สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติรายงานว่าในการประชุม
คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2534 ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของทบวง
มหาวิทยาลัยเรื่องขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันการขาดแคลนน้ำมัน
เชื้อเพลิงแล้ว มีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อ
เพลิงจำนวน 3 ครั้งได้แก่ 1.มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2522 2.มติคณะรัฐมนตรี 
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2522 และ 3.มติ คณะรัฐมนตรี วันที่ 7 ตุลาคม 2523 โดยเฉพาะ
ข้อ (2) เกี่ยวกับการงดใช้เครื่องปรับอากาศในสถานที่ราชการและรัฐวิสาหกิจ เว้นแต่การใช้
ที่จำเป็น เช่น การใช้เพิ่อรักษาพยาบาลการใช้ในห้องหรืออาคารที่ไม่ต้องการให้เสียงภาย
นอกเข้ามารบกวน การใช้เพื่อประโยชน์ในการเก็บรักษาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือการ
ใช้เพื่อการอื่นตามที่ได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีผู้กำกับรัฐวิสาหกิจโดย
เห็นสมควรให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
เพื่อการอื่นตามที่จำเป็นแทนรัฐมนตรี เพื่อในการขออนุมัติติดตั้งเครื่องปรับอากาศจะได้
เกิดตามคล่องตัว และเป็นการแบ่งเบาภาระรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี 
อนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เสนอ

             รับทราบรายงานผลความก้าวหน้าในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งได้มอบหมายระหว่าง
เดือนมีนาคม 2534-16 กรกฎาคม 2534 จำนวน 17 เรื่อง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

          กระทรวงการคลังได้รายงานผลการพิจารณาปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติตามระเบียบ
การก่อหนี้ของประเทศให้ยืดหยุ่นและคล่องตัว สำหรับการดำเนินกิจการของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ 
รวมทั้งการพิจารณาปรับเพิ่มวงเงินกู้ประเทศให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ และพิจารณา
ระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ดังนี้ เรื่องการปรับวงเงินกู้ได้ปรับวงเงินกู้ให้เพิ่มสูง
ขึ้น 500 ล้านเหรียญสหรัฐโดยรวมโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีของบริษัทการปิโตเลียมแห่งประ
เทศไทย สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (ปตท.สผ.) กับของบริษัท การบินไทย จำกัด เข้าในแผน
การก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2534 (ปรับปรุงครั้งที่1)แล้ว และปรับปรุงให้การ
กู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในระยะไม่เกิน 1 ปี ของรัฐวิสาหกิจไม่อยู่ในกรอบ
วงเงินตามแผนการก่อหนี้ฯแต่ต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง เป็นราย ๆไป และสำหรับการ
พิจารณาระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว
และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรีมีมติ
ให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯฝ่ายเศรษฐกิจทราบก่อน

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานวิธีการและมาตรการแก้ไขปัญหา
การทิ้งขยะมูลฝอยจากอาคาร ร้านค้า  และบ้านเรือนบริเวณริมแม่น้ำลำคลอง  ตลอดจนการทิ้งขยะของ
กรุงเทพมหานคร ในซอยอ่อนนุช

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า ได้จัดซื้อรถรับรองประจำจังหวัด
จำนวน 4 คัน  สำหรับใช้ในจังหวัดที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และเป็นจังหวัดสถานที่ตั้งของพระตำหนักถาวร
คือ เชียงใหม่ สกลนคร ประจวบคีรีขันธ์ นราธิวาส และส่งมอบให้จังหวัดดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2532   ตามที่ สศธ.
คณะรัฐมนตรี อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

        คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2534 เรื่อง
การประกันสังคมและการจัดตั้ง PROVIDENT FUND ตามที่รัฐ - นร (นายไพจิตร  เอื้อทวีกุล) เสนอ

            รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขออนุมัติการรับจ่ายเงินสมทบ
และประโยชน์ทดแทนผ่านธนาคาร  และให้ธนาคารสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์
ของสำนักงานประกันสังคม ประจำงวดที่ 2 ปีงบประมาณ 2534 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

            รับทราบรายงานผลความก้าวหน้าในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งได้รับมอบหมาย รวม
21 เรื่อง ระหว่างเดือนมีนาคม 2534 - 2 กรกฎาคม 2534 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

            รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (19 กุมภาพันธ์ 2534) ของหน่วย
งาน ที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับเรื่องรถบรรทุกวัตถุระเบิดพลิกคว่ำและเกิดระเบิด
ที่จังหวัดพังงา ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

    เห็นชอบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องโครงการ
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภูมิภาค  ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ  
การพลังงานเสนอ และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน
 สำนักงานข้าราชการพลเรือน และ สำนักงบประมาณ ร่วมประสานกัน เพื่อ
เร่งรัดโครงการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภูมิภาคให้เป็นรูปธรรม โดยด่วนที่สุด 
และขอให้รายงานผลคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะด้วย

             รับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานรายงานการดำเนินการตาม
มติคณะรัฐมนตรีเรื่อง นโยบายและมาตรการเร่งด่วนเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ อากาศ และเสียง
ในประเทศไทย  โดยการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านมลพิษทางอากาศ และเสียง ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์
เร่งประสานงานกับสำนักงานงบประมาณโดยด่วน

             รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหา
มลพิษของแหล่งน้ำ เมืองพัทยา ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานเสนอ

             รับทราบรายงานผลการดำเนินการ เรื่อง การติดตั้งอุปกรณ์ กำจัดมลพิษทางอากาศจากไอเสียรถ
ยนตร์ เกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานเสนอ

             รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล แผนงาน/โครงการ และมติคณะ
รัฐมนตรี ประจำงวดเงินงบประมาณที่ 2 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติ
               ๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
                   ๑.๑ ให้กรมชลประทานทำสัญญาจ้างบริษัท สหการวิศวกร จำกัด เพื่อทำการก่อสร้างเขื่อนดิน และอาคารประกอบ โครงการย่อยอ่างเก็บน้ำห้วยเดื่อ ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในราคาค่าจ้างเหมารวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๖๒,๔๘๕,๘๒๔.๔๔ บาท
                   ๑.๒ ให้กรมชลประทานทำสัญญาตามข้อ ๑.๑ ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันงบประมาณข้ามปี โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
                         ๑.๒.๑ ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๓ จำนวน ๑,๑๒๒,๖๘๓.๐๐ บาท ซึ่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้กรมชลประทานขยายเวลาเบิกจ่ายต่อไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ เงินทดรองราชการ จำนวน ๒,๗๐๙,๐๐๐.๐๐ บาท
                         ๑.๒.๒ ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๖,๐๖๔,๐๒๐.๐๐ บาท เงินทดรองราชการ จำนวน ๑๔,๑๔๙,๓๘๐.๐๐ บาท
                         ๑.๒.๓ ส่วนที่เหลือ จำนวน ๓๘,๔๔๐,๗๔๑.๔๔ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๕-พ.ศ. ๒๕๓๖
               ๒. หากค่าจ้างงานปริมาณงานที่ทำจริงเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน ๑๐% ของราคาค่าจ้างตามสัญญา ให้กรมชลประทานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๒๙ ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินการตามนโยบาย
ของรัฐบาล แผนงาน โครงการ และมติคณะรัฐมนตรี  ตามแผนพัฒนาศาลและกระทรวงยุติธรรม  ฉบับ
ที่ 2 (พ.ศ. 2530-2534) และผลการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการของแผนปฏิบัติการ 
(เมษายน 2534-กันยายน 2535) ประจำงวดเงินงบประมาณที่ 2 ปีงบประมาณ 2534

มติคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
     ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณามาตรการเร่งด่วนในการลดปริมาณการจราจร ดังนี้
     1. มาตรการสลับเวลาทำงาน
        เห็นควรทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2532 ในเรื่องมาตรการ
สลับเวลาทำงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยขอให้
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการทดลองดำเนินการดังนี้
        1.1 ขอความร่วมมือให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดสั่งการให้ส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจหน่วยงานที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น และ
หน่วยงานอื่นของรัฐในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปรับช่วงเวลาทำงานใน
แต่ละหน่วยงานออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ 07.30-15.30 น. 08.30-16.30 น.
และ 09.30-17.30 น. ทั้งนี้ควรให้หน่วยงานระดับกองสามารถพิจารณาเลือกช่วงเวลา
ทำงานตามความเหมาะสมให้มีประสิทธิภาพ และมิให้เสียหายต่อผลประโยชน์ของทางราชการ
        1.2 มอบหมายให้คณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล ประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการในข้อ 1.1 ภายใน 3 เดือน แล้ว
รายงานต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป
     2. สำหรับมาตรการส่งเสริมรถโรงเรียน และมาตรการส่งเสริมการจัดรถรับส่ง
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการ ฯ เห็นควรสนับสนุนให้หน่วยงานรับผิดชอบ
ได้แก่ โรงเรียน สมาคมครูผู้ปกครอง ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน
ขยายบริการรถรับส่งที่มีมาตรฐาน โดยใช้มาตรการลดต้นทุน และการอำนวยความสะดวก
เป็นสิ่งจูงใจ ทั้งนี้คณะกรรมการ ฯ จะนำเสนอรายละเอียดของมาตรการทั้งสองต่อ
ฯพฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาโดยด่วนต่อไป คณะรัฐมนตรีมีมติ 
     1. รับทราบมาตรการส่งเสริมรถโรงเรียน และมาตรการส่งเสริมการจัดรถรับส่ง
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ตามที่คณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาจราจรใน
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเสนอ
     2. เห็นชอบด้วยในหลัการของมาตรการสลับเวลาทำงานที่คณะกรรมการประสาน-
การแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเสนอ โดยให้ทดลองดำเนินการ
เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดสั่งการให้ส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่มีกฏหมายบัญญติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นและ
หน่วยงานอื่นของรัฐในเขตกรุงเทพมหานครรับไปพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมกับ
หน่วยงานนั้น ๆ โดยไม่ให้เกิดผลเสียหานต่อการให้บริการกับประชาชน ทั้งนี้
ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2534 เป็นต้นไป
     3. ให้คณะกรรมการ ฯ ประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการในข้อ 2 เสนอ
คณะรัฐมนตรี ภายใน 3 เดือน
หมายเหตุ ได้มีหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0202/ว 146 ลงวันที่ 29
สิงหาคม 2534 มาแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (20 สิงหาคม 2534) โดยให้ตัดความว่า
"....โดยให้ทดลองดำเนินการเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น" ออก

             รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า คณะกรรมการบริหารการนำเข้าปูนซิเมนต์ได้ดำเนิน
การดังนี้
             1. วางแผนการนำเข้าปูนซิเมนต์ ปี 2534 เสร็จเรียบร้อยแล้ว
             2. กำลังเร่งรัดให้การนำเข้าเป็นไปตามแผนที่กำหนด
             3. ปรับราคาปูนซิเมนต์ตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2534 
             4. จำนวนเงินทุนหมุนเวียนซึ่งอยู่ระหว่างยืนกู้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด