อนุมัติ
          1. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 123) 
พ.ศ. 2540  (กำหนดให้สินค้ากระจกโฟลตใสและสีที่มีความหนา 3-6 มม.       ตามพิกัดอัตรา
ศุลกากรขาเข้าประเภทที่ 7005.219 และ 7005.299 ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศสาธารณรัฐ
อินโดนีเซีย เป็นสินค้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร)
          2. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 125) 
พ.ศ. 2540 (กำหนดให้สินค้าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณหน้าตัดรูปตัว H    ตามพิกัดอัตราศุลกา 
กรขาเข้าประเภทที่ 7216.33  ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีเป็นสินค้าที่ต้อง
ชำระค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร)
          3. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้า    
สินค้ากระจกโฟลตใสและสีที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย พ.ศ.2540 (ให้
เรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าสินค้ากระจกโฟลตใสและสีที่มีความหนา  3-6
มม.  ตามพิกัดอัตราศุลกากรขาเข้าประเภทที่ 7005.219  และ 7005.299    ที่มีแหล่งกำเนิด
จากประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียในอัตราที่ประกาศกำหนด)  
          4. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้า   
สินค้าเหล็กโครงสร้างรูปพรรณหน้าตัดรูปตัว H    ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศสาธารณรัฐเกา   
หลี  พ.ศ. 2540  (ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าสินค้าเหล็กโครงสร้างรูป  
พรรณหน้าตัดรูปตัว H   ตามพิกัดอัตราศุลกากรขาเข้าประเภทที่ 3216.33    ที่มีแหล่งกำเนิด
จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีในอัตราที่ประกาศกำหนด)
          ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ

          รับทราบรายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงินจากธนาคารโลก  สำหรับโครงการเงินกู้  
เพื่อปรับโครงสร้างสถาบันการเงินกับให้ลงประกาศกระทรวงการคลังในราชกิจจานุเบกษา  ใน
วันที่ 25 ธันวาคม 2540 ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ

          1. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้เงินงบกลาง   ประจำปีงบประมาณ 2541  
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น     เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยปี   
2540 จำนวน 762,621,838 บาท
          2. เห็นชอบให้สหกรณ์การเกษตร  สหกรณ์นิคม   งดคิดดอกเบี้ยจากสมาชิกสหกรณ์  
ที่ประสบอุทกภัยในปีที่เกิดอุทกภัย และให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอีก 1 ปี 
          3. อนุมัติให้ใช้เงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ 2541 เพื่อทำการศึกษาความเหมาะ 
สมเบื้องต้นของโครงการวางระบบเตือนภัยด้านการเกษตร (Pre - feasibility study)  สำนัก 
งานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 10,000,000 บาท
          ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ    สำหรับเรื่องการเงินให้เป็นไปตามความ 
เห็นของสำนักงบประมาณ

          อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  ปีงบประมาณ 2541   
จำนวน 53,154,100 บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อม  
แซมทรัพย์สินของทางราชการใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยซึ่งยัง  
ไม่ได้ดำเนินการซ่อมแซมให้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์  สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร  และ 
กรมประมง  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ  สำหรับเรื่องการเงินให้เป็นไปตามความ 
เห็นของสำนักงบประมาณ  และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะ 
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

          เห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
ชุดใหม่ จำนวน 12 คน โดยมี นายประมวล รุจนเสรี เป็นประธานกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะ
รัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบคำสั่ง ที่ 411/2540 ลงวันที่ 30 กันยายน 2540 แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ราย ดังนี้
          1. นายพงษ์ศักดิ์  วรปัญญา
          2. นายอดุลย์  วงษ์พานิช
          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ประกันสังคม พ.ศ. 2533 (กำหนดอัตราเงินสมทบ) ของนายจ้างและผู้ประกันตนเข้ากองทุนประกันสังคม
เพื่อประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และตาย  ซึ่งคณะรัฐมนตรี
ได้มีมติ (วันที่ 7 ตุลาคม 2540) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงดังกล่าว  อัตราเงินสมทบที่กำหนดไว้มี
2 อัตรา คือ
         1. ช่วงปี พ.ศ. 2541 - 2543 อัตราเงินสมทบฝ่ายละ 1% ของค่าจ้าง
         2. ช่วงปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป อัตราเงินสมทบฝ่ายละ 1.5 % ของค่าจ้าง
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ดำเนินการ ดังนี้
          1. ในหลักการเห็นควรจัดโครงสร้างองค์กรแก้ไขปัญหาในรูปแบบเดิม  โดยมอบให้หน่วยงาน 
รับผิดชอบดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ และคณะทำงานต่าง ๆ  โดยประสานกับผู้แทนเกษตรกร 
ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงองค์ประกอบต่อไป
          2. มาตรการตามมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและอยู่
ในระหว่างการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้คงดำเนินการต่อไป  
          3. การจัดตั้งองค์กรเพื่อบริหารงาน เห็นควรให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน  นับแต่   
วันที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการแก้ไขปัญหาตามแนวทางนี้    และให้มีการประชุมครั้งแรกภายใน 
15 วัน นับแต่วันที่ได้มีการแต่งตั้ง
          ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ

          เห็นชอบเรื่อง  การใช้วัสดุก่อสร้างอาคารของทางราชการ   ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 
14 ตุลาคม 2540  เรื่อง  การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541    ให้
ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการจัดซื้อ จ้างเหมาหรือเหมาช่วงพิจารณาจัดหาวัสดุและครุภัณฑ์ 
ที่ผลิตในประเทศไทย โดยการออกแบบและก่อสร้างอาคารของทางราชการ  สมควรกำหนดให้ใช้  
วัสดุก่อสร้างที่ผลิตได้ภายในประเทศด้วย    เพื่อเป็นการสงวนเงินตราไม่ให้ไหลออกนอกประเทศ  
โดยมอบให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป  ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายก 
รัฐมนตรี (พลอากาศเอก สมบุญ ระหงษ์) เสนอ

         คณะรัฐมนตรีมีมติว่า 
         1. รับทราบตามสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร   วันจันทร์  
ที่ 22 ธันวาคม 2540  ตามที่ประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เสนอ   สำหรับเหตุ  
ผลที่ต้องยับยั้งร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการประสานงาน  
สภาผู้แทนราษฎรเสนอโดยเฉพาะประเด็นที่เห็นว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ นั้น  ให้ตัดออก    และมอบให้
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรับไปจัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อไป 
          2. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงเหตุผลในการขอถอนร่าง
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง 
กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... และร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับที่ ..)  
พ.ศ. ....    และให้กระทรวงมหาดไทยเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงเหตุผลในการขอถอนร่างพระราชบัญญัติ 
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประ 
มวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายเวลาการเช่า) 
          3. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล)       เสนอให้ขอเลื่อนร่างพระราช 
บัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  (วาระที่ 5.37)  ขึ้นมาพิจารณาก่อน  ส่วนจะขอ   
เปลี่ยนแปลงระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณาในลำดับใด      ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน 
ราษฎรรับไปประสานและดำเนินการในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป
          4. ประสานงานระหว่างคณะรัฐมนตรีกับวุฒิสภาซึ่งจะแต่งตั้งเพื่อให้คณะกรรมการประสานงาน
สภาผู้แทนราษฎรรับไปพิจารณาความเหมาะสม  องค์ประกอบ  และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
ประสานงานวุฒิสภาซึ่งจะแต่งตั้งเพื่อ  แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข 1034 สายต่อเขตสุขาภิบาลเกาะคาควบคุม - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11
(ห้างฉัตร) ตอนบ้านประตูไร่ - บ้านแม่ปูน พ.ศ. .... (เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้า  
หน้าที่มีสิทธิเข้าไปสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอนใน 
ท้องที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง) ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

         คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2479 กำหนดให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผน
โบราณทั่วไป ที่ไม่สามารถสอบผ่านความรู้ความชำนาญจนเป็นที่พอใจของคณะกรรมการควบคุมการ
ประกอบโรคศิลปะได้รับการอบรมศึกษาเพิ่มเติมตามกำหนดและเงื่อนไขดังนี้
          1. สาขาเวชกรรม เมื่อพ้นระยะเวลา 9 ปี นับแต่การอบรมศึกษาได้สิ้นสุดลง
          2. สาขาเภสัชกรรม เมื่อพ้นระยะเวลา 6 ปี นับแต่การอบรมศึกษาได้สิ้นสุดลง
          3. สาขาการผดุงครรภ์ เมื่อพ้นระยะเวลา 6 ปี นับแต่การอบรมศึกษาได้สิ้นสุดลง
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ
ต่อไปได้

           ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ 25 กุมภาพันธ์ 2540 แต่งตั้งคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลไทย
เพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ   นั้น 
ประเทศไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถาน ได้จัดทำความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ เมื่อวันที่
25 สิงหาคม 2537 ที่กรุงเทพมหานคร โดยทำความตกลงระบุให้ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่าย
มีสิทธิแต่งตั้งสายการบินที่กำหนดของตนได้ฝ่ายละหนึ่งสายการบิน  ต่อมาทบวงการบินพลเรือน
คาซัคสถาน เสนอขอปรับปรุงตามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ คณะผู้แทนแห่งราชอาณาจักรไทย
ได้เจรจากับคณะผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐคาซัคสถานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2540 มีมติเห็นชอบ
ให้แก้ไขความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ระหว่าง ไทย - คาซัคสถาน เพื่อให้ภาคีผู้ทำความ
ตกลงแต่ละฝ่าย สามารถกำหนดสายการบินได้ฝ่ายละมากกว่าหนึ่งสายการบิน โดยการแลก-
เปลี่ยนหนังสือทางการทูต ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ

          รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลงวดที่ 2 ปีงบประมาณ 2540
(เมษายน - กันยายน 2540) ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ โดยให้กระ
ทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรับไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
           1. เร่งรัดดำเนินการตามมาตรการสร้างโอกาสการทำงานในประเทศ การคุ้มครอง  
และป้องกันการถูกหลอกลวง  การเตรียมความพร้อมก่อนไปทำงานต่างประเทศ   การดูแล 
ระหว่างทำงานในต่างประเทศ  และการดูแลหลังกลับจากต่างประเทศ   ตามโครงการแก้ไข 
ปัญหาการทำงานในต่างประเทศของแรงงานไทยให้มีผลทางปฏิบัติอย่างจริงจัง      เพื่อให้  
สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะอำนวยความสะดวก  คุ้มครอง  ตลอดจนส่งเสริมสิทธิ 
และผลประโยชน์ของแรงงานไทยในต่างประเทศ
           2. ปรับปรุงแก้ไขระเบียบหลักเกณฑ์ในการผ่อนผันการจ้างแรงงานต่างชาติให้สอด 
คล้องกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การจัดระบบควบคุมแรงงานต่างชาติผิด
กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้อง 
กันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเข้าประเทศให้ได้ผล
อย่างจริงจัง รวมทั้งการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ามาใหม่ด้วยเพื่อให้สอดคล้อง
กับนโยบายของรัฐบาลที่จะลดจำนวนแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมาย
          3. รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายวัฒนา อัศวเหม)
เกี่ยวกับการสนับสนุนให้ส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการ
ด้วย

          รับทราบสรุปผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม  ครั้งที่ 8   เมื่อวันที่ 8-10    
กันยายน2540  ณ เมืองเซบู  ประเทศฟิลิบปินส์    และผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวด   
ล้อม  ครั้งที่ 7  เมื่อวันที่ 17 - 18 กันยายน 2540  ณ กรุงจาการ์ตา  ประเทศอินโดนีเซีย    สรุปสาระ  
สำคัญได้ ดังนี้ 
           1. เห็นชอบต่อการกำหนดกรอบมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นมาตรฐานสำหรับเป้าหมาย   
ระยะยาว ในประเทศสมาชิกอาเซียน
           2. เห็นชอบต่อโครงการ  ASOEN Flagship  Project จำนวน 3 โครงการ 
           3. เห็นชอบต่อปฏิญญาจาการ์ตาด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา   (Jakarta  Declaration  on  
Environment and Development)
          ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ

          เห็นชอบการแต่งแตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติ ตามที่ 
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยให้เปลี่ยนแปลงกรรมการผู้ทรงคุณ    
วุฒิ ฯ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ ทั้งนี้  ตั้งแต่ 
วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          อนุมัติให้แต่งตั้ง นายยงยุทธ อมาตยกุล  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ  เป็นกรรมการ  
ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำ
ตาลทราย พ.ศ. 2527 แทน นางนวลอนงค์ อังศุรัตน์  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม  เสนอ  โดย 
ให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2521     ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจที่เรียกชื่ออย่างอื่นกับ
ตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ที่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีชุดก่อน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกา  ได้ตรวจพิจารณาและรัฐมนตรีได้ลงนามแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

          อนุมัติการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของกระทรวงการต่างประเทศ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี 
จำนวน 2 คณะ และแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่อีกจำนวน 2 คณะ ดังนี้
          1. ยกเลิกคณะกรรมการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี   ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 
ไทย - รัสเซีย เนื่องจากภาระหน้าที่การจัดงานดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว  
          2. ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - พม่า   (ฝ่าย   
ไทย) ดังนี้ "ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม ฯ  แต่ละครั้งอาจจะมีประเด็นที่อยู่นอกเหนืออำนาจ 
หน้าที่ของส่วนราชการที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการฝ่ายไทยนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็จะได้แต่งตั้งกรรม 
การเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและความจำเป็นในการประชุมแต่ละครั้งต่อไป"     เนื่องจากในการประชุม 
บางครั้งมีการพิจารณาเรื่องที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกรรมการในองค์ประกอบเดิม   จำเป็นต้องเชิญ   
ผู้แทนจากส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณาเป็นคราว ๆ ไป
          ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ โดยให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเป็น  
กรรมการในคณะกรรมาธิการ ฯ ทั้ง 2 คณะ ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการ
สังคม (นายจองชัย เที่ยงธรรม) เสนอ 

          รับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ตั้งแต่ปี   
งบประมาณ  จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2540  ซึ่งมีการจ่ายเงินทั้งสิ้น 29,457.6 ล้านบาท    คิดเป็น  
ร้อยละ 3.68 ของวงเงินงบประมาณ  เปรียบเทียบกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วงระยะเวลา  
เดียวกันกับปีงบประมาณที่ผ่านมา  มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำกว่าร้อยละ 0.71   ตามที่กระทรวงการ
คลัง รายงาน