ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1773 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 35441 - 35460 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35441 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ที่กรุงฮานอย | กต | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ที่กรุงฮานอย
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2553 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมฯ ได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการปฏิบัติตามเอกสารผลการประชุมผู้นำฯ ครั้งที่ 1 และ แนวทางความร่วมมือในอนาคต โดยญี่ปุ่นยืนยันการให้ความช่วยเหลือต่อประเทศลุ่มน้ำโขงอย่างต่อเนื่อง และได้มี ข้อเสนอเรื่อง "หนึ่งทศวรรษสู่แม่โขงเขียวขจี" (A Decade toward the Green Mekong) โดยเน้นประเด็นด้านการ จัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในลุ่มน้ำโขง และจะให้ความช่วยเหลือประเทศ ลุ่มน้ำโขงด้านวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ผ่านงบประมาณของรัฐบาลญี่ปุ่น ความช่วยเหลือในการพัฒนา อย่างเป็นการทาง (Official Development Assistance : ODA) และความช่วยเหลือทางการเงินจากภาคเอกชนของ ญี่ปุ่น จำนวน 500,000 ล้านเยน (ประมาณ 17,000 ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2553- 2555 2. ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นข้อห่วงกังวลในภูมิภาคและระหว่างประเทศโดยมีหัวข้อสถานการณ์ ในคาบสมุทรเกาหลี สถานการณ์ในพม่า การปฏิรูปสหประชาชาติ รวมทั้งการยืนยันการสนับสนุนของประเทศ ลุ่มน้ำโขงต่อการเป็นสมาชิกถาวรของญี่ปุ่นในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 3. ที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ของประธานเป็นเอกสารผลการประชุม ซึ่งสะท้อนถึงผลการประชุมที่ ได้หารือถึงความคืบหน้าและแนวทางในอนาคตของความร่วมมือ Mekong-Japan เพื่อสันติสุข การพัฒนา และ ความเจริญรุ่งเรืองในลุ่มน้ำโขงและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยรวม
|
||||||||||||||||||||||||
35442 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... | สว | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามมาตรา ๒๗ ควรรวมไปถึงการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และบุคลากรด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ ๒. รับทราบผลการพิจารณาของกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) ที่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นว่า กสทช. ควรมีอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมให้ครบถ้วนและเกิดความต่อเนื่องจากสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนั้น อำนาจหน้าที่ของ กสทช. ตามร่างมาตรา ๒๗ ควรรวมไปถึงการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และบุคลากรด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
35443 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 28 และ การประชุมอื่นฯ ที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 19 - 23 กรกฎาคม 2553 ณ เมืองดาลัด สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | พน | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลัง
งาน (ASEAN Minister on Energy Meeting-AMEM) ครั้งที่ 28 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2553 ณ เมืองดาลัด สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยในส่วนของการประชุมรัฐมนตรี อาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 28 ที่ประชุมฯ ได้กล่าวขอบคุณสหภาพพม่าในฐานะประธานการประชุมต่าง ๆ และผลสำเร็จในการดำเนินงานภายใต้กรอบอาเซียนในปีที่ผ่านมารวมทั้งมีการผลักดันแผนปฏิบัติการอาเซียน ด้านพลังงานปี 2553-2558 (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation 2010-2015 : APAEC) ให้มี ผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในเรื่อง การเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคนี้ให้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งลดปริมาณพลังงานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติในภูมิภาคนี้ให้ได้อย่างน้อย 8 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2558 การผลักดันให้อาเซียนเป็น Biofuels Hub และการพิจารณารับรองรายงานความ คืบหน้าในการดำเนินงานและผลการปฏิบัติงานภายใต้กรอบอาเซียนของปี 2553-2554 (โครงข่ายสายส่ง ไฟฟ้าอาเซียน โครงข่ายท่อส่งก๊าซอาเซียน ถ่านหินและเทคโนโลยีถ่ายหินสะอาด ประสิทธิภาพและการอนุ รักษ์พลังงาน พลังงานทดแทน นโยบายและแผนพลังงานของอาเซียน และพลังงานนิวเคลียร์) โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งได้มีการเชื่อมโยงโครงข่ายท่อส่งก๊าซให้ยาวขึ้นเป็น 3,020 กิโลเมตร (จากเดิม 2,800 กิโลเมตร) และได้ มีการศึกษาทบทวนแผนแม่บทโครงข่ายพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้ให้ความ สำคัญกับการติดตามผลการดำเนินงานตามบัญชาของผู้นำอาเซียน ได้แก่ ASEAN Economic Community Scorecard-AEC Scorecard ซึ่งที่ประชุมฯ รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการในระยะแรก ตั้งแต่เดือนมกรา คม 2551-กันยายน 2552 โดยสำนักเลขาธิการอาเซียนจะแจ้งผลการทบทวนกลางเทอมให้แก่เจ้าหน้าที่ อาวุโสและรัฐมนตรีอาเซียนพลังงานในโอกาสต่อไป และการดำเนินการประเมินและผลักดันโครงการภายใต้ APAEC ให้สอดคล้องกับร่าง Master Plan of ASEAN Connectivity ที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดผู้นำ อาเซียน ครั้งที่ 17 ในเดือนตุลาคม ศกนี้
|
||||||||||||||||||||||||
35444 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สามแยกกระจับ) - เจดีย์สามองค์ ที่บ้านท่าน้ำตื้น พ.ศ. .... | คค | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทาง
หลวงแผ่นดินหมายเลข 323 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สามแยกกระจับ)-เจดีย์สามองค์ ที่บ้านท่า น้ำตื้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สามแยกกระจับ)-เจดีย์สามองค์ ที่บ้านท่าน้ำตื้น ในท้องที่อำเภอ เมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็น กิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและ เพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35445 | ขออนุมัติลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรับรองประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือระหว่างประเทศไทยกับประเทศยูเครน | คค | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรับรองประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือระหว่างประเทศไทย กับประเทศยูเครน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงข้อตกลงดังกล่าวที่มิใช่สาระสำคัญก่อนการลงนาม และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ให้กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้ โดยประสานกับกรม สนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ 2. ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวและให้กระทรวง การต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายสำหรับ การลงนามดังกล่าวต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35446 | การจัดทำความร่วมมือกับ Canadian Nuclear Safety Commission แห่งประเทศแคนาดา | วท | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างการเตรียมการด้านการบริหารจัดการระหว่างคณะกรรมาธิการด้านความปลอดภัยทาง นิวเคลียร์แห่งประเทศแคนาดา (Canadian Nuclear Safery Commission : CNSC) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ แห่งประเทศไทย เพื่อการนำเข้าและส่งออกต้นกำเนิดรังสี โดยร่างการเตรียมการฯ มีเจตนารมณ์เป็นการจัดหา แนวทาง เพื่อสร้างความมั่นใจว่า การนำเข้าและส่งออกต้นกำเนิดรังสีระหว่างประเทศไทยและแคนาดาเป็นไปตาม ระเบียบปฏิบัติและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางด้านการนำเข้า และส่งออกต้นกำเนิดรังสีทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการกำกับดูแลการนำเข้าและส่งออกต้นกำเนิด รังสีของหน่วยงานกำกับอยู่ในทิศทาง และมีความสอดคล้องถูกต้องตรงกัน ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่ ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่มีผลกระทบต่อเนื้อหาสาระของร่างการเตรียมการฉบับนี้ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทค โนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก 2. อนุมัติให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเลขาธิการสำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้ลงนามในหนังสือการเตรียมการฯ ได้ 3. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เลขาธิการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้ลงนามในร่างการเตรียมการฯ
|
||||||||||||||||||||||||
35447 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นายชาญวิทย์ วสยางกูร) | มท | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชาญวิทย์ วสยางกูร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงาน
จังหวัดแบบบูรณาการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35448 | การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ | พณ | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอว่าเพื่อให้การศึกษาและพิจารณาแนวทางและการบูรณาการ ในการกำหนดกรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติที่เหมาะสม เป็นรูปธรรม และมี ประสิทธิภาพตามมติคณะรัฐมนตรีจึงเห็นควรแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผล อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานกรรมการ และ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (นางจินตนา ชัยยวรรณาการ) เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ศึกษา แนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม รายงานผลการดำเนินการ และจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี 2. เห็นชอบให้เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอัน เนื่องมาจากภัยธรรมชาติ โดยให้มีผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม และมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการฯ) รับไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
35449 | การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (ยกเลิกโดยมติ 27709/54) | นร | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงาน รวมทั้งการขอจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหาร (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ) เพิ่มใหม่ออกไปอีกระยะหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ 2. คณะรัฐมนตรีเห็นว่าสำนักงาน ก.พ.ร. ควรประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอให้ส่งแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน การขอขยายหน่วยงาน หรือจัดตั้งหน่วยงานใหม่ รวมทั้งการจัดตั้งองค์การมหาชนของรัฐเพื่อจะได้พิจารณาภาพรวม
|
||||||||||||||||||||||||
35450 | รายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของประเทศไทย ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2552 | นร | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals : MDG) ของประเทศไทย ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2552 ประกอบด้วย 1. ผลการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในระดับประเทศ เปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2547 ประเทศไทยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานใหม่ ๆ ที่สำคัญคือ 1.1 เป้าหมาย MDG ที่บรรลุแล้วเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2552 ได้แก่ 1.1.1 เป้าหมาย MDG 2A ให้เด็กทุกคนทั้งชายและหญิงสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาภาย ในปี พ.ศ. 2558 1.1.2 เป้าหมาย MDG+การลดอัตราการเกิดโรคมาลาเรียใน 30 จังหวัดชายแดนให้เหลือ 1.4 ต่อ ประชากรพันคนภายในปี พ.ศ. 2549 1.1.3 เป้าหมาย MDG 8B การให้ความสำคัญกับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด 1.1.4 เป้าหมาย MDG 8E การขยายการเข้าถึงยาที่สำคัญจำเป็นในประเทศกำลังพัฒนา 1.2 เป้าหมายที่บรรลุแล้วและยังคงรักษาระดับความก้าวหน้าในการดำเนินงาน ได้แก่ 1.2.1 การลดความยากจนลงครึ่งหนึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2533-2558 1.2.2 การลดความหิวโหยลงครึ่งหนึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2533-2558 1.2.3 การขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศในการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาภายในปี พ.ศ. 2548 และในทุกระดับการศึกษาภายในปี พ.ศ. 2558 1.2.4 การชะลอและลดการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ภายในปี พ.ศ. 2558 1.2.5 การลดสัดส่วนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและส้วมที่ถูกสุขลักษณะครึ่งหนึ่ง ภายในปี พ.ศ. 2558 1.2.6 การยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรในชุมชนแออัด 100 ล้านคนทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2563 2. ผลการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในระดับจังหวัดซึ่งดำเนินการนำร่องใน 3 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นครพนม และตรัง ผลการดำเนินงานเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ตามตัวชี้วัดพบว่า สถานการณ์และ แนวโน้มการพัฒนาจังหวัดนำร่องสามารถบรรลุเป้าหมาย MDGs หลายด้านในเรื่องการขจัดความไม่เท่าเทียมทาง เพศในทุกระดับการศึกษา การลดอัตราการตายของทารก การป้องกันและลดการเกิดโรคมาเลเรีย และการลดสัด ส่วนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
|
||||||||||||||||||||||||
35451 | รายงานประจำปี 2552 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการสถาบันวิจัย
ระบบสาธารณสุข เสนอรายงานประจำปี พ.ศ. 2552 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) โดยรายงาน ดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ข้อมูลทั่วไปของ สวรส. 2. ผลการปฏิบัติงาน จำแนกตามยุทธศาสตร์ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาความ รู้ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเชื่อมโยงความรู้สู่การพัฒนาระบบสุขภาพ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสำรวจความเข้มแข็งต่อ ระบบจัดการความรู้ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การขยายพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ และผลการประเมิน สวรส. ตามตัวชี้ วัด Thai Rating and Information Services (TRIS) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 3. รายงานทางการเงิน โดยแสดงงบดุล งบรายได้ค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสด
|
||||||||||||||||||||||||
35452 | โครงการจัดหาอุปกรณ์วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และอาคารปฏิบัติงานที่ถูกทำลายจากภาวะวิกฤตเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง (ทดแทน) | นร | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมประชาสัมพันธ์เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน 200,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารปฏิบัติงานอาคารสำนักงานตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ทางเทคนิค ทดแทนของเดิมที่ได้รับความเสียหายเนื่องมาจากภาวะวิกฤตเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ส่วนการจัดหาอุปกรณ์ผลิตรายการโทรทัศน์นอกสถานที่ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบระบบ Digital High Definition วงเงิน 150,000,000 บาท นั้น เนื่องจากมิได้เป็นกรณีจัดหาอุปกรณ์เพื่อทดแทนอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากภาวะวิกฤตเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง จึงให้กรมประชาสัมพันธ์พิจารณาเสนอขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
35453 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาด
ใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง ต้องเป็น ไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์ แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิงต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลข ที่ มอก. 2320-2552 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4092 (พ.ศ. 2552) ออกตามความในพระราช บัญญัติมาตฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ยกเลิกและกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถ ยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง เฉพาะด้านความปลอดภัย : สารมลพิษจากเครื่องยนต์ ระดับที่ 1 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวง อุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35454 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารศุกูกและรองรับการออกตราสารศุกูกในรูปแบบใบทรัสต์) | กค | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ 1. แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 2 ของกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ. 2551 บทนิยามคำว่า "ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ข" "ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ค" และ "ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ง" เพื่อขยายขอบเขตในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของใบ อนุญาตประเภทที่กล่าวให้รวมถึงตราสารศุกูกและใบทรัสต์ 2. เพิ่มเติมข้อกำหนดเพื่อให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการค้าหลักทรัพย์ และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2536) หรือผู้ที่ได้ รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ หรือ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุนสามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สำหรับหลักทรัพย์ที่เป็นตรา สารศุกูก หรือใบทรัสต์ได้ และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตฯ แบบ ข แบบ ค และแบบ ง ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการ อนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ. 2551 ที่ได้รับอยู่ก่อนวันที่ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สำหรับหลักทรัพย์ที่เป็นตราสารศุกูก หรือใบทรัสต์ได้
|
||||||||||||||||||||||||
35455 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายธานินทร์ ผะเอม และนางสาวลดาวัลย์ คำภา) | นร | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อ ทดแทนตำแหน่งผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่จะว่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ตามที่สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 1. นายธานินทร์ ผะเอม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ 2. นางสาวลดาวัลย์ คำภา ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
35456 | การเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2554 ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย | พน | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2554 ขององค์กรร่วมไทย
-มาเลเซีย (Malaysia-Thailand Joint Authority: MTJA) จำนวน 3,649,900 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงาน (Operation Expenditure) จำนวน 3,619,900 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายที่เป็นทุน (Capital Expenditure) จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยให้จัดสรรจากปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของ ปี พ.ศ. 2553 จำนวน 2,143,245 ดอลลาร์สหรัฐ งบประมาณเหลือจ่ายของปี พ.ศ. 2552 จำนวน 1,318,655 ดอลลาร์สหรัฐ และจากกองทุนฝึกอบรมจำนวน 188,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
35457 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนกรกฎาคม 2553 | อก | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ประจำเดือนกรกฎาคม 2553 ดังนี้ 1. อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตและการส่งออก คาดว่า จะชะลอตัวลงตามฤดูกาล ประกอบกับวัตถุ ดิบมีปริมาณลดลงจากปัญหาภัยแล้ง สำหรับการจำหน่ายสินค้าในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากความเชื่อ มั่นทางเศรษฐกิจของผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นภายหลังการคลี่คลายของปัญหาการชุมนุมทางการเมือง 2. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตและการส่งออก คาดว่า จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ เป็นการสั่งซื้อล่วงหน้า ประกอบกับค่าจ้างแรงงานของจีนได้ปรับสูงขึ้นและการแข็งค่าของเงินหยวนทำให้ราคา สินค้าจีนแพงขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการสิ่งทอไทยรุกตลาดจีนและตลาดอื่น ๆ ได้มากขึ้น เนื่องจาก ศักยภาพการแข่งขันด้านราคาเพื่อส่งออกมีมากขึ้น 3. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า โดยภาพรวมสถานการณ์การผลิตเหล็ก คาดว่า จะมีทิศทางที่ ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเหล็กทรงยาวมีแนวโน้มการผลิตที่ทรงตัวเนื่องจากความต้องการ ใช้ของอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังคงชะลอตัวอยู่ สำหรับเหล็กทรงแบนมีแนวโน้มการผลิตเพิ่มขึ้นตามการขยาย ตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า ในขณะที่ความต้องการใช้ เหล็กภายในประเทศ คาดว่า จะขยายตัวขึ้นโดยมาจากการนำเข้าเหล็กคุณภาพสูง เพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรม ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมเพรสเซอร์
|
||||||||||||||||||||||||
35458 | การรักษาระบบคุณธรรม | นร | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การรักษาระบบคุณธรรม
ตามข้อเสนอแนะของสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย ดังนี้ 1. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกระดับ จะต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถ ความเป็นธรรม ความ เสมอภาค ผลงาน ประโยชน์ของทางราชการและความอาวุโส แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้มีการแต่งตั้งข้า ราชการระดับสูงในบางกระทรวงที่ไม่เป็นธรรมตามระบบคุณธรรม โดยฝ่ายการเมืองมักจะอ้างความเหมาะสมมา เป็นเหตุผลหลักในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้ 2. การดำเนินการที่ไม่ยึดหลักความถูกต้องชอบธรรม มีการเบี่ยงเบนไปใช้ระบบอุปถัมภ์และความรู้สึก ส่วนตัวเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองหรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งเป็นการทุจริตเชิงนโยบายในลักษณะหนึ่ง ทำให้ข้า ราชการที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อุทิศตนให้กับงานในหน้าที่เกิดความรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ ความเสีย หายก็จะเกิดขึ้นกับระบบราชการ และสร้างความเสื่อมเสียให้กับรัฐบาลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 3. นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และประธาน ก.พ. ควรดูแลให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในขอบเขตอำนาจรัฐมนตรีเป็นไปตามหลักคุณธรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในระบบราชการ อย่างแท้จริง
|
||||||||||||||||||||||||
35459 | การต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักพลังงานปรมาณู กระทรวงศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อความร่วมมือด้านพลังงานปรมาณู | วท | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักพลังงานปรมาณู กระทรวงศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโน โลยีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ราชอาณาจักรไทย เพื่อความร่วมมือด้านพลังงานปรมาณู ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่มีผลกระทบต่อเนื้อหาสาระของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก 2. อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้แทน ฝ่ายไทยลงนามการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ 3. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เลขาธิการสำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจ
|
||||||||||||||||||||||||
35460 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (กระทรวงวัฒนธรรม) (นายสมชาย เสียงหลาย) | วธ | 07/09/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชาย เสียงหลาย ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม เสนอ
|
.....