ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 661 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13201 - 13220 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13201 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 จำนวน 2 ฉบับ | คค | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทยยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยกระทรวงคมนาคมได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษและอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ และ (๒) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดให้ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) เป็นทางต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษ ประเภทของรถที่ต้องเสียหรือยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ และอัตราค่าผ่านทางพิเศษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้รถบนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษตามอัตราที่ประกาศตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ถึงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๒๔.๐๐ น. ซึ่งคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบและลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคมแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13202 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องค์กรลูกจ้าง องค์กรนายจ้าง และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เรื่อง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย พ.ศ. 2562 - 2564 | รง | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องค์กรลูกจ้าง องค์กรนายจ้างและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เรื่อง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ และร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย (Decent Work Country Program : DWCP) พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ โดย DWCP คือ กรอบความร่วมมือที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) จัดทำร่วมกับประเทศสมาชิกเพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศสมาชิก โดยการวางกลยุทธ์แนวทางและเป้าหมายการดำเนินงานที่ชัดเจนและสอดรับกับบริบทและวาระเร่งด่วนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน (Promotion of Decent Work for All) ซึ่ง DWCP ของประเทศไทยได้ผ่านกระบวนการหารือระหว่างไตรภาคีในประเทศไทย (กระทรวงแรงงาน ผู้แทนองค์กรนายจ้างและองค์กรลูกจ้าง) และ ILO ประกอบด้วยความสำคัญ ๓ ประการ คือ (๑) ความสำคัญที่ ๑ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของการจ้างงานที่ดีและมีประสิทธิผล (๒) ความสำคัญที่ ๒ สร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่เปราะบาง และ (๓) ความสำคัญที่ ๓ เสริมสร้างการกำกับดูแลตลาดแรงงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ ทั้งนี้ กำหนดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ พร้อมทั้งเปิดตัว DWCP ในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ในระหว่างการถ่ายทอดสดงานเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (24-hour Global Tour) ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ในฐานะรัฐบาลไทย ร่วมกับผู้แทนองค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง และ ILO ๑.๓ ให้กระทรวงแรงงานได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ เรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่อง ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาปรับกรอบเวลาของแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าฯ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และหากมีภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการก่อน สำหรับปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้จากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13203 | ขออนุมัติแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยเป็นวาระแห่งชาติ | กษ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยเป็นวาระแห่งชาติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคเร่งด่วน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๕๓,๖๐๔,๙๐๐ บาท เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ดำเนินการตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมถึงขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการดำเนินการให้เป็นตามแผนดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและรัดกุม รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้เร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้เร่งการสื่อสารกับประชาชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และควรมีการจัดทำรายละเอียดประมาณการค่าใช้จ่ายในแต่ละมาตรการเพื่อใช้เป็นกรอบในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งติดตามประเมินผลและตรวจสอบการดำเนินงานได้ นอกจากนี้ ควรประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อไวรัสของทั้งบุคคลและยานพาหนะที่เข้ามาในประเทศไทย และการลักลอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุกรตามแนวชายแดน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิดความตระหนักถึงการระบาดของเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกา ซึ่งจะเป็นมาตรการเฝ้าระวังที่สำคัญ ตลอดจนมีมาตรการยกระดับการจัดการฟาร์มเลี้ยงสุกรในการป้องกันโรค โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีการเลี้ยงแบบเปิด ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13204 | การเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก | ทส | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบเอกสารนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ ภายใต้ชื่อ The Ancient Town of Si Thep เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๒ เห็นชอบเอกสารนำเสนอกลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด ภายใต้ชื่อ Ensemble of Phanom Rung, Muang Tam and Plai Bat Sanctuaries เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๓ เห็นชอบให้ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกลงนามในหนังสือถึงศูนย์มรดกโลกเพื่อนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพ และกลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด เพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก ๑.๔ รับทราบการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการนำเสนอแห่งมรดกทางวัฒนธรรม และแหล่งมรดกทางธรรมชาติ เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมทั้งแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13205 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายภูมิวิศาล เกษมศุข) | ปปท. | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายภูมิวิศาล เกษมศุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมากรป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13206 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษาแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ | ศธ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบกรณี รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก และเห็นชอบแต่งตั้ง ศาสตราจารย์อำนาจ วงศ์บัณฑิต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคณะกรรมการสภาการศึกษา แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาการศึกษาในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13207 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (จำนวน 8 คน 1. พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ ฯลฯ) | พณ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำนวน ๘ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๑.๑.๑ พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ ๑.๑.๒ นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน ๑.๑.๓ นางปัทมา เธียรวิศิษฏ์สกุล ๑.๑.๔ นางปิยนุช วุฒิสอน ๑.๒ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๑.๒.๑ นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ๑.๒.๒ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิพิฐ พิรเวช ๑.๒.๓ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ๑.๒.๔ นางศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในครั้งต่อไปให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13208 | การแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | นร12 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๕/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๕๘/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยแต่งตั้ง พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงศึกษาธิการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประสานงานและทำความเข้าใจในทางปฏิบัติกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนและถูกต้องตรงกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13209 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับการดำเนินการเพื่อให้บุคลากรที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการ โดยให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเกี่ยวกับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีในอนาคต โดยกำหนดสัดส่วนการบรรจุอัตรากำลังสำหรับบุคคลที่มีศักยภาพดังกล่าวกับระบวนการสรรหาปกติให้เหมาะสม รวมทั้งกำหนดมาตรการจูงใจสำหรับบุคคลที่จะเข้ามาสู่ระบบการสรรหาและเลือกสรรดังกล่าว นั้น มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เร่งรัดกำกับติดตามการดำเนินการดังกล่าวให้บรรลุผลโดยเร็ว ทั้งนี้ ในการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพเข้าสู่ระบบราชการ ให้สำนักงาน ก.พ. คำนึงถึงสัดส่วนของกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพเพื่อเข้าสู่ระบบราชการ โดยพิจารณาแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นบุคคลในพื้นที่ กลุ่มที่แบ่งตามคุณลักษณะส่วนบุคคล (เพศชาย-หญิง) และกลุ่มบุคคลที่เปิดสอบคัดเลือกเป็นการทั่วไป และให้คำนึงถึงพื้นที่การปฏิบัติราชการที่เหมาะสมกับบุคลากรแต่ละกลุ่มด้วย โดยพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจต้องพิจารณากำหนดข้อยกเว้นตามแต่กรณีด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13210 | รายงานผลการดำเนินการโครงการ "1 อปท. 1 ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม" | มท | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงกร “๑ อปท. ๑ ถนนท้องถิ่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่รับทราบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ มีแนวทางการดำเนินการ สรุปได้ ดังนี้ (๑) การคัดเลือกถนนที่มีความยาวระยะทางไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตร กว้าง ๓-๖ เมตร ๑ สายทาง และเป็นถนนซึ่งเป็นที่รู้จัก หรือเป็นสถานที่สำคัญ และอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (๒) การจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ดูแล และรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณถนน ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และประชาชน และ (๓) ผลการดำเนินโครงการฯ ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยมีเป้าหมายดำเนินการ ๗,๘๕๑ สายทาง (อปท. ละ ๑ สายทาง) ดำเนินการแล้ว ๕,๔๔๘ สายทาง และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๒,๔๐๓ สายทาง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13211 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ | นร01 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ระหว่างวนที่ ๙-๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ มีการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยการพัฒนาคลอง คู และลำราง จำนวน ๔๑ คู คลอง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำความสะอาดสถานที่สำคัญแนวริมคลอง และในพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้นำแนวทางการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครมาปรับใช้กับจังหวัดตามความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งมีการดำเนินกิจกรรมแล้ว ๒,๕๘๖ กิจกรรม จิตอาสาเข้าร่วม จำนวน ๖๓๖,๑๕๕ คน ๒. การจัดกิจกรรม Big Cleaning Day งานอุ่นไอรัก เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๒ ศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริได้จัดกิจกรรมจิตอาสา เราทำความดี ด้วย หัวใจ “Big Cleaning Day งานอุ่นไอรัก” โดยมีหน่วยราชการในพระองค์ ส่วนราชการ กรุงเทพมหานคร เหล่าทัพ ตำรวจ กระทรวง กรมต่าง ๆ และประชาชนจิตอาสาร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ โดยร่วมกันทำกิจกรรมทำความสะอาดเก็บขยะมูลฝอย ตัดแต่งกิ่งไม้ต้นไม้ เก็บผักตบชวา การฉีดพ้นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศ กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันมลพิษทางอากาศ และการแจกหน้ากากอนามัย ๓. การฝึกอบรมโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ หลักสูตรจิตอาสา “หลักสูตรหลักประจำ” รุ่นที่ ๓ ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๒ มีนาคม-๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ ณ โรงเรียนจิตอาสา พื้นที่กองพันฝึกส่วนหลัง กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตพระราชฐานในพระองค์ “วิภาวดี” โดยมุ่งเน้นการฝึกอบรมให้บุคลากรมีทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน มีความเสียสละ มีอุดมการณ์ และมีความสามัคคีสามารถทำงานเป็นทีมได้ มีผู้เข้ารับการอบรมจากหน่วยราชการในพระองค์/ทหาร/ตำรวจ จำนวน ๑๔๔ นาย ข้าราชการพลเรือน จำนวน ๑๕๑ นาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13212 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 | นร02 | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า แนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล และในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ๒. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี ๒๕๖๒ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. ๒๕๖๒ และแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ๓. การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ ๒ และการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การกำหนดให้การรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม และเพิ่มงบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สิทธิประโยชน์และการบริการสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13213 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายแมททิว รอเบิร์ต บาร์เคลย์) | กต | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายแมททิว รอเบิร์ต บาร์เคลย์ (Mr. Matthew Robert Barclay) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา สืบแทน นายเครก แอชลีย์ เฟอร์กูสัน (Mr. Craig Ashley Ferguson) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13214 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน้าที่และเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหน้าที่และเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหน้าที่และเขตพื้นที่ของมณฑลทหารบก พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อกำหนดให้มณฑลทหารบกมีหน้าที่ให้การช่วยเหลือประชาชน และปฏิบัติหน้าที่ในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาเพิ่มเติมหน้าที่ของมณฑลทหารบกในการสนับสนุนช่วยเหลือการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพื่อให้มีการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ และให้นำข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นเกี่ยวกับการเพิ่มหน้าที่ของมณฑลทหารบกในการช่วยเหลือประชาชน และการเพิ่มหน้าที่ของมณฑลทหารบกในการปฏิบัติหน้าที่ในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13215 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... | สว | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และมีข้อสังเกตอื่น เช่น ควรดำเนินการประเมินผลและแก้ไขผังเมืองรวมในรูปแบบของคณะกรรมการท้องถิ่น ควรมีการจัดทำมาตรฐานกลางเกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ควรมีการเสนอแนวทางเพื่อให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาเมืองแห่งชาติที่ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงทุกกระทรวงและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนควรให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำธรรมชาติและพื้นที่เกษตรกรรมที่เหมาะสมตามระบบแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกออนไลน์ในการกำหนดกรอบพัฒนาที่จะเกิดขึ้นตามผังเมือง เป็นต้น ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13216 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... | สว | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และมีข้อสังเกตว่าในการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในกาจัดการศึกษาเป็นหลัก โดยจะต้องนำวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาใช้ในการประเมินผลสัมฤทธิ์ฯ นอกจากนี้ การดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายตามร่างมาตรา ๑๕ และร่างมาตรา ๒๐ จะต้องเป็นไปโดยไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม อันเป็นหลักการพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติรับรองไว้ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13217 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. .... | มท | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลโพชนไก่ ตำบลแม่ลา ตำบลเชิงกลัด ตำบลสิงห์ ตำบลไม้ดัด และตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการระบายน้ำในพื้นที่ การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ และควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และใช้เป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมืองด้วย นอกจากนี้ ควรยกเว้นให้สามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรและใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ได้ รวมทั้งกรมโยธาธิการและผังเมืองควรสนับสนุนให้เจ้าพนักงานเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่กำกับ ดูแล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดของผังเมืองรวมอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผังเมืองรวมเป็นเครื่องมือรองรับการพัฒนาเมืองได้อย่างสมดุล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13218 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... | สว | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และมีข้อสังเกตว่ากระทรวงยุติธรรมควรจัดทำคู่มือเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัตินี้ และจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ด้วย รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนทางด้านงบประมาณให้แก่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เพื่อให้ภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง นอกจากนี้ แบบการทำบันทึกข้อตกลงที่ดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ต้องมีหมายเหตุท้ายบันทึกข้อตกลงว่าเป็น “สิทธิ” ของคู่กรณีที่จะนำข้อตกลงดังกล่าวไปยื่นคำร้องต่อศาล หากคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13219 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2561 | กค | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒๕๖๒ ในประเด็นที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ เป้าหมายนโยบายการเงิน การประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและแนวโน้ม และการดำเนินนโยบายการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13220 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ : ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) | วธ | 09/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ : ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) ระหว่างวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑-๑๖ มกราคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ : ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) พบว่า ส่วนใหญ่รับทราบโครงการจากโทรทัศน์มากที่สุด และมีความพึงพอใจต่อโครงการดังกล่าว โดยเห็นว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนหรือจัดให้มีโครงการลักษณะนี้ต่อไป เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ให้แก่ประชาชน รวมถึงควรขยายเวลาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและลดวงเงินในการซื้อเพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจแต่มีรายได้น้อย ๒. ผลการสำรวจยอดจำหน่ายหนังสือของสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย พบว่า การประกาศใช้มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเกษตร ชุมชน และทุนมนุษย์ของรัฐบาลครั้งนี้ส่งผลดีต่อธุรกิจหนังสือ ช่วยให้วงการหนังสือมีรายได้จากการจำหน่ายหนังสือและสิ่งพิมพ์ของร้านหนังสือเชนสโตร์ (Chain Store) ร้านหนังสืออิสระและการขายทางออนไลน์ของสำนักพิมพ์มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยมีข้อเสนอแนะที่เห็นควรสนับสนุนมาตรการภาษีดังกล่าวตลอดทั้งปี รวมทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์มากกว่านี้
|
.....