ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 290 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 5781 - 5800 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5781 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 40 วรรคสาม และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | กก. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๘ เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่ารถยนต์ รวมทั้งสิ้น ๘
รายการ วงเงินงบประมาณ ๘๕,๑๑๐,๖๐๐ หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลท้องถิ่น สำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนได้
โดยให้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณ
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามนัยมาตรา ๔๐ วรรคสาม และมาตรา ๔๒
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
สำนักงบประมาณได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้แล้ว
สำหรับรายการค่าเช่าอาคารสำนักงาน ๕ แห่ง และรายการค่าเช่ารถยนต์ ๓ คัน
ดังกล่าวข้างต้น ให้ใช้จ่ายตามรายการและวงเงินงบประมาณรายจ่ายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกาศใช้บังคับ
ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรวางแผนการใช้จ่ายเงินให้มีความสอดคล้องกับปฏิทินงบประมาณ
และควรมีการกำกับ ดูแล ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานสาขาต่างประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อประโยชน์ในการติดตามสถานการณ์ด้านตลาดการท่องเที่ยว
และประกอบการดำเนินนโยบายด้านการท่องเที่ยวของประเทศในระยะต่อไป
ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5782 | ร่างพระราชบ้ญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565)] | ปสส. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5783 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำและเตรียมความพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโรคติดเชี้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ภายใต้การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | สธ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5784 | การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 7 | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5785 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน) | กค. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล
และน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ในบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ ๐๑.๐๕ รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถัน
และรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ ของกรดไขมันผสมอยู่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลที่สะท้อนต้นทุนตามข้อเท็จจริง
เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภาระการชดเชยต้นทุนส่วนต่าง
ตลอดจนความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
และกระทรวงการคลังควรเสนอมาตรการจัดหารายได้เพื่อชดเชยการสูญเสียรายได้ที่เกิดจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น
ๆ ที่คล้ายกันให้มีความชัดเจน หรืออาจทยอยปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า
เพื่อให้ประชาชนและระบบเศรษฐกิจมีการปรับตัวต่อการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและลดแรงกดดันต่อฐานะการคลังของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5786 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
วุฒิสภา
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
สรุปได้ ดังนี้ (๑) แนวทางการป้องกันการตั้งครรภ์
โดยปัจจุบันได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิตเด็กและเยาวชนไทยในศตวรรษที่
๒๑ เช่น การอบรมหลักสูตร ID-Sign เพื่อเป็น “ผู้พิทักษ์สิทธิทางเพศวัยรุ่น”
และ (๒) แนวทางแก้ไขการตั้งครรภ์ เช่น ยกระดับให้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน
โดยมีการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กในรูปแบบ Day Care Night Care เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อแม่วัยรุ่น
ระบบความช่วยเหลือในรูปแบบผู้จัดการรายกรณี โดยระบบสามารถระบุพื้นที่เกิดเหตุ
ภาพถ่าย
และติดตามให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานได้ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังระบบการจัดการรายกรณี
การให้คำปรึกษาทางเลือกที่จะท้องต่อหรือทำแท้ง โดยมีศูนย์รับแจ้งเรื่องราวข่าวสาร
และให้คำปรึกษาแนะนำตลอด ๒๔ ชั่วโมง การบังคับใช้กฎหมาย
ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจ สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้วัยรุ่นและประชาชนทั่วไปรับรู้เรื่องกฎหมายและสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนครอบครัว
การให้คำปรึกษาทางเลือก และยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย
การปรับปรุงข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์
การดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิในระดับชุมชน เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5787 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน พ.ศ. 2560-2564 ประจำปี พ.ศ. 2564 | กค. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน
พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยแผนพัฒนาฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการเงิน ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านผู้ใช้บริการทางการเงิน
ด้านผู้ให้บริการทางการเงิน และด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ประกอบด้วย ๓
ยุทธศาสตร์ ๖ กลยุทธ์ ๒๐ มาตรการ ๓๙ กิจกรรม และ ๗๘ โครงการ
โดยมีผลการดำเนินโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ สรุปได้ ดังนี้ (๑) การดำเนินโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ
สำเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัดจำนวนทั้งสิ้น ๗๔
โครงการ จาก ๗๘ โครงการ โดยโครงการส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้สำเร็จเกินกว่าเป้าหมายตัวชี้วัดที่ตั้งไว้
เช่น เพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนระดับฐานรากผ่านการสนับสนุนสินเชื่อให้กับประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ
จำนวน ๑๑๔,๕๑๖.๙๒ ล้านบาท
ลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างนั่งยืนผ่านการให้สินเชื่อแก่เกษตรกร จำนวน ๙,๔๘๔.๘๔ ล้านบาท (๒)
ผลการดำเนินโครงการที่ตั้งเป้าหมายการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๔
จำนวนทั้งหมด ๑๒ โครงการ ดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัด จำนวน ๙ โครงการ
ครอบคลุม ๗ ประเภทกิจกรรม เช่น สินเชื่อองค์กรชุมชนของธนาคารออมสิน
มียอดสะสมการให้สินเชื่อองค์กรชุมชน จำนวนมากกว่า ๑.๖๙ หมื่นล้านบาท
พัฒนาเกษตรกรลูกค้าโครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
จำนวนมากกว่า ๒.๔๑ ล้านราย ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ
ยังคงมีการดำเนินโครงการต่าง ๆ
เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และ (๓)
โครงการที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่เป้าหมายตัวชี้วัดกำหนดไว้
จำนวนทั้งสิ้น ๔ โครงการ เนื่องจากหน่วยงานได้รับการจัดสรรงบประมาณล่าช้า ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5788 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปารเมศ โพธารากุล) | กษ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายปารเมศ โพธารากุล
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ กันยายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5789 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2565 | นร.11 สศช | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5790 | มาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน | พน. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบและรับทราบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
มีสาระสำคัญเป็นการขยายมาตรการที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน ๒๕๖๕
เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งประชาชนทั่วไปและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
และมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า ได้แก่
การช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน ๕๐๐
หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ความสำคัญในเรื่องการเตรียมความพร้อมของโครงการ
วิธีการดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ และเร่งศึกษาการกำหนดมาตรการระยะยาว
เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
รวมทั้งเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
และให้มีการรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ
เพื่อให้การดำเนินมาตรการดังกล่าวบรรลุผลสัมฤทธิ์และมีความคุ้มค่าอย่างแท้จริง
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5791 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนศาลเจ้าไก่ต่อ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนศาลเจ้าไก่ต่อ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการวางแผนและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ
อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนศาลเจ้าไก่ต่อให้ชุมชนเกษตรกรรมที่น่าอยู่
มีความเป็นระเบียบ เป็นศูนย์กลางการผลิต การซื้อขายและบริการทางการเกษตร
ศูนย์บริการท่องเที่ยวเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติด้านตะวันตกของจังหวัด
ศูนย์การค้าและบริการระดับท้องถิ่นที่มีความพร้อมทางสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
และบริการสาธารณะได้มาตรฐานทางผังเมือง โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมจำแนกออกเป็น
๑๐ ประเภท
ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินแต่ละประเภทนั้น
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ให้ดำเนินการในที่ดินแต่ละประเภท
ตลอดจนกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผังโครงการคมนาคมและขนส่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรให้ที่ดินประเภทที่ดินปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ต้องใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางที่ดินประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก
และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม มีความเห็นว่าการปรับเปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๑๐๗๒ ที่อยู่ติดกับพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งในประเด็นประสิทธิภาพการให้บริการของทางหลวง และความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
จึงต้องมีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้
ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ คำนึงถึง กฎ
ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เช่น มาตรการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่อนุรักษ์ มาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
มาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ เป็นต้น และควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศดังกล่าวอย่างเข้มงวดต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5792 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | กต. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓
กันยายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5793 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายลัทธจิตร มีรักษ์) | นร.04 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายลัทธจิตร มีรักษ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5794 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | กษ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจโครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง
แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕ และอนุมัติให้
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU)
โครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง
แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เป็นผู้ลงนามเอกสารดังกล่าวข้างต้น โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
Northern Corridor Implementation Authority (NCIA) ประเทศมาเลเซีย และการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมยางพารา
โดยจะร่วมมือกันกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาง
การเสริมสร้างศักยภาพของเมืองยางพารา (Rubber Cities) ของทั้งสามประเทศสมาชิกความร่วมมือด้านงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ยาง
นวัตกรรม และเทคโนโลยีความร่วมมือด้านมาตรฐานและการรับรอง
การแสวงหาและเสนอความร่วมมือผ่านเครือข่ายเมืองยางพาราระหว่างอนุภูมิภาค IMT-GT
และภูมิภาคอาเซียน (ASEAN)
ตลอดจนความร่วมมือด้านธุรกิจ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจโครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยางแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย
อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5795 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายนพดล พลเสน และนายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์) | นร.04 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่ออีกวาระหนึ่ง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ และวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๕
ตามลำดับ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายนพดล
พลเสน ๒.
นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5796 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ปปท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(คณะกรรมการ ป.ป.ท.) การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ท.
ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและหน้าที่และอำนาจในคดีประพฤติมิชอบซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการ
ป.ป.ท. ทั้งนี้
เพื่อให้เป็นไปตามการดำเนินการเกี่ยวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญ ของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5797 | การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2565 | รง. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง
เรื่อง การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ ๑๑) ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๕ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป
โดยประกาศฉบับนี้คณะกรรมการค่าจ้างได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ
๘-๒๒ บาท เป็นอัตราวันละ ๓๒๘-๓๕๔ บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๕ เป็นต้นไป จำแนกเป็น ๙ อัตรา ได้แก่ (๑) ๓๕๔ บาท/วัน จำนวน ๓ จังหวัด (๒) ๓๕๓
บาท/วัน จำนวน ๖ จังหวัด (๓) ๓๔๕ บาท/วัน จำนวน ๑ จังหวัด (๔) ๓๔๓ บาท/วัน จำนวน ๑
จังหวัด (๕) ๓๔๐ บาท/วัน จำนวน ๑๔ จังหวัด (๖) ๓๓๘ บาท/วัน จำนวน ๖ จังหวัด (๗)
๓๓๕ บาท/วัน จำนวน ๑๙ จังหวัด (๘) ๓๓๒ บาท/วัน จำนวน ๒๒ จังหวัด และ (๙) ๓๒๘
บาท/วัน จำนวน ๕ จังหวัด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5798 | ร่างข้อตกลงการรับทุน (Grant Agreement) โครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package ระหว่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และองค์การการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S Trade and Development Agency: USTDA) | ดศ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5799 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ
เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้แจ้งความนำจับและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๑
ให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสุงสุด
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่เห็นควรเพิ่มกรณีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินชั่วคราวตามที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินมีคำสั่งตามมาตรา
๗๓ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดด้วย
รวมถึงการเพิ่มคำสั่งยึดหรืออายัดของคระกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินในร่างข้อ ๕ [แก้ไขเพิ่มเติมข้อ ๑๘ (๑)
ที่กำหนดให้การจ่ายค่าตอบแทนในคดีที่ยึดได้แต่ยาเสพติดของกลางมีศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดและเลขาธิการ
ป.ป.ส.
มีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดชั่วคราว] และข้อ ๑๐ ของร่างระเบียบฯ ควรปรับแก้ไขถ้อยคำ “สั่งยุติคดี” เป็น
“สั่งยุติการดำเนินคดี” เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด
ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๘ และข้อ ๔๙ ร่างข้อ ๑๔
ของร่างระเบียบฯ ซึ่งใช้ถ้อยคำว่า “เด็กหรือเยาวชน” นั้น
มีข้อสังเกตว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดหลายมาตราใช้คำว่า “บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี”
รวมทั้งในข้อ ๔ (๒) ของร่างระเบียบฯ เป็น “คดีความร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่เลขาธิการ
ป.ป.ส. หรือพนักงานอัยการมีคำสั่งอนุมัติแจ้งข้อหาสมคบ หรือสนับสนุน ช่วยเหลือ
หรือศาลออกหมายจับในข้อหาสมคบหรือสนับสนุนช่วยเหลือตามประมวลกฎหมายยาเสพติด”
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5800 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2565 เพื่อใช้ในโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2563 | กษ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.อนุมัติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๕
ในวงเงิน ๑,๗๔๗,๙๐๓,๒๐๐ บาท (เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทอุดหนุนทั่วไป)
สำหรับเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี ๒๕๖๓
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ
ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๗/๑๑๘๖๔ ลงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรกำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการให้เป็นไปอย่างโปร่งใส
มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ซ้ำซ้อน
และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เกิดความยั่งยืน
และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร
ควรจัดทำระบบฐานข้อมูลของเกษตรกรที่ผ่านการรับรองการผลิตข้าวอินทรีย์ (Organic
Thailand) เพื่อติดตาม
ตรวจสอบความต้องการการทำนาข้าวอินทรีย์และตรวจรับรองระบบมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ได้อย่างต่อเนื่อง
ติดตามและประเมินผลโครงการในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพชีวิตเกษตรกร ราคาขาย รายได้
และต้นทุนการผลิตของกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการโดยเปรียบเทียบก่อนและหลังดำเนินโครงการ
รวมถึงความยั่งยืนของเกษตรกรที่ยังคงเพาะปลูกข้าวอินทรีย์อย่างต่อเนื่องภายหลังสิ้นสุดการดำเนินโครงการ
และเร่งปรับปรุงขั้นตอนในการรับรองพันธุ์ข้าวให้รวดเร็วขึ้น
ตลอดจนความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการพัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปยังต่างประเทศ
และการนำผลผลิตมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงในอนาคต ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|