ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 92 จากทั้งหมด 137 หน้า แสดงรายการที่ 1821 - 1840 จากข้อมูลทั้งหมด 2735 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1821 | การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ | รง | 24/12/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ที่คณะกรรม
การค่าจ้างได้พิจารณาข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร และคณะอนุกรรม การอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดทั้ง 75 คณะ ซึ่งมีข้อเสนอขอให้ปรับปรุงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำบางจังหวัด โดยนำข้อ มูลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และความเห็นของผู้แทนหน่วยงาน ภาครัฐและภาคเอกชนมาพิจารณา และเห็นว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ หรือเป็นเหตุให้ราคาสินค้าและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นจนมีผลกระทบต่อภาวะ ค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป จึงได้มีมติให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 โดยให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำพื้นฐานไว้ที่อัตราวันละ 133 บาท |
|||||||||||||||
1822 | สรุปผลการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยโดยหน่วยทหารของกระทรวงกลาโหม | กห | 17/12/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานสรุปผลการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน
ผู้ประสบอุทกภัยโดยหน่วยทหารของกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2545 ซึ่งมีพื้นที่ ประสบอุทกภัย 20 จังหวัด หน่วยปฏิบัติในการช่วยเหลือในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จำนวน 18 หน่วย ได้แก่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม 1 หน่วย ศูนย์บรรเทาสาธารณ ภัยกองทัพบก 12 หน่วย และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา 5 หน่วย ผลการปฏิบัติ งานในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในภาพรวม ได้แก่ การแจกจ่ายถุงยังชีพ จัดกำลังพลและยาน พาหนะออกช่วยเหลือและลำเลียงสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายให้กับประชาชน รวมทั้งให้บริการรับ-ส่ง ประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย สนับสนุนเครื่องทำน้ำประปาเคลื่อนที่ และรื้อถอนกระสอบทราย ซึ่งทำเป็น แนวคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งพัฒนาปรับปรุงสถานที่หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ |
|||||||||||||||
1823 | โรงงานปล่อยน้ำเสีย หรือทำให้เกิดภาวะมลพิษเป็นที่เดือดร้อนของประชาชน | นร | 03/12/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง โรงงานปล่อยน้ำเสีย หรือทำให้เกิดภาวะมลพิษเป็นที่เดือดร้อนของ
ประชาชน โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัด ดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มีราษฎรในจังหวัดชัยภูมิเดินทางมาเรียกร้องให้ทางการแก้ไข ปัญหากรณีโรงงานแป้งมันในจังหวัดชัยภูมิปล่อยน้ำเสียมีกลิ่นเหม็น ทำให้น้ำและพืชผลการเกษตรของราษฎร เสียหาย และให้เจ้าของโรงงานชดใช้ค่าเสียหายนั้น สาเหตุของน้ำเสียดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ประกอบการมัก ลักลอบปล่อยน้ำเสียที่ยังไม่ผ่านการบำบัดออกมาสู่ลำรางสาธารณะโดยตรง เพราะต้องการลดต้นทุนการผลิต จึงควรดำเนินการตรวจสอบและกวดขันลงโทษการกระทำผิดในกรณีดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง และใน กรณีที่ผู้ประกอบการรายใดมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายและลักลอบปล่อยน้ำเสียอยู่เป็นประจำ ควรพิจารณาสั่งปิด กิจการ สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการรายใดมีปัญหาความไม่พร้อมในการซ่อมบำรุงหรือติดตั้งระบบบำบัดน้ำ เสียที่ได้มาตรฐาน ก็ควรพิจารณากำหนดแนวทางในการสนับสนุนช่วยเหลือด้วย เช่น การใช้เงินกองทุนสิ่งแวด ล้อม เป็นต้น |
|||||||||||||||
1824 | รายงานสถานการณ์แรงงานไทยในต่างประเทศ | รง | 03/12/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์แรงงานไทยในต่างประเทศ (ประเทศแถบตะวันออก
กลางและไต้หวัน) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ว่า ขณะนี้มีคนงานไทยที่ทำงานในตะวันออกกลางทั้ง หมดประมาณ 7 หมื่นคน แต่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหากเกิดภาวะสงครามระหว่างสหรัฐ ฯ และอิรักประมาณ 13,000 คน โดยอาจเป็นผู้อยู่ในอิรัก คูเวต บาห์เรน อิสราเอล และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทางสถานเอกอัครราช ทูต สถานกงสุลใหญ่ สำนักงานแรงงาน และสำนักงานแรงงานในพื้นที่ได้มีการเตรียมแผนและการประสาน แผนเป็นระยะสำหรับคนงานไทยในเขตพื้นที่ที่อาจถูกโจมตี และได้ขอความร่วมมือบริษัทจัดหางานที่จัดส่งคน งานไทยไปทำงานในเขตพื้นที่อันตราย ให้รีบเคลื่อนย้ายคนงานออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน ส่วน ปัญหาแรงงานไทยในไต้หวัน ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมหารือไทย - ไต้หวัน ครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพ มหานคร เพื่อหารือในประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งได้มีการลงนามความตกลงด้าน แรงงานไทย - ไต้หวัน โดยคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มที่ต่างประเทศมีความต้องการแรง งานไทยที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะทาง (Skilled Labour) มากขึ้นตามลำดับ เช่น ผู้ปรุงอาหาร หมอนวด แผนไทย ผู้อนุบาลผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งไทยมีแรงงานประเภทนี้อยู่มาก แต่ขาดทักษะความรู้ภาษาอังกฤษ ที่จะใช้ติดต่อสื่อสาร จึงขอให้กระทรวงแรงงานรับเรื่องนี้ไปพิจารณากำหนดแนวทางและการดำเนินการร่วม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาศักยภาพของแรงงานเหล่านี้ต่อไป นอกจากนี้ อาชีพหลาย ๆ อาชีพ ซึ่ง เป็นทักษะความชำนาญและภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งปัจจุบันมีชาวต่างประเทศเข้า มาเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น แต่กฎหมายยังไม่มีบทบัญญัติห้ามไว้ เช่น การนวดแผนไทย เป็นต้น จึงขอให้กระทรวง แรงงานรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นจริงโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||
1825 | ขออนุมัติโครงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพื่อช่วยปฏิบัติงานด้านผู้หนีภัยจากการสู้รบและนักศึกษาพม่า | มท | 19/11/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการโครงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพื่อช่วยปฏิบัติงานด้านผู้หนีภัยจาก
การสู้รบและนักศึกษาพม่า ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 53 อัตรา ระยะเวลาการจ้าง 1 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546) โดยปฏิบัติงานที่สำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ กระทรวงมหาดไทย และส่วนภูมิภาค (จังหวัดกาญจนบุรี ตาก ราชบุรี แม่ฮ่องสอน) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดด้านงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันสถานการณ์ตามแนวชายแดน ตลอดจนความสัมพันธ์ของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดีขึ้น และ เริ่มกลับสู่สภาวะปกติแล้ว การดำเนินการจัดที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยจากการสู้รบ และศูนย์นักศึกษา พม่าน่าจะหมดความจำเป็นลง และควรจะยุบเลิกการดำเนินการในเรื่องนี้ทั้งหมด จึงขอให้กระทรวงการต่าง ประเทศรับเรื่องนี้ไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสม และกำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการที่ชัดเจน ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว รวมทั้งควรติดต่อเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยว ข้องและประเทศที่สามอื่น ๆ เพื่อส่งตัวชาวต่างชาติดังกล่าวกับสู่ประเทศของตนหรือส่งไปประเทศที่สามแล้ว แต่กรณี แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||
1826 | การดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | รง | 19/11/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทก
ภัย ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-14 พฤศจิกายน 2545 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 70 จังหวัด สถาน การณ์ยุติแล้ว 51 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 19 จังหวัดในทุกภาคของประเทศ โดยภาคใต้มี 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม-14 พฤศจิกายน 2545 ได้แก่ โครงการฟื้นฟูสถานประกอบ การขนาดกลางและขนาดย่อม หลังประสบภัยน้ำท่วม การขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบ โครงการประกัน สังคมเคลื่อนที่ โครงการนัดพบแรงงานและจัดหางานเคลื่อนที่ โครงการแนะแนวอาชีพโครงการให้ความช่วย เหลือผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย โครงการฝึกอาชีพแรงงานในชนบท รวมทั้งการช่วย เหลืออื่น ๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่สำนักงานแรงงานในทุกจังหวัด และมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามภารกิจที่รับผิดชอบ ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ แล้ว |
|||||||||||||||
1827 | รายงานสรุปผลการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข | สธ | 12/11/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานสรุปผลการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบ
อุทกภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2545 ประกอบด้วย การเตรียมพร้อมรับสถาน การณ์ การดำเนินการเมื่อเกิดอุทกภัย และการดำเนินการภายหลังน้ำลด โดยในส่วนของการเตรียมพร้อมสถาน การณ์ ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์แจ้งเตือนจังหวัดเตรียมการป้องกันน้ำท่วมสถานบริการ การเคลื่อนย้ายวัสดุ ครุภัณฑ์ ยาและเวชภัณฑ์ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์สื่อสาร ยาและเวชภัณฑ์ สารเคมี เพื่อ สนับสนุนช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ป้องกันโรคติดต่อในภาวะอุทกภัย การดำเนินการ เมื่อเกิดอุทกภัย ได้ติดตามสถานการณ์และรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น ประสานงานให้ความช่วยเหลือในด้าน ต่าง ๆ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในด้านการรักษาพยาบาล ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย สถาน บริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบเสียหายและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของผู้บริหาร ส่วนการดำเนินภายหลังน้ำ ลด ได้ดำเนินการสูบล้างบ่อน้ำของประชาชน เติมสารเคมีต่าง ๆ คลอรีน สารส้ม รักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยทั้งร่าง กายและจิตใจ ตลอดจนเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อต่าง ๆ ภายหลังน้ำลด และฟื้นฟูบูรณะ ซ่อมแซม วัสดุ ครุภัณฑ์ หน่วยงาน สถานบริการสาธารณสุขต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบเสียหาย
|
|||||||||||||||
1828 | ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 | ทก | 05/11/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานผลการสำรวจภาวะการทำงาน
ของประชากรเดือนกันยายน 2545 สรุปได้ว่า ในเดือนกันยายน 2545 มีผู้มีงานทำจำนวน 33.71 ล้าน คน คิดเป็นร้อยละ 97.7 ของกำลังแรงงานทั้งสิ้น 34.51 ล้านคน ส่วนผู้ว่างงานมีจำนวน 6.7 แสนคน คิด เป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.9 และผู้ที่รอฤดูกาลจำนวน 1.3 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 0.4 ทั้งนี้ เมื่อ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นประมาณ 1.59 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้น ในภาคเกษตรกรรม 1.39 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรม 2.0 แสนคน โดยผู้ทำงานนอกภาคเกษตร กรรมที่เพิ่มขึ้น สาขาการก่อสร้างเพิ่มมากที่สุด รองลงมาเป็นสาขาการขนส่ง คมนาคมและคลังสินค้า ส่วน สาขาที่ลดลงคือ สาขาการบริหารราชการแผ่นดินรวมประกันสังคมภาคบังคับ สาขาการขายส่งขายปลีก ซ่อมแซมยานพาหนะและของใช้ส่วนบุคคลและครัวเรือน สาขาการศึกษา และสาขากิจกรรมด้านอสังหา ริมทรัพย์ สำหรับการว่างงานในเดือนกันยายน 2545 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2544 จำนวน ผู้ว่างงานลดลงประมาณ 4.5 แสนคน คือลดลงจาก 1.12 ล้านคน เหลือ 6.7 แสนคน หรือลดลงจากอัตรา ร้อยละ 3.4 เหลือร้อยละ 1.9
|
|||||||||||||||
1829 | รายงานผลการตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 5 | นร | 05/11/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่
5 ณ จังหวัดมหาสารคาม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เสนอ โดยจังหวัดที่เกิดอุทกภัยใน ระดับที่รุนแรงที่สุด ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม ส่วนจังหวัดอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลาง ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัย ของทุกจังหวัดเริ่มคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว สำหรับความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าว ราษฎรของทุกจังหวัด ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนรวม 171,118 ครอบครัว พื้นที่เกษตรกรรมได้รับผลกระทบรวม 1,835,606 ไร่ และสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายประมาณ 2,468 แห่ง มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 2,168,844,088 บาท สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ทุกจังหวัดได้จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ทราบและระมัดระวังการเกิดอุทกภัย และให้ความช่วยเหลือในช่วงเกิดสถานการณ์อุทกภัยโดยสนับสนุนเครื่องอุปโภค บริโภค ยา เวชภัณฑ์อาหารสัตว์ และการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการแก่ประชาชน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวย การเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตลอดจนรับฟังปัญหาและความต้องการความช่วยเหลือของประชาชน และจัด ทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่เกิดอุทกภัยซ้ำซาก
|
|||||||||||||||
1830 | การดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | รง | 29/10/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
รวมทั้งผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัด สรุปได้ว่า จังหวัดที่ประสบอุทกภัย ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2545 มีจำนวน 66 จังหวัด สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 39 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 27 จังหวัด ความ เสียหายเบื้องต้น 3,451.87 ล้านบาท ราษฎรเดือดร้อน 3,737,377 คน 1,057,244 ครัวเรือน อพยพ 36,907 คน และเสียชีวิต 158 คน ส่วนผลการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โครงการฟื้นฟูสถานประกอบการขนาดเล็กภายหลังน้ำท่วม การขยายกำหนดเวลานำส่งเงินสมทบกอง ทุนประกันสังคม โครงการประกันสังคมเคลื่อนที่ การฝึกอบรมอาชีพและช่วยเหลือราษฎร โครงการให้ความ ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย โครงการนัดพบแรงงานและจัดหางานเคลื่อนที่ ณ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี และจังหวัดพิจิตร และโครงการแนะแนวอาชีพ ณ จังหวัดพะเยา เพชรบูรณ์ นคร นายก และจังหวัดนนทบุรี
|
|||||||||||||||
1831 | สถานการณ์ปัญหามลพิษเนื่องมาจากสภาวะน้ำท่วม | ทส | 22/10/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมล
พิษ รายงานสรุปสถานการณ์ปัญหามลพิษเนื่องมาจากสภาวะน้ำท่วม โดยได้ทำการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่ บริเวณที่มีความเสี่ยงกับปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่เป็นแหล่งน้ำดิบเพื่อการ ประปาสำหรับการอุปโภคและบริโภคของประชาชน รวมทั้งแหล่งกำเนิดที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย ของเชื้อโรค เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2545 ปรากฏว่า บริเวณฝั่งตะวันตกใกล้กับจุดสูบน้ำดิบเพื่อการประปานคร หลวง ที่ตำบลสำแล อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี คุณภาพน้ำในบริเวณจุดสูบน้ำเพื่อการประปามีคุณภาพน้ำ ในระดับพอใช้ มีการปนเปื้อนของสารพิษประเภทโลหะหนักในระดับต่ำ ส่วนพื้นที่บริเวณข้างเคียง ได้แก่ คลอง อ้อม คลองรังสิต และคลองเชียงราก มีสภาพปัญหาน้ำเน่าเสียรุนแรง เนื่องจากเกิดการพัดพาของเสียจาก พื้นที่ต่าง ๆ และเกิดสภาพน้ำนิ่ง ประกอบกับการสะสมของผักตบชวาหนาแน่น จึงได้ประสานไปยังส่วนราช การและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นแล้ว สำหรับการสำรวจและตรวจสอบในแหล่ง กำเนิดมลพิษขนาดใหญ่ ปรากฏว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากมีการเตรียมแผนป้องกันภาวะน้ำ ท่วมไว้แล้ว ทั้งนี้ การดำเนินการระยะต่อไป กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องดำเนินการป้องกันปัญหาน้ำท่วม ในส่วนของการขุดลอกคูคลองเพื่อให้การไหลเวียนของน้ำดีขึ้น ควบคุม การระบายของเสียจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานหรือดีกว่ามาตรฐาน จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ (Task Force) เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำพื้นที่เสี่ยง และให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและวิชาการกับ พื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในกระทรวงทรัพยากร ฯ และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องในการจัดการใน ภาพรวมทั้งพื้นที่เพื่อวางแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ในบริเวณข้างเคียง เพื่อรักษาแหล่งน้ำให้เหมาะสมกับการ ใช้ประโยชน์ และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลทรัพยากรน้ำของประเทศ
|
|||||||||||||||
1832 | ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนสิงหาคม 2545 | นร | 25/09/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงาน
ของประชากรเดือนสิงหาคม 2545 สรุปได้ว่า ในเดือนสิงหาคม 2545 มีผู้มีงานทำ จำนวน 34.39 ล้านคน คิด เป็นร้อยละ 98.0 ของกำลังแรงงาน (35.09 ล้านคน) คิดเป็นร้อยละ 55.2 ของประชากร มีผู้ว่างงาน จำนวน 6.1 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.7 และผู้ที่รอฤดูกาล จำนวน 9 หมื่นคน คิดเป็นร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. 2544 พบว่า จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นประมาณ 2.4 แสน คนโดยนอกภาคเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นประมาณ 2.6 แสนคน ส่วนในภาคเกษตรกรรมลดลงประมาณ 2 หมื่น คนโดยผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการผลิต รองลงมาเป็นสาขาการก่อสร้าง สาขาการ ขายส่งขายปลีก ซ่อมแซมยานพาหนะและของใช้ส่วนบุคคลและครัวเรือน รวมทั้งสาขาโรงแรมและภัตตาคาร สำหรับอัตราการว่างงานเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันมีจำนวนลดลงประมาณ 1.3 แสนคน คือ ลดลงจาก 7.4แสนคน เหลือ 6.1 แสนคน หรือลดลงจากอัตราร้อยละ 2.1 เหลือร้อยละ 1.7 |
|||||||||||||||
1833 | ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกรกฎาคม 2545 | นร | 10/09/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานสรุปผลการสำรวจภาวะการ
ทำงานของประชากร เดือนกรกฎาคม 2545 ซึ่งผลจากการสำรวจพบว่า ในเดือนกรกฎาคม 2545 มีผู้ อยู่ในกำลังแรงงานประมาณ 35.14 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำประมาณ 34.48 ล้านคน เปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. 2544 จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นประมาณ 3.8 แสนคน โดยนอกภาคเกษตร กรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7 แสนคน เป็นการเพิ่มขึ้นในสาขาการผลิตมากที่สุด ส่วนในภาคเกษตรกรรม ลดลงประมาณ 1.9 แสนคน สำหรับผู้ว่างงานมีประมาณ 6 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.7 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2544 จำนวนผู้ว่างงานลดลงประมาณ 2.5 แสนคน คือ ลดลงจาก 8.5 แสนคน เหลือ 6 แสนคน หรือลดลงจากอัตราร้อยละ 2.4 เหลือร้อยละ 1.7 |
|||||||||||||||
1834 | สรุปรายงานน้ำท่วม จนถึงวันที่ 9 กันยายน 2545 (รายงานการตรวจเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ เลย และอุดรธานี) | กษ | 10/09/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานน้ำท่วม จนถึงวันที่ 9 กันยายน 2545 ของกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ ศูนย์เฉพาะกิจแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ สำนักนายกรัฐมนตรี และรายงานการตรวจเยี่ยม ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ เลย และอุดรธานี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคม (นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์) โดยสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเกิดจากอิทธิพลพายุโซนร้อน "หว่องฟง" ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายทั่วทุกภาค และตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเขื่อนกิ่วลม เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีปริมาตรน้ำในเกณฑ์สูง คือร้อยละ 93 92 88 และ 93 ของ ความจุอ่าง ฯ ตามลำดับ โดยอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว เขื่อนลำอูน เขื่อนน้ำพุง และเขื่อนวชิราลงกรณ์ มีปริมาตรน้ำเต็มอ่าง ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ มีระดับสูง และไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำหลายแห่ง พื้นที่ในเขตชลประทานได้รับความเสียหายหลายแห่ง ทั้งนี้ กรมชลประทานได้จัดส่ง เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ กาลักน้ำ เข้าไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และได้ประสานงานกับ จังหวัดที่ประสบภาวะน้ำท่วมเพื่อให้ความช่วยเหลือเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด สำหรับการตรวจ เยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ เลย และอุดรธานี กระทรวงแรงงาน ฯ ได้แก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า โดยนำถุงยังชีพไปแจกราษฎรพร้อมทั้งให้การช่วยเหลือซ่อมแซม เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่อง ไฟฟ้า เครื่องยนต์ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ที่มีปัญหาเนื่องจากน้ำท่วม และแจ้งให้แรงงานในจังหวัด ดังกล่าวหยุดงาน โดยได้รับค่าจ้างอันเนื่องมาจากปัญหาอุทกภัยได้เป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ ได้มีข้อ เสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวในส่วนของการสนับสนุนด้านงบประมาณเป็นกรณีพิเศษกับแผนในการ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม ทั้งแผนระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว ที่แต่ละจังหวัดเสนอ เพื่อป้องกัน ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ของตน |
|||||||||||||||
1835 | กระทู้ถามที่ 239 เรื่อง การลดภาษีให้บริษัทต่างชาติ | สผ | 27/08/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 239 เรื่อง การลดภาษีให้บริษัทต่างชาติ ของนายอำนวย
คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ซึ่งถามว่า การลดภาษี การยกเว้นภาษี และให้สิทธิพิเศษกับต่าง ชาตินั้น ได้มีการศึกษาถึงผลดีผลเสียกับบริษัทคนไทยและธุรกิจรายย่อยว่าจะเป็นอย่างไร หรือไม่ รายได้โดย ส่วนรวม การจ้างงานที่เกิดขึ้นและเงินตราที่จะต้องออกไปต่างประเทศจากผลกำไรประกอบการจากบริษัทข้ามปี จะต้องสูญเสียไปเท่าใดต่อปี ภาษีของบริษัทคนไทย ต้องเสียเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้มีการประเมินรายได้รัฐและมี มาตรการลดภาษีให้คนไทยบ้างหรือไม่ และเมื่อประเทศไทยให้สิทธิพิเศษกับบริษัทข้ามชาติแล้ว รัฐบาลได้นำข้อ ต่อรอง เช่น ขอสิทธิพิเศษ จีเอสพี กับประเทศนั้น ๆ หรือไม่ เพราะเหตุใด ทั้ง ๆ ที่ประเทศเหล่านั้นก็ประสบ ปัญหาภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตอบใน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
|||||||||||||||
1836 | กระทู้ถามของสมาชิกวุฒิสภา (กระทู้ถามที่ 010 ร. เรื่อง ปัญหาที่เกิดจากภาวะน้ำท่วมจังหวัดอุดรธานี) | สว | 13/08/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 010 ร. เรื่อง ปัญหาที่เกิดจากภาวะน้ำท่วมจังหวัด
อุดรธานี ของนายสุพร สุภสร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ซึ่งถามว่า การที่เกิดภาวะน้ำท่วม จังหวัดอุดรธานีมาจากสาเหตุใด จากสภาวะน้ำท่วมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการและ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในปี 2543-2544 มีมูลค่าคิดเป็นจำนวนเท่าใด และจะดำเนิน การป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครอุดรธานีและบริเวณตำบลหมู่บ้านโดยรอบของเทศบาลนคร ฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไปจะได้หรือไม่ อย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||
1837 | กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา (กระทู้ถามที่ 376 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง) | สผ | 13/08/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 376 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอ
ย่านตาขาว จังหวัดตรัง ของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง ซึ่งถามว่า รัฐบาล มีมาตรการระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง อย่างไร ซึ่งขณะนี้ใกล้ ถึงช่วงเวลาของการเกิดภาวะน้ำท่วมแล้ว รวมทั้งมีมาตรการระยะยาวในการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมในพื้นที่ ดังกล่าวอย่างไร และจะจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพียงใด และเมื่อใด ตามที่สำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||
1838 | การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 16 ณ นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | รส | 13/08/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการประชุมรัฐมนตรี
แรงงานอาเซียน ครั้งที่ 16 ณ นครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 6-10 พฤษภาคม 2545 โดยมีนายเดช บุญ-หลง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยวัตถุประสงค์ของการประชุมรัฐมนตรีแรง งาน ฯ ครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนโดยเฉพาะในเรื่องความร่วมมือด้าน แรงงานให้มีความใกล้ชิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผลการประชุมครั้งนี้ เกิดฉันทามติในเรื่องสำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะด้านสังคมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาค และเรื่องเกี่ยวกับองค์การแรงงานระหว่าง ประเทศ เฉพาะเรื่องที่ถือว่ามีนโยบายร่วมกัน และยังได้มีการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจา (ประเทศ + 3) ซึ่ง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อร่วมกันพัฒนาสังคม ทรัพยากรมนุษย์ และบรรเทาภาวะวิกฤต เศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงาน ฯ ได้รับรองแผนงานโครงการ ต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม (CLMV) ให้สามารถยกระดับการพัฒนาให้ใกล้ เคียงกับประเทศสมาชิกเก่ามากขึ้น ตลอดจนเห็นชอบในหลักการให้ทุกประเทศมีส่วนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วม กัน (cost-sharing) ในการดำเนินโครงการที่มีความสำคัญและเร่งด่วนเพื่อแสดงถึงความตั้งใจจริงโดยไม่ต้องพึ่ง พาความช่วยเหลือจากภายนอก สำหรับบทบาทของไทยในการประชุมรัฐมนตรีแรงงาน ฯ ครั้งนี้ ได้มีบทบาท สำคัญในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทักษะฝีมือและการประกันสังคม โดยได้ เข้าร่วมประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนความร่วมมือและข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ กับประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งให้ ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมแก่ประเทศ CLMV ในหลาย ๆ เรื่อง และที่ประชุมมีมติที่จะจัดการประชุม ครั้ง ที่ 17 ในเดือนพฤษภาคม 2546 ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ |
|||||||||||||||
1839 | ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรในเดือนมิถุนายน 2545 | นร | 06/08/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรในเดือนมิถุนายน 2545
มีผู้มีงานทำ 33.25 ล้านคน ซึ่งมากกว่าผู้มีงานทำในเดือนมิถุนายน 2544 ประมาณ 6 แสนคน โดยผู้มีงาน ทำเพิ่มขึ้นในภาคเกษตรกรรมประมาณ 1.8 แสนคน และนอกภาคเกษตรกรรมประมาณ 4.2 แสนคน โดยใน ส่วนนอกภาคเกษตรกรรม สาขาการขายส่ง ขายปลีก ซ่อมยานพาหนะและของใช้ส่วนบุคคลและครัวเรือน มี ผู้มีงานทำเพิ่มมากที่สุด รองลงมาคือ การก่อสร้าง โรงแรมและภัตตาคาร และการผลิต สำหรับผู้ว่างงานใน เดือนมิถุนายน 2545 มีจำนวน 6.4 แสนคน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วประมาณ 1.7 แสนคน และเมื่อ พิจารณาจากระดับการศึกษาที่สำเร็จของผู้ว่างงานพบว่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาว่างงานมากที่สุด ประมาณ 1.8 แสนคน ตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเสนอ |
|||||||||||||||
1840 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการธนาคารประชาชน ครบรอบ 1 ปี | กค | 30/07/2545 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการธนาคารประชาชน ครบรอบ 1 ปี
ในช่วงเดือนมิถุนายน 2544-มิถุนายน 2545 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ขณะนี้มีจำนวนสมาชิก 525,874 ราย จำนวนเงินฝากรวม 1,345,910,274 บาท จำนวนสมาชิกที่ขอกู้ 402,121 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.47 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวนสมาชิกที่ได้รับสินเชื่อ 351,974 ราย คิดเป็นร้อยละ 87.53 ของจำนวน สมาชิกที่ขอกู้ทั้งหมด จำนวนเงินให้สินเชื่อ 5,276,078,754 บาท สินเชื่อรับชำระคืน 2,620,609,942 บาท สินเชื่อคงเหลือ 2,655,468,812 บาท จำนวนสมาชิกที่ค้างชำระ เกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป (ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2545) มีจำนวน 9,870 ราย จำนวนเงิน 104,530,630.47 บาท โดยหนี้ค้างชำระเทียบกับ สินเชื่อคงค้างทั้งหมดเหลือ คิดเป็นร้อยละ 4.13 ส่วนการรับฝากเงินนอกสถานที่ (ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2545) จำนวนครั้งที่ออกรับฝากเงิน 51,693 ครั้ง/เดือน จำนวนเงินที่ออกรับฝาก 7,584.89 ล้านบาท รวมทั้งได้มีการพัฒนาบุคลากร พัฒนาอาชีพให้กับสมาชิก และระบบงานการให้บริการ สำหรับปัญหา และอุปสรรคประชาชนบางกลุ่มไม่ใช่คนในท้องถิ่น แต่มาประกอบกิจการในต่างพื้นที่ อาจมีการย้ายสถาน ประกอบธุรกิจได้ง่าย และบางกลุ่มมีการประกอบอาชีพจริง แต่ประสบปัญหาในด้านค่าใช้จ่ายสูง รายได้ ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ไม่สามารถชดใช้หนี้คืนธนาคารได้ตามกำหนด รวมทั้งสถานที่ประกอบการอยู่ใน บริเวณ สถานบริการตอนกลางคืน สถานเริงรมย์ พนักงานต้องอยู่ในสภาวะค่อนข้างเสี่ยงในการไปสำรวจ กิจการ สำหรับแนวทางแก้ไข มีการตรวจสอบสถานที่ประกอบการว่ามีการประกอบกิจการจริง และระยะ เวลาประกอบนานเพียงใด และต้องมีการออกสำรวจด้วยความระมัดระวัง มีการรวมกลุ่มกันออกสำรวจ
|
.....