รับทราบรายงานการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล งวดที่ 2 (เมษายน - กันยายน2540)
ปีงบประมาณ 2540 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ รายงาน

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ดำเนินการตามมติคณะกรรมการ
นโยบายและประสานงานการดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญในเรื่องการออกกฎและข้อบังคับที่อาจจะ
กระทบกับสิทธิเสรีภาพของเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนตามที่บัญญัติไว้ในบทบัญญัติมาตรา 29 ของรัฐธรรม
นูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎและข้อบังคับที่เป็นเรื่องทางบริหารที่ปฏิบัติประจำอยู่เสมอ
และไม่ได้ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาก่อน จึงต้องมีความระมัดระวังอย่าง
มากและตรวจสอบกฎและข้อบังคับที่มีอยู่แล้ว  หากพบว่า  ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้รีบทำ
การแก้ไขโดยด่วน

          รับทราบผลการสัมมนาผู้แทนบริษัทที่จะประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวตามโครงการ
ร่วมใจนำเที่ยวเมืองไทย ซื้อของไทย  เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและผลการดำเนินการการแก้ไขปัญหา 
สิทธิการบินให้เป็นเสรี ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ

          อนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง  กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 
เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2387 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 (พิมพิสารน้อย)
- บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2045 (หนองห่าง) เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่  
กระทรวงคมนาคม เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   แล้วดำเนินการ 
ต่อไปได้

          1. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของแต่ละกระทรวง ทบวง  รับรายการงบประมาณรายจ่ายของส่วน   
ราชการและรัฐวิสาหกิจที่จะต้องขอรับอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ จำนวน 1,216 รายการ  
ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ ไปพิจารณาทบทวน   โดยให้พิจารณาความพร้อมของโครงการและ  
ความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แล้วแจ้งให้สำนักงบประมาณทราบโดยด่วน ทั้งนี้ ให้สำนัก  
งบประมาณรวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ภายใน 2 สัปดาห์
          2. ให้สำนักงบประมาณรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณา ดังนี้ 
              2.1 จะสมควรให้ส่วนราชการดำเนินการประกวดราคา และทำสัญญาจ้างก่อสร้างไปได้ 
โดยมีเงื่อนไขว่าจะเริ่มจ่ายเงินตามสัญญาจ้างในไตรมาสที่ 4 หรือไม่ 
              2.2 รายการผูกพันงบประมาณที่ไม่อาจดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันล่วง 
หน้าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2540 เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันงบประ  
มาณล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี จะสมควรให้พับไป หรือไม่  และสมควรพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์
ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หรือไม่
              2.3 ในการพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2542  จะสม  
ควรเพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาปรับลดงบประมาณที่ต้องการใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ 
ด้วยหรือไม่

          1. เห็นชอบในหลักการการเบิกจ่ายเงินค่าเบี้ยประชุมกรรมการ เงินสมนาคุณคณะกรรมการ และ  
ค่าตอบแทนในลักษณะเดียวกับเบี้ยประชุม  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป      ตามที่ 
กระทรวงการคลังเสนอ โดย 
              1.1 คณะรัฐมนตรีเห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ป. ซึ่งปัจจุบันได้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เป็นคณะกรรมการที่มีความสำคัญ  
และมีหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างจากคณะกรรมการอื่น ๆ    จึงให้คงรับเงินสมนาคุณตามหลักเกณฑ์  
เดิม    และให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาว่าจะสมควรยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คณะกรรม
การใดอีก เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง    
              1.2 สำหรับการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมกรรมการและค่าตอบแทนทำนองเดียวกับเบี้ยประชุม  
กรรมการ  ซึ่งได้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา นั้น ให้กระทรวงการคลังรับไปแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกา 
แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
          2. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุม ค่าตอบแทน ตลอด 
จนเงินสมนาคุณต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจ แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยด่วน 
          3. ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจกำชับให้รัฐวิสาหกิจในสังกัด ดำเนินการตามนโยบายประ 
หยัดของรัฐบาลและให้ใช้จ่ายงบประมาณของรัฐวิสาหกิจอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าด้วย

          เห็นชอบหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมืองเพิ่มเติม ตามมติคณะ  
กรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 7/2540 โดยให้การใช้รถนำขบวนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน  
ที่ 7 มกราคม 2540  ครอบคลุมการใช้รถนำขบวนในการรับรองแขกต่างประเทศด้วย ซึ่งการรับรองแขกที่   
จะสามารถใช้รถนำขบวนได้  แขกต่างประเทศดังกล่าวจะต้องมีตำแหน่งเที่ยบเท่ากับตำแหน่งของผู้มีสิทธิใช้   
รถนำขบวนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2540    ทั้งการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 
และไม่เป็นทางการ กับให้เพิ่มประธานวุฒิสภา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานปกครองสูงสุด  เป็น
บุคคลสำคัญที่สมควรใช้รถตำรวจนำขบวนได้ในกรุงเทพมหานคร (ประจำ)  และให้เพิ่มเติมข้อความสำหรับ 
หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนกรณีในเขตกรุงเทพมหานคร (ครั้งคราว) ดังนี้ "ทั้งนี้ นอกจากผู้มีสิทธิ   
ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สมควรใช้รถตำรวจนำขบวนได้ในกรุงเทพมหานคร (ประจำ)  แล้ว   ให้อยู่ในดุลพินิจ  
ของผู้บังคับการตำรวจจราจรหรือผู้รักษาราชการแทน   หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจ   
จราจรเป็นผู้พิจารณาอนุญาตเป็นครั้งคราวได้"  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก 
(สจร.) เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

          1. เห็นชอบให้กำหนดตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจภูธร จำนวน 253 ตำแหน่ง และหัวหน้า    
สถานีตำรวจนครบาล จำนวน 24  ตำแหน่ง  เป็นตำแหน่งผู้กำกับการ   ตามที่กระทรวงมหาดไทย   
เสนอ โดยให้กรมตำรวจจัดให้มีการปฐมนิเทศให้ผู้เข้ารับตำแหน่งผู้กำกับการได้เข้าใจวัตถุประสงค์  
และเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีต้องการให้สถานีตำรวจปฏิบัติภารกิจด้านการบริการประชาชน ด้าน  
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน   และการกวดขันการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่าง  
เคร่งครัดและเป็นธรรม สามารถอำนวยความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างทั่ว  
ถึง  
          2. ให้กรมตำรวจร่วมกับนักวิจัยอิสระ  หรือสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเร่งประเมินผลการยก    
ระดับหัวหน้าสถานีตำรวจที่ดำเนินการไปแล้วทั่วประเทศ  ในแง่การขยายบริการไปสู่ประชาชนให้  
เกิดความสะดวก  รวดเร็ว  และมีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม  โดยเปรียบเทียบกับผลงานของ
สถานีตำรวจที่ยังมิได้ยกระดับหัวหน้าสถานี    แล้วรายงานให้คณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ
เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2540) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 และระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์
แห่งประเทศไทยว่าด้วยการควบคุมกิจการการรับจัดบริการขนส่งในกิจการฮัจย์ การจัดบริการ
อื่นที่เกี่ยวกับกิจการฮัจย์ และการโฆษณาหรือกระทำการอื่นใดที่เกี่ยวกับกิจการฮัจย์ ตามมาตรา 5
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2540  ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
คนก่อน (นายชิงชัย มงคลธรรม) เป็นผู้ลงนาม มาเพื่อดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการอยู่ในช่วงที่เปลี่ยนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่   จึงยังไม่ได้นำลงประกาศ
ราชกิจจานุเบกษา
          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินการกฎกระทรวงและระเบียบ ฯ ทั้ง 2 ฉบับ ต่อไปได้
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบันเป็นผู้ลงนาม แล้วดำเนินการต่อไปได้

          รับทราบรายงานงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุด  ณ วันที่ 30 กันยายน 2539   และ 2538  
ขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รายงาน และดำเนิน   
การประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนพฤกษศาสตร์  พ.ศ.  
2535 ต่อไป

          อนุมัติให้ นางอรนุช ไวนุสิทธิ์ ข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งนิติกร 7 ว สำนักการเงินการคลัง  
กรมบัญชีกลาง  ไปช่วยปฏิบัติงานของกองทุนบำเหน็จบำนาญช้าราชการ   มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี 
โดยให้นับระยะเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ

          อนุญาตให้ นางสาวสุวภี พงษ์ประดิษฐ์ ข้าราชการครู ตำแหน่งอาจารย์ 2 โรงเรียนนครสวรรค์
อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์  ซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาป่วยเนื่องจากการปฏิบัติราชการมา 
แล้ว 473 วัน และยังต้องพักรักษาตัวอยู่ ลาป่วยต่อไปอีก 175 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2540  ถึง 
วันที่ 6 มีนาคม 2541  เป็นการลาป่วยต่อเนื่องในเหตุอย่างเดียวกัน รวม 648 วัน     โดยให้ได้รับเงิน
เดือนเต็ม ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดร่องแมด ตำบลลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา  
ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ 
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา  อักษรย่อ  สำหรับสาขาวิชา     
ครุยประจำตำแหน่ง  ครุยวิทยฐานะ  และเข็มวิทยฐานะ   ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   (ฉบับที่ ..)  
พ.ศ. .... 
          1. กำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับปริญญาของคณะสหเวชศาสตร์  คณะจิตวิทยา    และ 
บัณฑิตวิทยาลัย 
          2. ยกเลิกปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาในสาขาวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์  
และพาณิชย์ศาสตร์   
          ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย เสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 
แล้วดำเนินการต่อไปได้

          เห็นชอบและอนุมัติการแก้ไขปัญหาการว่างงานของบัณฑิต และผู้ถูกเลิกจ้างงาน   โดยให้บรรจุ 
"โครงการทางสว่างแห่งอาชีพ" เป็นมาตรการที่ 7  ภายใต้กรอบนโยบายมาตรการบรรเทาปัญหาการ 
ว่างงาน     และให้รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยและปลัดทบวงมหาวิทยาลัยร่วมเป็นกรรมการใน 
คณะกรรมการในนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานแห่งชาติ  ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรง 
งานและสวัสดิการสังคม (นายประกอบ  สังข์โต) เสนอ โดยให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการทาง 
สว่างแห่งอาชีพที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ เป็นคณะอนุกรรมการอีกคณะหนึ่งภายใต้คณะกรรมการ 
นโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานแห่งชาติ

          รับทราบรายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงิน สัญญาค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเซีย 
สำหรับโครงการโทรศัพท์สาธารณะทางไกลชนบทระดับหมู่บ้าน พ.ศ. 2539 - 2541 และแจ้งให้สำนัก 
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับสัญญากู้เงินและสัญญาค้ำประกันเงิน 
กู้ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลัง รายงาน

           ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ 9 ธันวาคม 2540 อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังกู้เงิน
จากธนาคารพัฒนาเอเชีย ในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ตามโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างและปฏิรูปตลาดการเงิน โดยมีข้อสังเกตให้ปรับข้อความใน
เอกสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้สอดคล้องกัน และให้พิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ผูกพันให้
ฝ่ายไทยต้องดำเนินการให้ละเอียดรอบคอบ นั้น
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี และได้แจ้งให้ธนาคาร
-พัฒนาเอเชีย พิจารณาแก้ไขข้อความในกรอบมาตรการด้านนโยบายแลัว และเอกอัครราชทูตไทย
ประจำกรุงมะนิลา ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามใน
สัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องในนามราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2540 โดยมีสาระ
สำคัญของสัญญากู้เงิน เป็นไปตามขอบเขตเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ ซึ่งคณะรัฐมนตรี
มีมติทราบ

          อนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2540 เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะ
กรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค   โดยให้เปลี่ยนแปลงกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิ 
ภาค จาก นายสมศักดิ์  ศรีวรรธนะ เป็น นายมนูญ  มุกข์ประดิษฐ์ และ พลตรี สาคร  กิจวิริยะ  เป็น 
พลตำรวจโท ทวี ทิพย์รัตน์ ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

          1. เห็นชอบนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  กากถั่วเหลือง  
และปลาป่น) ปี 2541 ตามข้อผูกพันขององค์การการค้าโลก (WTO) และอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ 
โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2541  ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ
          2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า  
              2.1 กรณีที่จะให้มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกินจำนวน 300,000 ตัน  กระทรวงพาณิชย์    
ควรหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน 
              2.2 การนำเข้ากากถั่วเหลืองควรพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะให้เอกชนกลุ่มอื่น ๆ นอกจาก
สมาคมผู้เลี่ยงสัตว์ต่าง ๆ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์เข้า
มามีส่วนร่วมด้วย  
              2.3 ในการแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร กระทรวงพาณิชย์ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินจากกอง
ทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

          เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาล
ทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2540/41 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ