คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมการปกครอง กระทรวง
มหาดไทย รายงานสรุปสถานการณ์สาธารณภัยประจำเดือนมิถุนายน 2545  และสรุปสถานการณ์อุทกภัยช่วง
วันที่ 1-22 กรกฎาคม 2545 โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2545 ได้เกิดวาตภัย 85 ครั้ง  ในพื้นที่  32  จังหวัดและ
กรุงเทพมหานคร (1 ครั้ง) มูลค่าความเสียหาย 6,895,341 บาท อัคคีภัย 51 ครั้ง ในพื้นที่ 25 จังหวัดและกรุง
เทพมหานคร (7 ครั้ง) มูลค่าความเสียหาย 18,525,600 บาท อุทกภัย 1 ครั้ง พื้นที่ประสบภัย 16 จังหวัด มูล
ค่าความเสียหายเบื้องต้น  16,478,515  บาท  โดยสถานการณ์อุทกภัยทุกจังหวัดได้ยุติแล้ว   นอกจากนี้  ยังมี
อุบัติภัย 3 ครั้ง ฟ้าผ่า 6 ครั้ง และภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย 5 ครั้ง  สำหรับสภาพภูมิอากาศทั่วไป ตรวจ
วัดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2545  ปริมาณน้ำฝนสูงสุดวัดได้ 76.2 มิลลิเมตร  ที่อำเภอเมือง ฯ  จังหวัดหนองคาย
กรุงเทพมหานครวัดได้  28.5  ที่เขตสาทร  รวมทั้งการคาดหมายลักษณะอากาศประจำเดือนกรกฎาคม  2545
ซึ่งระยะ 1-2 สัปดาห์แรกของเดือนอาจเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง กับจะมีปริมาณฝนและการกระจายของฝนเพิ่มมาก
ขึ้นในระยะครึ่งหลังของเดือน ส่วนสถานการณ์อุทกภัยช่วงวันที่ 1-22 กรกฎาคม 2545 ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อ
กันในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอื่น ๆ  ทั่วประเทศทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดกำแพงเพชร  เชียงราย  แม่
ฮ่องสอน น่าน สกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย ยโสธร บุรีรัมย์ ตราด  จันทบุรี  สมุทรปราการ  และ
กระบี่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 17,603,938 บาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนพฤษภาคม 2545 
มีจำนวนผู้มีงานทำประมาณ 31.98 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2544 เพิ่มขึ้นประมาณ
1.32  ล้านคน  สำหรับภาวะการว่างงาน มีจำนวนประมาณ 1.00 ล้านคน  หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อย
ละ 3.0 เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2544 ลดลงประมาณ 4.2 แสนคน ส่วนรายงานการสำรวจ
ความคิดเห็นของประชาชน กรุงเทพมหานครที่มีต่อการใช้สะพาน  หลังการเปิดใช้สะพานพระราม 8  มีประชา
ชนเดินทางระหว่างฝั่งกรุงเทพ-ธนบุรี ร้อยละ 11.4 เป็นประชาชนในกลุ่มผู้ใช้เส้นทางบริเวณสะพาน ฯ เคยใช้
สะพาน ฯ ในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอื่น คือ ร้อยละ 32.2   ส่วนกลุ่มผู้ใช้เส้นทางฝั่งกรุงเทพ และฝั่งธนบุรี มีผู้ที่
เคยใช้สะพานดังกล่าว ร้อยละ 3.5 และ 4.1  ตามลำดับ  สำหรับสะพานที่เคยใช้ในการเดินทางระหว่างฝั่งกรุง
เทพและฝั่งธนบุรี สะพานพระปิ่นเกล้าเป็นสะพานที่มีผู้ใช้มากที่สุด ประมาณร้อยละ 67.4  สะพานพุทธ  ร้อย
ละ 62.0 สะพานกรุงธน (ซังฮี้) ร้อยละ 51.0  สะพานพระปกเกล้า  ร้อยละ 44.8  สะพานสาทร  สะพานกรุง
เทพ  และสะพานกรุงเทพ  2  ร้อยละ  39.6  37.7  และ  25.3  ตามลำดับ  ส่วนสภาพการจราจรบนสะพาน
สะพานพระปิ่นเกล้าติดขัดมากที่สุด ร้อยละ 54.4 สะพานสาทร ร้อยละ 53.3 สะพานกรุงธน (ซังฮี้)  ร้อยละ
52.8 สะพานกรุงเทพ ร้อยละ 42.7 สะพานพุทธ  สะพานพระปกเกล้า  และสะพานกรุงเทพ 2  ร้อยละ 37.9
32.7  และ 23.6  ตามลำดับ  สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการจราจรในภาพรวมภายหลังการเปิดใช้สะพาน
พระราม 8 มีผู้ที่เห็นว่าทำให้สภาพการจราจรคล่องตัวขึ้น ร้อยละ 43.2 เหมือนเดิม ร้อยละ 28.8 ติดขัดมาก
ขึ้นร้อยละ 2.3  และอีกร้อยละ 25.7 ไม่แสดงความคิดเห็น   ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนสะพานที่ใช้เดิน
ทางระหว่างฝั่งกรุงเทพ-ฝั่งธนบุรี  มีผู้ตอบว่ามีสะพานเพียงพอที่ใช้เดินทาง ร้อยละ  42.0  มีสะพานไม่เพียง
พอ ร้อยละ 13.0 ไม่ให้ความคิดเห็น ร้อยละ  45.0  และทั้งนี้ประมาณร้อยละ  54.2  ของผู้ที่เห็นว่ามีสะพาน
ไม่เพียงพอ   ให้ความเห็นว่าควรสร้างสะพานเพิ่มโดยให้ผู้บริหารกำหนดสถานที่เอง  สร้างเพิ่มในบริเวณที่มี
ปริมาณรถใช้มาก ๆ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 183 เรื่อง  การนำที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาจัดให้
แก่ประชาชนผู้ยากไร้  ของนายเปรมศักดิ์   เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งถามว่า 
กระทรวงมหาดไทยมีมาตรการที่จะสนับสนุนงบประมาณให้กับกรมที่ดินเพื่อจัดที่ดินให้แก่ประชาชนผู้ยาก
ไร้ หรือไม่  อย่างไร  และมีมาตรการที่จะสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาบุคลากรของกรมที่ดินให้มีศักยภาพ
ในการทำงานเพื่อนำที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาใช้ให้เกิดผลดีด้านเศรษฐกิจ  รวมทั้งมีมาตรการที่จะปรับปรุง
แก้ไขระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการจัดที่ดินให้แก่ประชาชนเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการณ์ในปัจจุบันหรือ
ไม่   อย่างไร   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ    และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบในที่
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคาร
พัฒนาเอเซีย ครั้งที่ 35 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม 2545  ณ นครเซียงไฮ้
ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม
โดยสาระสำคัญของการประชุม ที่ประชุมได้มีมติรับทราบและเห็นชอบเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ ผลการดำเนินงานประจำ
ปี  พ.ศ. 2545  ของธนาคารพัฒนาเอเซีย  ให้ความเห็นชอบแนวทางการจัดสรรรายได้สุทธิประจำปี  พ.ศ. 2544
จำนวน 861 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  รับทราบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2545  ของธนาคาร ฯ 
ความคืบหน้าการศึกษาเรื่องความต้องการเงินทุนของธนาคาร ฯ  ในอนาคต  และท่าทีของสหรัฐ ฯ  ที่ไม่เห็นด้วย
กับการศึกษาดังกล่าว    รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับเปลี่ยนจากระบบเดิมมา
เป็นระบบ Libor-Based Loans. เห็นชอบการแต่งตั้ง Procedures Committee ประจำปี พ.ศ. 2545 - 2546 และ
การแต่งตั้งประธานการประชุมสภาผู้ว่าการ ฯ ครั้งที่ 36 ส่วนการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมร่วม
ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น  และสาธารณรัฐเกาหลี
(AFMM + 3)  เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกที่ชะลอตัว  การจัดทำ
Bilateral  Swap  Arrangement  (BSA)  ภายใต้  Chiang  Mai  Initiative และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการไหล
เวียนของเงินทุนระยะสั้นระหว่างประเทศสมาชิก 7 ประเทศ  ประกอบด้วย  บรูไน  อินโดนีเซีย  ญี่ปุ่น  เกาหลีใต้
ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการประยุกต์ใช้การบริหารราชการจังหวัดแบบบูรณาการเพื่อการ
พัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้การจัดตั้งคณะกรรมการภาคประชาชนระดับจังหวัดที่มีผู้แทนประชาชน
กลุ่มต่าง ๆ ร่วมเป็นกรรมการ ใช้การบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ใช้วิธีการจัดทำข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสร้างขวัญกำลังใจและแรงจูงใจ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการ
บริหารและการพัฒนา และเพิ่มภาวะผู้นำให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  โดยให้รับ
ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการบริหารการพัฒนา
แบบบูรณาการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากการบูรณาการภายในจังหวัดแล้ว ควรให้ความสำคัญต่อการ
บูรณาการในการบริหารการพัฒนาระหว่างจังหวัด หรือในกลุ่มพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งอยู่ภายใต้แผน
งานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย และควรมีกลไกสนับสนุนการดำเนินงาน
ของรองปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ) ไปพิจารณา
ดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการคาดหมายลักษณะอากาศของประเทศไทยประจำสัปดาห์ ที่ 
26 ช่วงระหว่างวันที่ 24 - 30 มิถุนายน 2545 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุก โดยภาคตะวันออกเฉียง
เหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่  โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25 - 27 มิถุนายน 2545  อุณหภูมิต่ำสุด
เฉลี่ยทั่วประเทศ 24 - 27 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 31 - 34 องศาเซลเซียส  ความชื้นเฉลี่ย 75 - 85
องศาเซลเซียส  ส่วนคลื่นทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร  ห่างฝั่งจะมีคลื่นสูงประมาณ 
2 เมตร  นอกจากนี้ ทางภาคตะวันออกซึ่งมีฝนตกหนาแน่น ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกค้างสะสมอยู่ตามที่สูงมี
มาก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรีและตราด  จึงอาจเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้
ในระยะ 2 - 3 วันนี้  ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เสนอ  และเห็นชอบให้ดำเนินการตาม
แนวทางที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  (นายนิกร จำนง)  เสนอเพิ่มเติมว่า  การรายงานการคาด
หมายลักษณะอากาศดังกล่าว ควรรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเฉพาะสัปดาห์ที่คาดหมายว่าจะมีลักษณะอากาศ
ที่แตกต่างไปจากสภาวการณ์ปกติเท่านั้นเป็นคราว  ๆ  ไป   และโดยที่การรายงานจำเป็นจะต้องดำเนินการ
อย่างรวดเร็ว  จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้เป็นผู้ลงนามในหนังสือนำส่งเรื่องเพื่อเสนอต่อ
คณะรัฐมนตรีได้โดยตรง

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 017 ร. เรื่อง มลภาวะจากโรงสีข้าวทั่วประเทศ ของ
นายสมเกียรติ อ่อนวิมล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุพรรณบุรี  ซึ่งถามว่า  ในปี พ.ศ. 2544 มีโรงสีข้าวหลายโรง
ในจังหวัดสุพรรณบุรีสร้างปัญหามลภาวะจากฝุ่นละออง ซึ่งกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านจำนวนมาก
เป็นเวลาหลายสิบปี โดยไม่มีหน่วยงานใดแก้ไขให้ได้ ทำให้ปัญหายืดเยื้อมานาน  และบางแห่งเริ่มจะเกิดปัญหา
ขัดแย้งที่อาจบานปลายรุนแรงขึ้น   รัฐบาลได้รับทราบปัญหาดังกล่าวมากน้อยเพียงใด   และมีนโยบายและ
ปฏิบัติอย่างไรในการกำหนดมาตรฐานมลภาวะจากโรงสี  ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และ
ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 581 ร. เรื่อง  แนวทางลดมลภาวะ สารพิษ กลิ่น สี เสียง 
และอันตรายที่เกิดจากเครื่องจักรกลของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ  ของนาย
นพดล อินนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (บัญชีรายชื่อ) ซึ่งถามว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีแผนงาน มาตรการ
และแนวทางในการแก้ไขปัญหามลภาวะ สารพิษ กลิ่น  สี  เสียง  และอันตรายที่เกิดจากเครื่องจักรกลของโรงงาน
อุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ  ไว้อย่างไรบ้าง  และจะสัมฤทธิผลเป็นรูปธรรมได้อย่างไร 
เมื่อใด ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

                               อนุมัติตามติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติ
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. .... (ให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการ
จัดสวัสดิการสังคม  รัฐส่งเสริมให้มีการจัดบริการขั้นพื้นฐานหรือการอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคล หรือ
กลุ่มบุคคลซึ่งอยู่ในสภาวะที่จำต้องได้รับความช่วยเหลือ    มีคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
แห่งชาติ (ก.ส.ค.) เป็นองค์กรระดับประเทศ  ในส่วนขององค์กรระดับจังหวัดกำหนดให้มีคณะกรรมการส่ง
เสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการกรุงเทพมหานคร  (ก.ส.จ. 
และ  ก.ส.ก.)  การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม  การรับรองมูลนิธิหรือสมาคมหรือองค์กร
เอกชนที่มีผลงานเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการสังคม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ     และให้ส่ง
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้อง
กันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ประจำปี พ.ศ. 2544  ในส่วนของผลการดำเนินงานด้านการ
ปราบปรามการทุจริตในรอบปีที่ผ่านมา   ด้านการป้องกันการทุจริต   ด้านการตรวจสอบทรัพย์สินเจ้าหน้าที่
ของรัฐ และการบริหารจัดการองค์กร  พร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมการ ป.ป.ช.  ซึ่งเห็นควรปรับปรุงแก้ไข
อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขั้นตอนการไต่สวน การส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ
ปรับปรุงกระบวนการไต่สวน และให้มีมาตรการในการจับ  ควบคุม  และปล่อยชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหาซึ่งมิใช่ผู้ที่
ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือข้าราชการการเมืองในระหว่างการไต่สวน ส่วนความในมาตรา 103 ของพระ
ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542  กรณีห้ามเจ้าหน้า
ที่ของรัฐรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล  นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้  ซึ่งใช้
บังคับแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ซึ่งพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแล้วไม่เกินสองปี นั้น ให้มีข้อห้ามสำหรับ
คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขในส่วนของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์
สินและหนี้สิน  นอกจากนี้  ควรให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงาน  ป.ป.ช.  แห่งใหม่
เพื่อให้บุคลากรทั้งหมดอยู่ในที่เดียวกัน  ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ  และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความ
เห็น ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาเพื่อให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. ต่อไป และมอบให้รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและติดตามการดำเนินงานด้าน
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ป.ท.) รับไปศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล
ต่าง ๆ ในรายงานดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการคาดหมาย
ลักษณะอากาศของประเทศไทยประจำสัปดาห์ ที่ 22  ช่วงระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม  ถึง 2 มิถุนายน 2545 
โดยสภาวะอากาศทั่วไป  ร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลม
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย รวมทั้งยังมีอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง
ในทะเลจีนใต้  ทั้งนี้  ลักษณะอากาศทั่วประเทศ มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศ
ไทยและอ่าวไทยเกือบตลอดสัปดาห์ ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยทั่วประเทศ 20 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 30 - 35 องศาเซลเซียส
ความชื้นเฉลี่ย  75 - 85  เปอร์เซ็นต์ คลื่นทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง  1 - 2  เมตร  สำหรับลักษณะ
อากาศที่ต้องเฝ้าระวังและติดตาม  ได้แก่  หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ซึ่งจะเคลื่อนตัวทาง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่างช้า ๆ และคาดว่าอาจจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นในระยะต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  502  ร. เรื่อง  ผลกระทบทางเศรษฐกิจของไทย
กรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีมาตรการที่จะปรับปรุงยุทธศาสตร์ในการส่งสินค้าออก
ไปจำหน่ายในต่างประเทศหรือไม่ อย่างไร  และมีมาตรการที่จะใช้สินค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อ
ทดแทนการนำเข้าสินค้าจากประเทศตะวันตกหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งรัฐบาลมีมาตรการที่จะผลิตสินค้าที่
ประเทศไทยขาดแคลนและต้องพึ่งพาสินค้าจากต่างประเทศ หรือการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า  เพื่อลด
ภาวะการขาดดุลทางการค้าหรือไม่ อย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้ประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับไป
พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า นอกเหนือจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระยะยาวแล้ว  ในชั้นนี้มีแนว
ทางใดบ้างที่รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรอิสระได้อย่างเหมาะสมกับภารกิจ  และปริมาณ
งานขององค์กรอิสระแต่ละแห่ง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน และสอดคล้องกับแนวนโยบายในการ
จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี   รวมทั้งการควบคุมและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ   แล้วนำเสนอ
คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติ
รับทราบรายงานผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการค่าจ้าง  ชุดที่ 14   และให้รับความเห็น
ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการให้คณะกรรมการ ฯ  เร่ง
พัฒนาระบบไตรภาคีในทุกจังหวัดให้สมบูรณ์  เพื่อรองรับการกระจายอำนาจการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ไปสู่จังหวัด พัฒนาศักยภาพของผู้ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนในคณะอนุกรรมการไตรภาคีระดับจังหวัดให้เข้มแข็ง
พัฒนาระบบข้อมูลภาวะเศรษฐกิจสังคมในระดับจังหวัด ซึ่งจะนำมาใช้เป็นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้น
ต่ำให้มีความสมบูรณ์ถูกต้อง ส่งเสริมให้สถานประกอบการภาคเอกชนเห็นประโยชน์ของการมีโครงสร้างค่า
จ้างเงินเดือน  ส่วนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรของคณะกรรมการ ฯ  ให้เป็นองค์กรอิสระภายใต้สำนัก
นายกรัฐมนตรี ควรศึกษาข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่าจะขัดกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  หรือ
ไม่   อย่างไร)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย     ทั้งนี้    ให้คณะกรรมการค่าจ้างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมตามเดิม  ตามความเห็นของสำนักนายกรัฐมนตรี  และสำนักงาน ก.พ. 
กับให้กระทรวงแรงงาน ฯ เสนอ  "โครงการบริหารแรงงานและพัฒนาระบบค่าจ้างเพื่อเพิ่มศักยภาพในการ
แข่งขันของประเทศ"  ให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาต่อไป และ
เห็นชอบมาตรการเสริมช่วยค่าครองชีพ ตามที่กระทรวงแรงงาน ฯ  เสนอ  โดยให้รับความเห็นของส่วนราช
การที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 161 ร. เรื่อง การขึ้นราคาค่ารถโดยสาร  ของ
นายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ซึ่งถามว่า รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้
ประกอบการรถโดยสารประจำทางและรถขนาดเล็กที่วิ่งระหว่างจังหวัดและภายในจังหวัด  ในภาวะขาด
ทุนหรือไม่   อย่างไร   และหากมีการปรับราคาขึ้นรัฐบาลจะมีแนวทางช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างไร   และ
กระทู้ถามที่  164  ร. เรื่อง   การให้เช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย   ของนายนิยม   วรปัญญา 
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  ปัจจุบันการรถไฟ ฯ  มีที่ดินอยู่จำนวนเท่าใด  อยู่ใน
จังหวัดใด ให้เช่าจำนวนเท่าใด ปีหนึ่ง ๆ ได้ค่าเช่าจำนวนเท่าใด  มีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับการอนุญาต
ให้หน่วยงานของเอกชนเช่าที่ดิน  และมีหน่วยราชการใดของรัฐใช้ประโยชน์โดยไม่คิดค่าเช่า จำนวนเท่า
ใด รวมทั้งหน่วยงานของเอกชน  รัฐวิสาหกิจเช่าเป็นจำนวนกี่ราย  เป็นเงินเท่าใด  และมีหลักเกณฑ์การ
พิจารณาค่าเช่าที่ดินอย่างไร  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 506 ร. เรื่อง ชาวไร่อ้อยประสบภาวะขาดทุนจาก
การปลูกอ้อย ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ซึ่งถามว่า ขอให้รัฐบาลช่วย
เหลือชาวไร่อ้อย  โดยการให้เงินส่งเสริมการปลูกอ้อยจะได้หรือไม่  สำหรับผลผลิตอ้อยซึ่งขณะนี้ตกต่ำ จะ
ขอให้รัฐบาลช่วยกำหนดราคาให้ตันละ  600  บาท และบวกความหวาน โดยให้กรรมการอ้อยและน้ำตาล
และราษฎรตัวแทนผู้ปลูกอ้อยเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาและประกันราคาอ้อยตามที่ได้ประกาศไว้จะ
ได้หรือไม่ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีการค้า
สาธารณรัฐเกาหลี-ไทย  ครั้งที่  12  ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2545  ณ  กรุงโซล
สาธารณรัฐเกาหลี  โดยมีนายอดิศัย  โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะ
ผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม  ซึ่งสาระสำคัญของการประชุมรัฐมนตรี ฯ  ประกอบด้วย  การทบทวน
ภาวะเศรษฐกิจ และภาวะการค้าทวิภาคี รวมทั้งการหารือในเรื่องการเปิดตลาด กับได้หารือและแลก
เปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องความร่วมมือด้านต่าง ๆ ได้แก่  เรื่องเขตการค้าเสรีสาธารณรัฐเกาหลี-ไทย
ซึ่งเห็นชอบร่วมกันที่จะทบทวนเรื่องการจัดทำความตกลงดังกล่าว  การขอรับการสนับสนุนจากฝ่าย
ไทยในการลงคะแนนให้เกาหลีเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าโลก (World Expo) ในปี  2010  การ
ลงนามในความตกลงทางด้านการขนส่งทางทะเล การลดความเข้มงวดในการตรวจสอบคนเข้าเมือง
ณ   ด่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลี    ตลอดจนการให้เกาหลีสนับสนุนด้านเทคนิคและเงินทุนแก่
ไทยในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่า ง ๆ  ของประเทศ  CLMV  (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) 
ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเกาหลีจัดประชุมระดับรัฐมนตรีด้านเทคโน
โลยีแห่งเอเซีย (Asia IT Ministerial Meeting) ครั้งที่ 2  ณ  กรุงโซล  สำหรับความร่วมมือในการส่ง
เสริมภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะสนับสนุนกิจกรรมด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการค้า
นอกจากนี้  ได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่อง  WTO APEC  ความตกลงกรุงเทพ (Bangkok 
Agreement) และ ASEAN + 3

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ขอความร่วมมือป้องกันและดับไฟป่า เพื่อเป็นการเตรียมการ
ป้องกันและลดความเสียหายจากปรากฏการณ์ เอลนิโน่  (EL Nino)  ที่จะเกิดขึ้นบริเวณแปซิฟิคเขตร้อน
ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะอากาศของประเทศไทย  โดยจะทำให้อุณหภูมิ
ทั่วไปสูงขึ้น  และอาจเกิดภาวะแห้งแล้ว  ซึ่งง่ายต่อการเกิดไฟป่า  จึงขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานใน
การให้ความสำคัญและเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดช่วยกันป้องกันและดับไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นใน
อนาคต ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลในปี
งบประมาณ พ.ศ. 2544 โดยได้กำหนดประเภทตราสารเงินกู้ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาที่
ดำเนินการกู้ และพิจารณาถึงภาระการกระจุกตัวของภาระหนี้ในแต่ละปีงบประมาณ เพื่อให้มีการกระจายหนี้
ครบกำหนดในอนาคตให้สม่ำเสมอ และไม่เป็นภาระต่องบประมาณในปีใดปีหนึ่งมากเกินไป โดยได้กู้โดยการ
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 52,900 ล้านบาท  พันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนครั้งที่ 1 รุ่นอายุ 
3 ปี  และรุ่นอายุ 5 ปี จำนวน 15,822.28 ล้านบาท  ตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาท  และตั๋วเงิน
คลังจำนวน 26,075 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 104,797.28 ล้านบาท  ซึ่งต่ำกว่าวงเงิน  105,000  ล้านบาท  ที่
คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 202.72 ล้านบาท

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2544 - 11 มกราคม 2545 ในส่วน
ของการพยากรณ์อากาศในช่วงดังกล่าว  รวมทั้งการคาดหมายลักษณะอากาศ ตั้งแต่วันที่ 10 - 16 มกราคม 
2545 ของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกในหลายพื้นที่ ภาคเหนือจะมีฝน
เกิดขึ้นได้ ภาคใต้จะมีฝนบางพื้นที่ถึงกระจายเป็นแห่ง ๆ คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีกำลังแรง สำหรับ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ  สภาพน้ำท่าและการจัดสรรน้ำ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ส่วน
ใหญ่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ยกเว้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำแซะ  เขื่อนทับเสลา  และเขื่อน
บางพระ  มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย  ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา  มีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ใน
เกณฑ์ต่ำกว่าปกติ  สถานการณ์ไฟป่า มีไฟป่าเกิดขึ้นรวม 50 ครั้ง ในเขตจังหวัดนครนายก ระนอง พิษณุโลก
ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ ลพบุรี ศรีสะเกษ เลย  มุกดาหาร  กาญจนบุรี  กาฬสินธุ์  สกลนคร  ชุมพร  เพชรบุรี
และประจวบคีรีขันธุ์  พื้นที่เสียหายรวม  1,223  ไร่  ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในการดำเนินการดับไฟป่า
ตามแผนปกติ    ส่วนสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ  ช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม  -
ธันวาคม 2544  มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัยรวม  40  จังหวัด  ขณะนี้ทุกจังหวัดเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว มีรายงาน
ความเสียหายทางการเกษตร 36 จังหวัด