540 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2540  แต่งตั้งข้าราชการการเมือง 
จำนวน 1 ราย ดังนี้
         1. นายอภิชาติ  ตีรสวัสดิชัย             เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยา
                                                          ศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
         ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
         ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ 

          เห็นชอบคำสั่ง ที่ 1469/2540 และ 1470/2540 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2540 แต่งตั้ง
ข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ดังนี้
          1. นายมงคล  ตันสกุล              เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
          2. นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์     เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 
          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ 

          เห็นชอบคำสั่ง ที่ 411/2540 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2540 แต่งตั้งข้าราชการการเมือง 
จำนวน 1 ราย ดังนี้ 
          1. นายประทักษ์  สิมะพิชัยเชษฐ์              เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
                                                                  คมนาคม (นายเผดิมชัย  สะสมทรัพย์)
          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ

          อนุมัติให้กรรมการในคณะกรรมการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร  ตามประกาศสำนักนายก 
รัฐมนตรี ลงวันที่ 12 กันยายน 2538 พ้นจากตำแหน่ง  และแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการองค์
การตลาดเพื่อเกษตรกรชุดใหม่ จำนวน 7 คน ดังนี้
          1. นายพหล  จินดากุล
          2. นายดำรง  รัตนพานิช
          3. พลตำรวจตรี วิรัช  วาณิชกะ
          4. นายอุดร  ขจรเวหาศน์  อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
          5. นายอำนาจ  สอนอิ่มสาตร์ 
          6. นางหทัยชนก  วิไลลักษณ์   ตัวแทนเกษตรกร
          7. นายสุพันธ์  ถวิลสุวรรณวัง  ตัวแทนเกษตรกร
          ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป 

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา 
ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2539 และลงวันที่ 16 กันยายน 2540 พ้นจากตำแหน่ง  
และ แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลาชุดใหม่  จำนวน  7  คน  
โดยมี นายทวีศักดิ์  เสสะเวช  เป็นประธานกรรมการ  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ   โดยให้
แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด
ชุดใหม่จำนวน 10 คน   แทนประธานกรรมการและกรรมการชุดเดิมที่ครบวาระ   เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 
2540 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป  โดยมี นายดำริ  วัฒนสิงหะ  เป็นประธานกรรมการ 
ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ