ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 4 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 74 จากข้อมูลทั้งหมด 74 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขโรคไข้หวัดนกในอนาคต | สสป | 28/06/2548 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง แนวทางการป้องกันและแก้ไขโรคไข้หวัดนกในอนาคต โดยสภาที่ ปรึกษา ฯ มีข้อเสนอแนะโดยสังเขปดังนี้ ระบบการปศุสัตว์ ควรส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ จากพ่อแม่พันธุ์ที่มีการจัดการแบบอินทรีย์ สนับสนุนให้มีการผลิตด้วยระบบปศุสัตว์อินทรีย์ และให้มีการจัด การฟาร์ม หรือโรงเรียนที่ถูกสุขลักษณะ ระบบการควบคุมและป้องกัน ควรส่งเสริมการจัดระบบการเข้าออก ของคนและสัตว์ที่ปลอดภัยจากความเสี่ยงของการเป็นพาหะนำโรค และใช้สมุนไพรในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค แทนวัคซีน เช่น หางไหล ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น ด้านการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบทางราชการ ควร มีนโยบายส่งเสริมให้มีการวางมาตรฐานฟาร์มและให้การรับรองมาตรฐานการผลิตแบบปศุสัตว์อินทรีย์ และ วางข้อกำหนดหรือข้อบัญญัติ เกี่ยวกับการปฏิบัติ การผลิตแบบปศุสัตว์อินทรีย์ โดยผ่านการมีส่วนร่วมของ ชุมชน ด้านการบริหารจัดการ การงบประมาณและบุคลากร ควรมีแผนพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถ ของบุคลากรระดับปฏิบัติการ โดยดำเนินการควบคู่กับการปรับปรุงประสิทธิภาพของงบดำเนินการในพื้นที่ ให้ครอบคลุมเพียงพอและควรมีแผนระยะยาวในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตรวจผลและวินิจฉัยในระดับจังหวัด ทุกจังหวัด และด้านการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ ควรมีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารการ แพร่ระบาดของไข้หวัดนกและความรุนแรงอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก เพื่อการประชาสัมพันธ์ และการให้ข้อมูลข่าวสารในเชิงรุกแก่เกษตรกร และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้กระทรวง สาธารณสุขรับผิดชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อรายงานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย
|
||||||||||||||||||
62 | รายงานผลการดำเนินการควบคุมโรคไข้หวัดนกตามนโยบาย X-Ray ทุกพื้นที่ในเดือนตุลาคม 2547 | นร | 02/11/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานคณะกรรมการ
พิจารณาแก้ไขสถานการณ์โรคไข้หวัดนก รายงานผลการดำเนินการควบคุมโรคไข้หวัดนกตามนโยบาย X-Ray ทุกพื้นที่ ระหว่างวันที่ 1 - 29 ตุลาคม 2547 โดยในส่วนของผลการค้นหาโรคไข้หวัดนกสามารถค้นหาโรคได้ จำนวนทั้งสิ้น 575 จุด ใน 43 จังหวัด และได้ดำเนินการทำลายสัตว์ปีกที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อรวมตัวป่วยและตาย ได้ทั้งสิ้นประมาณ 2 ล้านตัว รวมทั้งสามารถพบโรคในจังหวัดใหม่ จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี ตาก เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร และปัตตานี ส่วน สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในคน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2547 พบผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย โรคไข้หวัดนก จำนวน 5 ราย ในจังหวัดปราจีนบุรี 1 ราย กำแพงเพชร 2 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย และพบผู้ป่วย น่าจะเป็น 1 ราย ในจังหวัดกำแพงเพชร และผู้สงสัย 1 ราย ในจังหวัดสุโขทัย สำหรับมาตรการป้องกันและ ควบคุมโรคไข้หวัดนก กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการด้านสาธารณสุขเมื่อพบผู้ป่วยเข้าข่ายไข้หวัดนก โดย ให้โรงพยาบาลทุกแห่งดำเนินการอย่างเข้มงวดทั้งประเทศ และยังมีแนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก ในคนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2547 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2548 โดยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและ สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน สาธารณสุขจังหวัดและอาสาสมัครสาธารณสุข ในส่วน ของการแก้ไขปัญหาเป็ดไล่ทุ่ง ได้มีการตัดวงจรการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง โดยส่งเสริมให้มีการรับซื้อเป็ดไล่ทุ่งก่อนที่ จะป่วย/ตาย กรณีที่จะมีการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งใหม่ให้ปรับเข้าสู่ระบบฟาร์มมาตรฐาน หรือโรงเรือนที่มีระบบป้อง กันโรคได้และเร็วที่สุดภายใน 3 เดือน ส่วนที่พบว่าเป็ดป่วยและตายให้นำไปฝัง หรือทำลายอย่างถูกต้องตาม หลักวิชาการ และให้มีการชดใช้ตามกฎหมาย |
||||||||||||||||||
63 | การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและโคลนถล่ม ปี 2547 | มท | 15/06/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทก
ภัย วาตภัยและโคลนถล่มปี 2547 ตามผลการประชุมของคณะกรรมการอำนวยการเพื่อกำหนดแนวทางการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและโคลนถล่ม ปี 2547 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 โดยที่ประชุม ได้พิจารณาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาวดังนี้ ตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างทันท่วงที จัดทำโครงการพัฒนาและแก้ไข ปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้บนพื้นที่ต้นน้ำลำธาร การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการที่อยู่อาศัย การคมนาคม ขนส่ง การประกอบอาชีพ/จิตใจ ความมั่นคงและอื่น ๆ รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการตามโครง การพระราชดำริ และปรับปรุงแก้ไขระเบียบว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เอื้ออำนวย ต่อการป้องกันในขณะก่อนเกิดภัย เพื่อลดผลกระทบและไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้น |
||||||||||||||||||
64 | การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติภัยจากก๊าซหุงต้ม | มท | 22/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติภัย
จากก๊าซหุงต้มในระยะยาว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้ ให้กระทรวงพลังงาน เป็นศูนย์กลาง ในการบูรณาการการอนุญาต การควบคุม การตรวจสอบ การบรรจุ การสะสม การจำหน่าย และการตั้งสถานี จำหน่ายก๊าซหุงต้ม รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกำหนดพื้นที่จำหน่าย (zoning) การปรับปรุงแก้ไข ระเบียบกฎหมาย การห้ามมิให้มีการสะสม เก็บรักษาและจำหน่ายก๊าซหุงต้มรวมกับก๊าซ สารเคมีหรือวัตถุไวไฟ ชนิดอื่น ๆ ในสถานที่เดียวกัน ฯลฯ และให้จังหวัด อำเภอ กิ่งอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้มงวดกวด ขันในการตรวจตราและกำกับดูแลการประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยพิจารณา ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดจากก๊าซหุงต้ม เช่น กฎ หมายว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย ฯลฯ
|
||||||||||||||||||
65 | กระทู้ถามที่ 1117 ร. เรื่อง มาตรการควบคุมโรคไข้เลือดออก | สผ | 30/12/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1117 ร.
เรื่อง มาตรการควบคุมโรคไข้เลือดออก ของนางสาวศุภมาส อิศรภักดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหา นคร และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า เขตหลักสี่เป็นเขตรอบ นอกของกรุงเทพมหานคร อยู่ในโซนบูรพามีประชากรประมาณ 120,760 คน จำนวนครัวเรือน 43,163 ครัว เรือน เขตการปกครอง ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้อง และแขวงตลาดบางเขน มีชุมชนที่ได้รับการจัดตั้ง 64 ชุมชน ลักษณะชุมชนส่วนใหญ่เป็นชุมชนบ้านจัดสรร มีโรงเรียนในพื้นที่ทั้งหมด 19 โรงเรียนศาสนสถาน (วัด) 1 แห่ง ทั้งนี้ ได้กำหนดให้เป็นชุมชนแกนนำปลอดลูกน้ำยุงลาย 6 แห่ง คือ ชุมชนแจ้งวัฒนะผาสุข ชุมชนเปรม สุขสันต์ ชุมชนชายคลองบางบัว ชุมชนเคหะ ชุมชนทุ่งสองห้อง 328 ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาววัดหลักสี่ และ ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาววัดหลักสี่ (ฝั่งโฟโมสต์) รวมทั้งกำหนดมาตรการและแนวทางการป้องกันและควบคุมโรค ไข้เลือดออก โดยจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของเขตหลักสี่และ กำหนดให้มีการประชุมทุก 3 เดือน ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก โดยในพื้นที่เขตหลักสี่มี หน่วยงานรับผิดชอบด้านการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ประกอบด้วย ศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ทุ่งสองห้อง และหน่วยควบคุมสัตว์นำโรคคู้บอน สำหรับการจัดการและรักษาสภาพแวดล้อมของชุมชนให้ ปลอดภัยจากยุงลาย กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข มีแนวทางการจัด การดูแลและรักษาสภาพแวดล้อมของชุมชนให้ปลอดภัยจากยุงลาย ดังนี้ แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ โดยมอบหมาย ให้สำนักอนามัย โดยฝ่ายสัตว์นำโรค กองควบคุมโรค มีหน้าที่ในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย ส่วนการจัดการและ รักษาสภาพแวดล้อมของชุมชน ได้แก่ มาตรการป้องกันโรคล่วงหน้า และมาตรการควบคุมเมื่อเกิดโรคในพื้นที่ |
||||||||||||||||||
66 | การแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม จังหวัดเพชรบุรี (แผนงานระยะสั้น) | นร | 29/11/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเห็นชอบโครงการ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดเพชรบุรี ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) เสนอ โดยให้รับ ประเด็นอภิปรายของ คกก.3 ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ ในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ชะลอ โครงการสร้างฝายกัก-ผันน้ำฝายวังยาว ตำบลกำเนิดนพคุณ อำเภอบางสะพาน ไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่มีราย ละเอียดเพียงพอ ส่วนโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองเขาแดง พร้อมสะพาน คสล. อำเภอกุยบุรี เนื่องจากพื้นที่ป่าโดยรอบโครงการก่อสร้างเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ หากมีการก่อสร้างตามโครงการอาจส่งผลกระทบ ต่อพื้นที่ป่าดังกล่าว จึงสมควรพิจารณาให้รอบคอบว่า สมควรจะดำเนินการก่อสร้างตามโครงการต่อไปหรือไม่ สำหรับการซ่อมสร้างผิวจราจร จำนวน 16 โครงการ รวม 16 จุด ของเส้นทางหลวงชนบทจังหวัด หากจะแก้ไข ให้ครบทั้ง 16 จุด ในปี พ.ศ. 2547 จะเป็นภาระหนักต่องบประมาณของแผ่นดิน จึงเห็นควรเน้นเฉพาะจุดที่ต้อง แก้ไขโดยเร่งด่วนอย่างแท้จริง ในส่วนของจังหวัดเพชรบุรี ให้ชะลอโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ และกั้นน้ำเค็มที่ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จำนวน 2 แห่ง ไว้ก่อน เนื่องจากยังขาดรายละเอียดที่ชัดเจน ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นอกจากการก่อสร้างระบบชลประทานแล้ว ควรกันพื้นที่สำหรับรองรับการไหล ผ่านของน้ำ (flood way) ไว้ด้วย กับให้กรมชลประทานและกรมทางหลวงปรับแผนการดำเนินงานตามโครงการ ให้เหมาะสม และในกรณีที่จำเป็นต้องดำเนินโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเร่งด่วน และมิได้ตั้งงบประมาณราย จ่ายสำหรับโครงการนั้นไว้ ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอใช้เงินงบกลางต่อไปตามความเหมาะ สม นอกจากนี้ การซ่อมบำรุงผิวจราจร ซึ่งเป็นจุดไหลผ่านของน้ำเป็นประจำทุกปี ควรกำหนดมาตรการเสริม ด้านอื่นด้วย เช่น การวางผังเมือง หรือนำกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาบังคับใช้ในบางกรณีที่จำเป็นเพื่อบรร เทาปัญหา เช่น การก่อสร้างหรือการถมดินที่ส่งผลกระทบต่อทางระบายน้ำตามธรรมชาติ เป็นต้น และการ แก้ไขปัญหาควรเตรียมงบประมาณให้พร้อม และควรดำเนินการในลักษณะบูรณาการ สำหรับงบประมาณเพื่อ การดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 จังหวัด ให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในราย ละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า แนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำ ท่วมในพื้นที่แต่ละจุด จะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบเหมาะสม เพื่อมิให้ขัดแย้งกับแนวทางการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมในพื้นที่นั้นในภาพรวมหรือก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้เช่น กรณีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในจังหวัด จันทบุรีมีความเหมาะสมที่จะต้องดำเนินการก่อสร้างช่องทางระบายน้ำลอดถนน (box culvert) เพิ่มเติมอีก 2- 3 แห่ง เป็นต้น จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) รับข้อสังเกตไปประกอบการพิจารณาดำเนิน การต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
67 | กระทู้ถามที่ 401 ร. เรื่อง การแก้ไขข้อขัดแย้งกรณีโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยและระบบบ่อบำบัดน้ำเสียในเขตเทศบาลทั่วประเทศ | สผ | 19/08/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 401 ร.
เรื่อง การแก้ไขข้อขัดแย้งกรณีโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยและระบบบ่อบำบัดน้ำเสียในเขตเทศ บาลทั่วประเทศ ของนายนพดล อินนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (บัญชีรายชื่อ) และให้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) จากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้มีการปรับปรุงขั้นตอน ในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประชาชนที่มีต่อโครงการ ก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยและระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย ได้แก่ การกำหนดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการศึกษาความเหมาะสม และจัดให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นกลางต่อ สาธารณชน ตลอดจนการจัดทำประชาพิจารณ์ก่อนดำเนินโครงการโดยหน่วยงานเจ้าของโครงการเป็นผู้ ดำเนินการ และการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาสนับสนุนโครงการ โดยระบุให้องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่นต้องเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณา (2) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดแนวทางการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ ความขัดแย้งของประชาชนที่มีต่อโครงการ ฯ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดประโยชน์สูง สุดจากงบประมาณแผ่นดินที่ได้จัดสรรและกำลังจะจัดสรรไปยังโครงการต่าง ๆ โดยได้ประสานกับองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนอย่างใกล้ชิดและทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านวิชาการให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในหมวดเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ (3) การตรวจสอบการปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักการทำการประชาพิจารณ์ตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะโดยวิธีประชาพิจารณ์ พ.ศ. 2539 หน่วยงานเจ้าของโครงการ จะต้องรายงานการดำเนินการให้แก่คณะกรรมการที่ปรึกษาว่าด้วยการประชาพิจารณ์ โดยคณะกรรมการดัง กล่าวมีหน้าที่ในการกำกับดูแล รับฟังความคิดเห็นสาธารณะให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย วินิจฉัย ตอบข้อหา รือตามที่กำหนดในระเบียบ และรายงานสรุปผลการทำประชาพิจารณ์ตามที่ได้รับเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||
68 | การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยภาคกลางและภาคตะวันออก | รส | 25/02/2545 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยภาคกลาง
และภาคตะวันออก ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายเดช บุญ-หลง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคมเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง (ซึ่งเห็นควรให้เบิกค่าใช้จ่ายในการ บริหารจัดการและการติดตาม ควบคุม กำกับดูแลงานปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ในวงเงิน 959,040 บาท) และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการกำหนด มาตรการและแนวทางป้องกันควรศึกษาวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทั้งลุ่ม น้ำอย่างเป็นระบบในระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อมิให้การแก้ไขปัญหาในจังหวัดหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อจังหวัดข้างเคียง และแผนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยสามารถปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ส่วนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่ภาคกลางโดยเฉพาะจังหวัด ซึ่งมีพื้นที่ส่วนหนึ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้พิจารณามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาจากผลการศึกษา โครงการจัดทำกรอบและประสานการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดย ให้สำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหน่วยงานกลางในการประสานและการจัดทำแผน ไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้แนวทางการแก้ไขปัญหาเกิดความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการ แก้ไขปัญหาอุทกภัยและบริหารจัดสรรน้ำทั้งระบบลุ่มน้ำเจ้าพระยาในภาพรวมอย่างมีประสิทธิภาพ) ไป พิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
69 | แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างถนน | นร | 12/06/2544 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างถนน ถ้าเป็น
ถนนเดิมให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้านถนนเร่งสำรวจเส้นทางที่กีดขวางการไหลของน้ำ รวมทั้งปรับปรุง หรือก่อสร้างท่อลอดและทางระบายน้ำเพิ่มเติมให้มีขนาดเหมาะสมและเพียงพอ โดยหารือกับกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการขยายการก่อสร้างถนนใหม่ให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้านถนนให้ ความสำคัญในการศึกษาเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการขยายหรือก่อสร้างถนนใหม่ โดยให้ประสานกับ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ในขั้นการศึกษาออกแบบ เพื่อให้มีการระบายน้ำที่มีประสิทธิ ภาพ ทั้งนี้ ให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||
70 | การปฏิบัติตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน | รส | 10/02/2541 | |||||||||||||||
รับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (27 มกราคม 2541) เกี่ยวกับแนวทาง
การแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน และอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีป้องกันและ แก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องด้านแรงงาน ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ สรุปได้ ดังนี้ 1. กระทรวงแรงงาน ฯ ได้จัดทำแถลงการณ์ ชี้แจง ประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันและแก้ไข ปัญหาแรงงานให้นายจ้างและลูกจ้างได้ทราบ 2. ผู้แทนสภาองค์การนายจ้าง สภาองค์การลูกจ้าง และกระทรวงแรงงาน ฯ ได้ปรับปรุงแนว ปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2539 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันและได้ ลงนามร่วมกันแล้ว 3. กระทรวงแรงงาน ฯ ได้จัดประชุมผู้นำสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้าง ตลอดจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหา และร่วมกันหาแนวทางมาตรการเรียกร้องด้านแรง งาน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการไตรภาคีพิเศษขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งและข้อ พิพาทร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาวะวิกฤต |
||||||||||||||||||
71 | การหาประโยชน์จากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ | นร | 30/12/2540 | |||||||||||||||
เห็นชอบแนวทางการป้องกันการหาประโยชน์จากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ 1. เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหรืออนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจใดแล้ว ให้รัฐมนตรี ที่รับผิดชอบกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจนั้นประชุมชี้แจงกรรมการเพื่อทราบและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการรักษา ผลประโยชน์ของส่วนรวม และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประสานกับกระทรวงการคลังและสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดสัมมนาซักซ้อมความเข้าใจในเรื่องนี้ กับกรรมการรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไปด้วย 2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกร่างกฎหมายที่มีบท บัญญัติในทางป้องกัน เกี่ยวกับการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการ รัฐวิสาหกิจเพื่อใช้เป็นกฎหมายกลางสำหรับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ และให้ครอบคลุมถึงข้าราชการด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ
|
||||||||||||||||||
72 | แนวทางการป้องกันและระงับอัคคีภัยกับอาคารสูง | นร | 15/07/2540 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงแรมรอยัลจอมเทียน พัทยา และ
การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ กับ เห็นชอบแนวทางการป้องกันและระงับอัคคีภัยกับอาคารสูง และอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่ รองนายกรัฐมนตรี (นายกร ทัพพะรังสี) ประธานกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เสนอ |
||||||||||||||||||
73 | แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ | นร | 31/10/2532 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติแนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการ
รัฐมนตรีฝ่ายสังคม ครั้งที่ 4/2532 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2532 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคม เสนอ |
||||||||||||||||||
74 | รายงานผลการสัมมนาสัญจรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเรื่อง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา | วพ | 04/03/2532 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
เกี่ยวกับ เรื่องวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ 20- 21 มกราคม 2532 ที่จังหวัดสงขลา ผลการสัมมนาด้านการอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา นั้นให้มีการจัดคณะกรรมการบริหารลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ให้มีการกำหนดขอบเขตการใช้ที่ดิน ส่วน แนวทางการป้องกันความเสื่อมโทรมของคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้น โดยให้ความรู้แก่เกษตรกรเน้นวิธีใช้ สารเคมี ให้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมควบคุมการกำจัดน้ำเสียและน้ำทิ้ง และให้บรรจุข้อเสนอแนะ ไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดที่เกี่ยวข้อง 3 จังหวัด
|