คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ  กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 6-17 ธันวาคม 2544 ในส่วนของการพยากรณ์
ของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยสภาพอากาศในช่วงระยะดังกล่าว ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศ
หนาวเย็นเกือบทั่วไป และในระยะปลายช่วงตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2544 อุณหภูมิจะสูงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝน
ตกหนัก และการคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 17-23 ธันวาคม 2544  ส่วนสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
และสภาพน้ำท่า  ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศส่วนใหญ่ และปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
อยู่ในเกณฑ์ที่ดี  สำหรับลุ่มน้ำภาคใต้ซึ่งเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากทำให้เกิดสภาพน้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัด
นราธิวาส  ปัตตานี  และยะลา  รวมทั้งรายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ มี
จังหวัดที่ประสบอุทกภัย 40 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 34 จังหวัด ขณะนี้ทุกจังหวัดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 
และเมื่อวันที่  11  ธันวาคม  2544  ได้เกิดไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีภัณฑ์การเกษตรที่บริเวณตลาดท่าขุนนาง
อำเภอเมือง  จังหวัดลพบุรี  เป็นเหตุให้มีสารเคมีไหลลงสู่แม่น้ำลพบุรี  ทำให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรผู้
เลี้ยงปลาในกระชังและปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ กรมป่าไม้ได้รายงานการเกิดไฟป่ารวม 10 ครั้ง ในเขตจังหวัดนครนายก ระนอง พิษณุโลก ลพบุรี
และเลย พื้นที่เสียหายรวม 244 ไร่ สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในการดำเนินการดับไฟป่าตามแผนปกติ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ  ช่วงระหว่างวันที่ 18-24 ธันวาคม 2544  ในส่วนของการพยากรณ์
อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าว และการคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวัน
ที่ 24-30 ธันวาคม 2544 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า  รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมาจาก
อิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัยรวม 40 จังหวัด  และรายงานความเสียหายทาง
การเกษตร  34  จังหวัด โดยขณะนี้ทุกจังหวัดเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว  ส่วนอุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้  ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2544   มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย  5  จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส  ปัตตานี  ยะลา  พัทลุง  และสงขลา  รวมทั้งรายงานจากกรมป่าไม้เกี่ยวกับสถานการณ์
ไฟป่า โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม-วันที่ 25 ธันวาคม 2544  มีไฟป่าเกิดขึ้นรวม  22  ครั้ง  ในเขตจังหวัดนครนายก
ระนอง พิษณุโลก ฉะเชิงเทรา ลพบุรี เลย และมุกดาหาร  พื้นที่เสียหายรวม  459  ไร่  สาเหตุของการเกิดไฟป่า
มาจากการล่าสัตว์ หาของป่า เผาไร่ และลักลอบทำไม้  ซึ่งสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในการดำเนินการดับไฟป่าตาม
แผนปกติ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 3  ที่มีมติ  
เห็นชอบตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  ครั้งที่  8/2544  เรื่อง  การดำเนินการตามมติคณะกรรม 
การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  ครั้งที่  6/2544  เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2544  เรื่อง  ขอผ่อนผันการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ  
ระบบปิดในพื้นที่น้ำจืดเฉพาะแห่ง  ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ  และที่เสนอ 
เพิ่มเติม (ที่ประชุมมีมติให้กำหนดเขตส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งกุลาดำให้ชัดเจน ตลอดจนส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจ  
จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งเงินทุน  และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพันธุ์  
กุ้ง   กับให้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในระยะยาวเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งกุลาดำอย่างยั่งยืน  โดยให้คำนึงถึงทั้งด้าน  
สิ่งแวดล้อมและการใช้ปัจจัยการผลิต   รวมทั้งการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์กุ้ง   และเปลี่ยนหน่วยงานหลักจาก 
กระทรวงมหาดไทย  เป็นจังหวัด  และเพิ่มสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานสนับสนุน) และให้ 
กระทรวงวิทยาศาสตร์  ฯ   รับประเด็นอภิปราย  (เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นค่าประกันความเสียหาย 
ด้านสิ่งแวดล้อม  ไม่ควรใช้เงินงบประมาณ    แต่ควรให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเป็นผู้จ่ายเงินเพื่อจัดตั้งกองทุนตาม  
หลักการผู้ก่อมลภาวะเป็นผู้จ่าย   ส่วนการจำแนกเขตเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่น้ำจืด ให้แก้ไขปรับปรุงให้มี 
การอนุญาตการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่ที่เหมาะสม)  ไปพิจารณาด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  121  เรื่อง  มาตรการในการคุ้มครองคนงานไทยที่ไป 
ทำงานในต่างประเทศ ของนายไสว พราหมณี สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีมาตรการ 
แก้ไขปัญหาของแรงงานไทยที่ไปทำงานยังต่างประเทศให้กับแรงงานไทย ฯ  รวมทั้งมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้
เกิดปัญหาการหลอกลวงคนงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศอย่างไร และมีแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างไรให้เป็น 
รูปธรรม   กรณีเกิดภาวะสงครามหรือภาวะเสี่ยงอันตรายที่เกิดในต่างประเทศ   กระทรวงแรงงานและสวัสดิการ
สังคมมีแผนการช่วยเหลือเพื่ออพยพแรงงานไทยอย่างไร  และกรณีดังกล่าวจะมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับแรงงาน  
ไทยหรือไม่  ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  ฯ 
ตอบในที่ประชุมวุฒิสภาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ  
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน-4 ธันวาคม 2544 ในส่วนของการ
พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าว  และการคาดหมายลักษณะอากาศ  
ระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคม 2544  สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า   รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัย  ได้แก่  
อุทกภัยจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 37 จังหวัด โดยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว   
35 จังหวัด  ส่วนอีก 2 จังหวัด  คือ  จังหวัดพิษณุโลก และสุรินทร์ ยังมีน้ำท่วมขัง  สำหรับความเสียหายที่เกิดจาก
อุทกภัย ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 26 จังหวัด รวม 337,632 ไร่ แยกเป็น ข้าว พืชไร่  พืชผัก 
ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลไม้ยืนต้น  และอื่น ๆ  ด้านปศุสัตว์  มีพื้นที่ประสบภัย 12 จังหวัด  สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระ
ทบ รวม 108,333 ตัว ด้านประมง มีพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด  จำนวน 5,853.16 ไร่  บ่อปลาเสียหาย1,661 
บ่อ 32 แปลง 68 กระชัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 41,726,200 บาท รวมทั้งรายงานสถานการณ์ภัยแล้ง
ที่จังหวัดสตูล และสุพรรณบุรี  และรายงานสถานการณ์โรคระบาดและแมลงศัตรูพืชที่จังหวัดนครสวรรค์

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน  กรมการปกครอง  กระทรวง
มหาดไทย รายงานสรุปสถานการณ์สาธารณภัย  โดยสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 22-24 ธันวาคม
2544   จังหวัดสงขลา  สถานการณ์ปัจจุบันในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว   แต่
ยังมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่  ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช  พัทลุง  ปัตตานี  ยะลา  และนราธิวาส  ระดับน้ำได้ลดลง  
เกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว    สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ได้เกิดภาวะภัยแล้งในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม   รวม   
13  ตำบล  63  หมู่บ้าน  ราษฎรขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร  ทั้งนี้  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  
ได้ให้ความช่วยเหลือโดยนำรถบรรทุกน้ำขนาด  10,000  ลิตร  แจกจ่ายน้ำตามหมู่บ้านแล้ว   รวมทั้งรายงานการ 
ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดเพชรบุรี/จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสภาพอากาศภาคเหนือภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ  กระทรวงเกษตรและ  
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2544 ในส่วนของการพยากรณ์
อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าว และการคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่
24-28 พฤศจิกายน 2544 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า  รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัย  ได้แก่  อุทกภัย  
จากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ  ซึ่งมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย  32  จังหวัด    โดยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  28
จังหวัด ส่วนอีก 4 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก สุพรรณบุรี สุรินทร์  และนราธิวาส  ยังมีน้ำท่วมขัง  ส่วนความเสีย  
หายที่เกิดจากอุทกภัย ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 24 จังหวัด รวม 311,889 ไร่  แยกเป็น  ข้าว  
พืชไร่ พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ  ด้านปศุสัตว์ มีพื้นที่ประสบภัย 11 จังหวัด  สัตว์เลี้ยงได้ 
รับผลกระทบรวม 11,648 ตัว ด้านประมง  มีพื้นที่ประสบภัย 3 จังหวัด  จำนวน 5,542.75 ไร่  บ่อปลาเสียหาย
1,041 บ่อ 32 แปลง 68 กระชัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 39,336,800 ล้านบาท

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 9-16 พฤศจิกายน 2544 ในส่วนของการพยากรณ์
อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าว และการคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวัน 
ที่ 16-21 พฤศจิกายน 2544 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัย  ได้แก่  อุทก  
ภัยจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด  โดยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  27 
จังหวัด ส่วนอีก 3 จังหวัด คือ จังหวัดสุโขทัย สุรินทร์ และสุราษฎร์ธานี  ยังมีน้ำท่วมขัง  ส่วนความเสียหายที่เกิด 
จากอุทกภัย ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายรวม 311,889 ไร่ แยกเป็น ข้าว พืชไร่  พืชผัก  ไม้ดอก 
ไม้ประดับ ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ด้านปศุสัตว์  อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย  และด้านประมง  มีพื้นที่ 
ประสบภัย 72.84 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 138 บ่อ  59  กระชัง  มูลค่าความเสียหายประมาณ  1,666,300  บาท
และในช่วงดังกล่าวได้เกิดสถานการณ์โรคระบาดและแมลง โดยเกิดโรคไหม้ของข้าวในพื้นที่อำเภอทับปุด จังหวัด  
พังงา  ส่งผลให้ข้าว (กข 15) ของเกษตรกรซึ่งอยู่ในระยะออกรวงเสียหาย จำนวน  594  ไร่  ทั้งนี้  หน่วยงานที่ 
เกี่ยวข้องได้จัดเจ้าหน้าที่ออกให้คำแนะนำวิธีการป้องกันและกำจัดโรคไหม้แก่เกษตรกร   พร้อมสำรวจความเสีย  
หายเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิตทดแทนในช่วงฤดูการเพาะปลูก และได้ประชาสัมพันธ์
เตือนการระบาดของโรคไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว ตลอดจนการเกิดไรแดงในพืชไร่และไม้ผล ให้ 
เกษตรกรได้รับทราบในพื้นที่ที่อาจเกิดการระบาด

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 7/2544 เรื่อง  กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและ  
ป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2544 โดยมีสาระสำคัญให้ยกเลิกคำสั่งสำนัก 
นายกรัฐมนตรี ที่ 5/2544 เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวัน
ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2544 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ 
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 2 - 9 พฤศจิกายน 2544  ในส่วนของการพยากรณ์
อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าวและการคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 
10 - 14 พฤศจิกายน 2544 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า รวมทั้งสถานการณ์อุทกภัย ได้แก่ อุทกภัย  
ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นอุซางิ ซึ่งมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย  35  จังหวัด โดยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  27  
จังหวัด ส่วนอีก 8 จังหวัด ยังมีน้ำท่วมขัง และอุทกภัยจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 27 
ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2544) มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 18 จังหวัด  โดยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 4 จังหวัด  นอก
จากนี้  ช่วงระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2544  มีรายงานเกี่ยวกับการระบาดของศัตรูพืชในจังหวัด 
นครสวรรค์  จังหวัดตาก  และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  โดยเกิดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรค  
ไหม้และแมงบั่วในนาข้าว ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือราษฎรและเกษตรกรที่ประสบภัยธรรม 
ชาติดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  106  เรื่อง  แนวทางการแก้ไขปัญหาปุ๋ยราคาแพง 
ของนายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถามว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มีมาตรการรองรับการขึ้นราคาสินค้าทางด้านการเกษตรอย่างไร ที่จะไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่
ของประเทศ    รวมทั้งมีแผนงาน โครงการและแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะสั้นและระยะยาว 
อย่างไรที่จะคุ้มครองผู้บริโภคในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน   และได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุน 
และยกระดับการผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศอย่างไร  
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ      และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตอบในที่
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 215 ร. เรื่อง กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ของนาย    
วิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีนโยบายและมาตรการที่จะผ่อน 
ผันการชำระเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาในภาวะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาทางด้าน  
เศรษฐกิจหรือไม่ อย่างไร ผลการดำเนินการของกระทรวง ทบวง  กรมที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปีการศึกษา 2539  จนถึง
ปัจจุบัน มีนักเรียนหรือนักศึกษาไปกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เป็นไปตามแผนงาน/โครงการหรือไม่  ใช้งบประมาณ   
ในแต่ละปีจำนวนเท่าใด  และขณะนี้ได้มีการส่งคืนเงินกู้แล้วหรือไม่  จำนวนเท่าใด  เมื่อนักเรียนนักศึกษาที่สำเร็จ 
การศึกษาแล้วสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมมีแนวนโยบายเกณฑ์การผ่อนชำระคืนอย่างไร ใช้ระยะเวลาเท่าใด ถ้า  
นักเรียนหรือนักศึกษาไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์หรือเงื่อนไขของสำนักงานกองทุน ฯ  จะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร เพื่อ  
รักษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในการรองรับความเจริญเติบโตของประเทศในอนาคต ตามที่สำนักเลขาธิการ 
นายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ 
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2544 ในส่วนของการ 
พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา  เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงดังกล่าว  และการคาดหมายลักษณะอากาศ 
ระหว่างวันที่  3 - 7  พฤศจิกายน  2544  รวมทั้งสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำและสภาพน้ำท่า   สำหรับสถานการณ์  
อุทกภัยทั่วทุกภาคของประเทศ มีพื้นที่ที่เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว จำนวน 27 จังหวัด  ได้แก่  ภาคเหนือ  10  จังหวัด  
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ภาคตะวันตก 1 จังหวัด  ภาคตะวันออก 1 จังหวัด และภาคกลาง  2  จังหวัด  
ส่วนความเสียหายทางการเกษตร ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัยรวม 5,692,532 ไร่ ด้านปศุสัตว์ สัตว์
เลี้ยงได้รับผลกระทบรวม  2,428,497  ตัว  ด้านประมง มีพื้นที่ประสบภัย  93,099.96  ไร่  ด้านชลประทาน  มี
โครงการชลประทานประสบอุทกภัย 22 โครงการ  และด้านสหกรณ์การเกษตรที่ประสบภัย  ได้แก่  สหกรณ์การ
เกษตรในเขตจังหวัดชัยภูมิ อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด  และเชียงราย  ทั้งนี้  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วย
เหลือเบื้องต้น โดยจัดเครื่องอุปโภค - บริโภค   แจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัย   อพยพพันธุ์สัตว์ไปไว้ในที่ปลอดภัย  
แจกจ่ายเสบีองอาหารสัตว์ และจัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการป้องกันรักษา ตลอดจนนำยานพาหนะรถยนต์
และเรือเข้าไปช่วยลำเลียงขนส่งราษฎรและสิ่งของต่าง ๆ   ออกจากพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย   รวมไปถึงการใช้เงินทด
รองราชการในการให้ความช่วยเหลือ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 3 ตุลาคม 2544  โดยสภาพน้ำในอ่าง  
เก็บน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทานส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี คือ  อยู่ระหว่างร้อยละ 50 - 80 ของ 
ความจุที่ระดับเก็บน้ำ ยกเว้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์  อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัด  อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์  อ่างเก็บ  
น้ำเขื่อนสิรินธร อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง และอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีปริมาณอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ส่วน  
อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว อ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำอูน และอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำพุง มีสภาพน้ำเต็มอ่าง สำหรับสภาพน้ำ       
ในแม่น้ำยม  แม่น้ำชี  แม่น้ำมูล  ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติและมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ  โดยที่จังหวัดนครสวรรค์  
น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว มีจังหวัดที่ประสบอุทก  
ภัย 42 จังหวัด พื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัย 33 จังหวัด  และพื้นที่ที่เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว  24  จังหวัด  ทั้งนี้
ความเสียหายทางการเกษตร ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัย รวม  5,050,245  ไร่  ด้านปศุสัตว์  มี 
สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบ รวม 2,428,497 ตัว ด้านประมง  มีพื้นที่ประสบภัย รวม  83,798.41  ไร่  โครงการ 
ชลประทานประสบอุทกภัย 22 โครงการ ฯ และจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว   โดยจัดเครื่องอุปโภค   บริโภค   เมล็ดพันธุ์ผักและเพาะกล้าไว้แจกจ่ายให้แก่
ประชาชนและเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย  พร้อมทั้งอพยพพันธุ์สัตว์ไปไว้ในที่ปลอดภัย   แจกจ่ายเสบียงอาหาร
สัตว์  จัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้การบริการรักษาพยาบาลสัตว์   และนำยานพาหนะรถยนต์และเรือเข้าไป 
ช่วยลำเลียงขนส่งราษฎรและสิ่งของต่าง ๆ ออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัย ตลอดจนการเบิกจ่ายเงินทดรองราช 
การในการให้ความช่วยเหลือ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 19-21 ตุลาคม 2544 
ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน  โดยในที่ประชุม ฯ  บรรดาผู้นำเศรษฐกิจเอเปคทั้งประเทศที่เป็นสมาชิก    
ใหม่และสมาชิกเดิมได้พบปะสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่าง  ๆ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งดำเนินการตาม
เป้าหมายโบกอร์  (Bogor Goals)  ในการเปิดเสรีด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก  การให้ความ
สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่สมาชิกที่กำลังพัฒนา ตลอดจนเร่งสร้างความ 
เชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปในช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคและโลกกำลังถดถอยและถูกกระทบ
จากการก่อการร้าย  ซึ่งที่ประชุม ฯ มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการก่อการร้ายเป็นภัยอันตรายต่อมวลมนุษยชาติ
และต่อความเจริญโลก รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดแปลเอกสารการประชุม ฯ  ประกอบด้วย 
ปฏิญญาผู้นำ  รวมถึงข้อตกลงเซี่ยงไฮ้  และแถลงการณ์ว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย  โดยให้สำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางประสานรวบรวมและแจกจ่ายเอกสารดังกล่าวให้
ส่วนราชการต่าง ๆ รับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปและให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ 
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประมวลข้อมูลการดำเนินการในภาพรวมทั้งหมดด้วย    นอกจากนี้   ให้รองนายกรัฐ
มนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติด 
ตามการจัดทำข้อตกลงทวิภาคี  (Bilateral)  และการค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) กับประเทศต่าง ๆ  ที่ได้ 
มีการเจรจาตกลงกันแล้วในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี ประเทศที่มีความสนใจมาก ได้แก่
ปาปัวนิวกินี เปรู  และประเทศที่ได้ตกลงไว้เดิม  ได้แก่  เวียดนาม ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  ทั้งนี้  ให้หน่วยงานที่เกี่ยว 
ข้องเร่งรัดดำเนินการให้สอดรับกันด้วย     และให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดวางแผนและเตรียมการจัดการ 
ประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค   ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ในปี  2546  ถัดจากประเทศเม็กซิโก 
เพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของ
ประชากร เดือนสิงหาคม  2544  มีจำนวนผู้ว่างงาน 0.74 ล้านคน จากจำนวนประชากร
ทั้งสิ้น 63.00 ล้านคน  หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ  2.12  ซึ่งเปรียบเทียบกับ
จำนวนผู้ว่างงานในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2543 - 2544  จะมีจำนวนผู้ว่างงานลดลง
ประมาณ  7  หมื่นคน (จำนวน 0.81 ล้านคน ในปี 2543  ลดเหลือ 0.74 ล้านคน  
ในปี 2544) ผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น   โดยสาขาการผลิตมีผู้มีงานทำเพิ่มมากที่สุด  
ประกอบด้วย  สาขาการผลิต (เพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนคน) สาขาการขายส่งขายปลีก  
ซ่อมแซมยานพาหนะและของใช้ ฯ (เพิ่มขึ้นประมาณ  3.7  แสนคน)  สาขาโรงแรม
และภัตตาคาร  (เพิ่มขึ้นประมาณ 2.3 แสนคน)  ส่วนการเปรียบเทียบอัตราการว่างงาน
ของแต่ละภาคในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วพบว่า อัตราการว่างงานลดลงทุกภาคทั่วประเทศ  
ยกเว้นภาคกลาง ซึ่งมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ  1.7  เป็นร้อยละ  2.0   สำหรับ
ฃในเดือนสิงหาคม  2544  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการว่างงานสูงสุด   คิดเป็น
ร้อยละ  2.6  รองลงมา  ได้แก่  กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 2.5 ภาคกลาง ร้อยละ 2.0 
ภาคใต้ ร้อยละ 1.8 และภาคเหนือ ร้อยละ 1.2  ตามที่เลขาธิการสถิติแห่งชาติเสนอ 
โดยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การสำรวจต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล
ซึ่งเป็นที่ยอมรับ จึงมอบให้สำนักโฆษก สำนักงานสถิติแห่งชาติ และกระทรวงแรงงาน
และสวัสดิการสังคม ร่วมกันซักซ้อมเพื่อให้ได้ข้อมูลและตัวเลขการมีงานทำของประชากร
ให้ถูกต้องและชัดเจน   แล้วดำเนินการชี้แจงแถลงข่าวในเรื่องนี้ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 328 ร. เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาควันดำจากท่อไอ  
เสียของรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  ฯ  ของนายนพดล  อินนา  สมาชิกสภาผู้แทน   
ราษฎร (บัญชีรายชื่อ) ซึ่งถามว่า  กระทรวงคมนาคมได้มีการกำหนดแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหา 
ควันดำจากท่อไอเสียรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ฯ  เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนไว้   
อย่างไรบ้าง    และได้ดำเนินการไปแล้วมีความก้าวหน้าเพียงใด   และอย่างไร   ที่ผ่านมาองค์การขนส่งมวลชน 
กรุงเทพ ฯ ได้จัดให้มีการตรวจสอบสภาพรถโดยสารขององค์การ ฯ  และได้มีการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลด
ปัญหาควันดำจากท่อไอเสีย  และเป็นการรักษาสภาพรถโดยรวมเพื่อสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมี 
ประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและอันตรายต่อประชาชน โดยได้ดำเนินการไปแล้วมีความก้าวหน้าเพียงใด  
และอย่างไร ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจาเบกษาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประชากร 
ทั่วราชอาณาจักร  พ.ศ. ....  (ให้มีการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประชากรทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อ 
เก็บรวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับครัวเรือนและสภาพความเป็นอยู่ของประชากรกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ การทำงาน รายได้  ค่า   
ใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน รวมทั้งลักษณะที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยกำหนดให้พระราช   
กฤษฎีกานี้มีอายุ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่  1  มกราคม  2545  เป็นต้นไป  และให้สำนักงานสถิติแห่งชาติดำเนินการ   
สำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประชากรทั่วราชอาณาจักร  ตลอดจนให้หัวหน้าหรือสมาชิกของครัวเรือนที่ได้ 
รับเลือกเป็นครัวเรือนตัวอย่างเป็นผู้ให้ข้อมูลหรือกรอกรายการในแบบกำหนดข้อถาม  และให้นายกรัฐมนตรีเป็น     
ผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้)  ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎี  
กาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ  ครั้งที่ 5/2544  (ครั้งที่ 86)   
เมื่อวันที่  26  กันยายน  2544  เกี่ยวกับเรื่อง แผนการระดมทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.ปตท.)  
โดยอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บมจ.ปตท. จำนวน 850 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าทุนจดทะเบียน 8,500
ล้านบาท   เพื่อให้  บมจ.ปตท.  สามารถระดมเงินทุนในจำนวนที่ต้องการได้ในกรณีที่ราคาหุ้นที่เสนอขายอยู่ใน  
ระดับต่ำ  และให้มีการขายหุ้นเดิมของ  บมจ.ปตท.  ที่กระทรวงการคลังถืออยู่ควบคู่ไปกับการขายหุ้นเพิ่มทุนดัง 
กล่าวในจำนวนไม่เกิน  100  ล้านหุ้น โดยให้เป็นสิทธิของกระทรวงการคลังที่จะเสนอขายหุ้นโดยวิธีการจัดสรร 
หุ้นเกินจำนวนโดยวิธี  Greenshoe  เพิ่มเติม  และให้ผู้จัดจำหน่ายและประกันการจำหน่ายที่การปิโตรเลียมแห่ง  
ประเทศไทย  (ปตท.)  แต่งตั้ง เป็นผู้จัดจำหน่ายและประกันการจำหน่ายหุ้นที่จะเสนอขายในคราวเดียวกันภาย   
ใต้เงื่อนไขที่ผู้จัดจำหน่าย ฯ และ  ปตท.  ได้ตกลงกันแล้ว  โดยให้กระทรวงการคลังร่วมรับผิดชอบค่าธรรมเนียม    
และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตามสัดส่วนของจำนวนเงินที่กระทรวงการคลัง และ  บมจ.ปตท.  ได้รับจากการขายหุ้น   
กับให้คณะกรรมการดำเนินการระดมทุน ฯ   พิจารณาแตกมูลค่าหุ้นที่ตราไว้  (Par Split)  ของ  บมจ.ปตท.  ได้ 
ตามความจำเป็นและเหมาะสม     รวมทั้งอนุมัติแนวทางการจัดสรรหุ้นให้แก่พนักงานตามโครงการการให้พนัก
งานมีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของ  นอกจากนี้  ให้ ปตท. และกระทรวงการคลังรวมแผนการทำ  Greenshoe &  
Stabilization  เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแปรรูปและระดมทุนในครั้งนี้   และมอบหมายให้คณะกรรมการ  ฯ   
เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องราคาและจำนวนการเสนอขาย  และให้ บมจ.ปตท. และกระทรวงการคลัง  
ไม่ต้องนำสัญญา  และ/หรือข้อตกลงต่าง  ๆ  เสนอต่อสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อนการลงนามสัญญา 
และ/หรือข้อตกลง  ตลอดจนให้คณะกรรมการดำเนินการระดมทุน ฯ พิจารณาอนุมัติการปรับเปลี่ยนแนวทาง  
และรายละเอียดแผนการระดมทุนดังกล่าวได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม  เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด 
ทุน ณ ช่วงเวลาการเสนอขาย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ความช่วยเหลือบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) จากผลกระทบ 
กรณีความเสียหายจากการก่อวินาศกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ความคุ้ม 
ครองชดใช้ความเสียหายตัวเครื่องบินที่เกิดจากภัยสงคราม  และภัยที่ต่อเนื่อง  (Aviation  Hull  War  Risks  and  
Allied Perils Insurance)  และความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม ในส่วนที่เกินจากวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ อีก
เป็นจำนวน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปของ Government Indemnity เป็นระยะเวลา  60  วัน  เพื่อแก้ปัญหา  
ฉุกเฉินเร่งด่วนและจำเป็น  อันอาจกระทบต่อกิจการของ บกท. เศรษฐกิจของประเทศ   ตลอดจนความเชื่อมั่นใน 
การคมนาคมขนส่งทางอากาศ  ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง  
ทั้งสองร่วมกันออกหนังสือรับรองดังกล่าวในนามของรัฐบาลไทย    สำหรับการจัดทำประกันภัยครั้งต่อไป  เมื่อ  
สถานการณ์ตลาดประกันภัยได้คลี่คลายลงแล้ว บกท. ควรหารือผู้ที่มีความรู้เชี่ยวชาญในด้านประกันภัยเกี่ยวกับ
ลู่ทางในการประกันภัยที่เป็นประโยชน์แก่ บกท. และควรใช้หน่วยงานของรัฐหรือบริษัทประกันภัยที่เป็นของรัฐ
ให้เป็นประโยชน์ด้วย ส่วนสถานการณ์ที่สังคมโลกอยู่ในภาวะหวาดหวั่นภัยจากการก่อการร้ายหรือภัยสงคราม
อันมีผลให้ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบอย่างมาก บกท.  ควรพิจารณาหาจุดขายที่ดีและเหมาะสม   เช่น   การ 
ปรับเปลี่ยนเส้นทางบินเพื่อให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น   เป็นต้น   เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจการ
บินรายอื่นได้