ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 173 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3441 - 3460 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3441 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๙ คณะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ๒.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๓.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๔. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๕. คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๖. คณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ๗. คณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||
3442 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงพาณิชย์) | พณ. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงพาณิชย์
จำนวน ๔ คณะ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ๒. คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ๓. คณะกรรมการว่าด้วยการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา
(Duty free Quota Free
Scheme : DFQF) ๔. คณะกรรมการนโยบายอาหาร
|
|||||||||||||||||||||||||||
3443 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติ (1. นายวีระพงษ์ แพสุวรรณ ฯลฯ จำนวน 4 คน) | อว. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติ
จำนวน ๔ คน
เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายวีระพงษ์ แพสุวรรณ ๒. นายยุทธนา เจียมตระการ ๓. นายอุกฤษฏ์ อัษฎาธร ๔. พันโท เทพจิต วีณะคุปต์
|
|||||||||||||||||||||||||||
3444 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ กระทรวงมหาดไทย (นายวัชรเดช เกียรติชานน) | มท. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายมานะ สิมมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
(นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ๒. นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๕
กันยายน ๒๕๖๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
3445 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ กระทรวงมหาดไทย (นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง) | มท. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายมานะ สิมมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ๒. นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
3446 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ กระทรวงมหาดไทย (นายมานะ สิมมา) | มท. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายมานะ สิมมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ๒. นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
3447 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (1. นายกุลิศ สมบัติศิริ ฯลฯ จำนวน 10 คน) | นร.53 | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
จำนวน ๑๐ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
ประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายกุลิศ สมบัติศิริ ๒. นายพสุ เดชะรินทร์ ๓. นายเสรี นนทสูติ ๔. นายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้แทนองค์การเอกชน ๕. นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้แทนองค์การเอกชน ๖. นายกฤษ ศรีฟ้า ผู้แทนองค์การเอกชน
ซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๗. นายธนพล ภู่พันธ์ศรี ผู้แทนองค์การเอกชน ซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๘. นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ ผู้แทนองค์การเอกชน ซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๙. นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ผู้แทนองค์การเอกชน ซึ่งประกอบการในภูมิภาค
|
|||||||||||||||||||||||||||
3448 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล และพันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล) | ยธ. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3449 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชำนาญ ชื่นตา ฯลฯ จำนวน 28 ราย) | มท. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒๘ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชำนาญ ชื่นตา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายชูชีพ พงษ์ไชย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายณรงค์ จีนอ่ำ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายศรัณยู มีทองคำ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายอลงกต วรกี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายอังกูร ศีลาเทวากูล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐. นางสาวเอกรัตน์ นาคาคง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นายอนันต์ นาคนิยม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓. นายทรงกลด สว่างวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๔. นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๕. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๖. นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๗. นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๘. นายนิติ วิวัฒน์วานิช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๙. นายรัฐพล นราดิศร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๐. นายอดิเทพ กมลเวชช์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๑. นายชรินทร์ ทองสุข ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๒. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๓. นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเลย สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๔.นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๕. นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๖. นายสุเมธ ธีรนิติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๗. ว่าที่พันตรี
อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๘. นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||
3450 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ฯลฯ จำนวน 15 ราย) | กต. | 28/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
สับเปลี่ยนหมุนเวียน และเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งซึ่ง ก.พ. กำหนดให้เป็นตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศตามลำดับที่
๑ ๔ ๖-๑๐ ๑๓ และ ๑๔ รวม ๙ ราย ได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ๒. นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวพินทุ์สุดา
ชัยนาม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ๔. นางอุรีรัชต์ เจริญโต ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ๕. นางสาวอุศณา พีรานนท์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ๖. นายวิชชุ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ๗. นายพุทธพร อิ้วตกส้าน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ๘. นายสุวัฒน์ แก้วสุข ดำรงตำแหน่ง
เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ๙. นายอสิ ม้ามณี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ๑๐. ร้อยโท พรหเมศ
พหลพลพยุหเสนา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ฮังการี ๑๑. นายโสรัจ สุขถาวร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นายณรงค์
บุญเสถียรวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย
ไทเป สำนักงาน ปลัดกระทรวง ๑๓. นายไพฑูรย์
มหาพัณณาภรณ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ
สาธารณรัฐ สังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ๑๔. นายรุจ โสรัตน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ สาธารณรัฐเซเนกัล
|
|||||||||||||||||||||||||||
3451 | รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ซึ่งได้มีการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3452 | การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ | รง. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง
อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ ๑๓) ลงวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป ตามที่กระทรวงแรงงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3453 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามความในพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 | พน. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามความในพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๕๐ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3454 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 | สธ. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก
พ.ศ. ๒๕๖๐ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3455 | รายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | กค. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยมีดุลการรับ/จ่ายเงิน (รายรับของประเทศหักด้วยรายจ่ายของประเทศ)
สูงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ ๔๒,๕๐๖.๕๓ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังมีข้อสังเกตว่า ด้านรายรับ
ประเภทรายได้แผ่นดิน รัฐบาลควรให้ความสำคัญในการปรับโครงสร้าง เศรษฐกิจ ภาคการผลิต
ภาคการเกษตร ภาคการท่องเที่ยว ภาคการแพทย์ และภาคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์เพื่อยกระดับการให้บริการบนฐานนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้านรายจ่าย รัฐบาลควรยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐ โดยนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการสาธารณะให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรมและทันต่อสถานการณ์
รวมถึงการพัฒนากฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอต่อรัฐสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3456 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 | กค. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. ๒๕๖๐
ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3457 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรอง (พระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในทางแพ่งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก พ.ศ. 2555) | พม. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในทางแพ่งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก
พ.ศ. ๒๕๕๕ ออกไปอีก ๑ ปี นับแต่วันที่ครบกำหนดตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ จนถึงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3458 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) | กค. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.
๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3459 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 และที่ออกตามพระราชบัญญัติการบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด พ.ศ. 2561 | ยธ. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ และพระราชบัญญัติการบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด
พ.ศ. ๒๕๖๑ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ รวม ๑๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑.
กฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามความในพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๖ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑
กฎกระทรวงระบุตำแหน่งพนักงานอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้อำนวยการสถานพินิจ ๑.๒
กฎกระทรวงการแต่งตั้งและถอดถอนผู้ช่วยพนักงานคุมประพฤติ ๑.๓
กฎกระทรวงการออกใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกอบรม
หรือสถานแนะนำทางจิต ๑.๔
ระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่อื่นของสถานพินิจ ๑.๕
ระเบียบการแยกเด็กหรือเยาวชนในสถานที่อื่นนอกจากที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๖
ระเบียบกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม
หรือสถานแนะนำทางจิตเกี่ยวกับเด็กได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ ๒.
กฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามความในพระราชบัญญัติการบริหารการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิด
พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๖ ฉบับ ดังนี้ ๒.๑
ระเบียบกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งเจ้าพนักงานพินิจซึ่งผ่านการฝึกอบรมตามมาตรา ๑๙ ๒.๒ ระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานในสถานที่ควบคุม
การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานพินิจแนวทางการปฏิบัติตัวของเด็กและเยาวชนแต่ละประเภท ๒.๓
ระเบียบการดูแล แก้ไขบำบัดฟื้นฟู และพัฒนานิสัยเด็กและเยาวชนให้กลับตนเป็นคนดี ๒.๔
ระเบียบการจัดกลุ่มเด็กและเยาวชนให้เหมาะสมในแต่ละประเภท
การควบคุมดูแลแก้ไขบำบัดฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยเด็กและเยาวชน
และการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ๒.๕
ประกาศกำหนดอาณาบริเวณภายนอกรอบสถานที่ควบคุมซึ่งเป็นที่สาธารณะเป็นเขตปลอดภัย
พร้อมแสดงแผนที่ของอาณาบริเวณดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||
3460 | รายงานประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2562-2565) | ยธ. | 21/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) แผนสิทธิมนุษยชนฯ เป็นเครื่องมือ กลไก และมาตรการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการส่งเสริม
ปกป้อง คุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำและขับเคลื่อนแผนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
โดยแผนสิทธิมนุษยชนฯ ประกอบด้วย โครงการ/กิจกรรม จำนวน ๒,๔๐๙ โครงการ มีโครงการที่ทำเสร็จ
จำนวน ๑,๘๓๗ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๒๖
และมีผลการดำเนินการในภาพรวม โดยมอบหมายกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
รับผิดชอบกำหนดแนวทาง วิธีการ รายงานผล และแบบรายงาน ทั้งนี้
เมื่อสิ้นสุดวาระการบังคับใช้แผนฯ กระทรวงยุติธรรมจึงได้รวบรวมข้อมูล
และจัดทำรายงานประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานตามแผนฯ
เพื่อแสดงถึงพัฒนาการความก้าวหน้า ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรให้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม
ส่งเสริมศักยภาพกลุ่มชาติพันธุ์และสร้างความเสมอภาคบนความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา ดำเนินการผลักดัน
(ร่าง) พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย
โดยอีกหลายกลุ่มไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิบางประการ เช่น การกำหนดสถานะของบุคคล
การมีสิทธิอาศัยและใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีการทับซ้อนกับพื้นที่อนุรักษ์หรือพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของทางราชการที่ไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ตามกฎหมาย
และการขาดโอกาสการเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน เป็นต้น ควรพิจารณากำหนดตัวชี้วัดในภาพรวม
อาทิ ดัชนีเสรีภาพ (Freedom in the world) พร้อมทั้งกำหนดค่าเป้าหมายของตัวชี้วัดแต่ละด้านให้ชัดเจน
เพื่อให้การติดตามประเมินผลสามารถสะท้อนความก้าวหน้าและผลสำเร็จในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนในภาพรวมของประเทศอย่างแท้จริง
วิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับสนธิสัญญา/อนุสัญญาระหว่างประเทศ
ปฏิญญาสากลด้านสิทธิมนุษยชน หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่เกี่ยวข้องกับด้านสิทธิมนุษยชน และมีกลไกติดตามผลการดำเนินงานเป็นระยะอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า
(Early warning) ในกรณีที่พบความเสี่ยงหรือปัญหาจากการดำเนินงาน
และหาแนวทางลดความเสี่ยงหรือแก้ไขได้ทันสถานการณ์
เพื่อให้การพัฒนางานด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |