คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ
รับทราบดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนสิงหาคม 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงาน ซึ่งดัชนีราคาผู้
บริโภคทั่วไปเดือนสิงหาคม 2542 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2542  สูงขึ้นร้อยละ 0.4  และลดลง
จากเดือนสิงหาคม 2541 ร้อยละ 1.1

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดท่าทีไทยสำหรับการเจรจาการค้าพหุภาคีรอบใหม่  ตามมติคณะ  
กรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับท่าที 
ไทยในภาพรวมของการเจรจาไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เรื่องที่จะเจรจาควรครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิก     
ให้ความสนใจและมีความสมดุล  ควรเริ่มเจรจาทุกเรื่องพร้อมกันและจบพร้อมกัน   เรื่องที่ไทยควรเข้าร่วมเจรจาและ 
ให้ความสำคัญ เช่น การค้าสินค้าเกษตร การค้าบริการ เรื่องที่กำหนดให้มีการทบทวน เช่น  กฎหมายว่าด้วยแหล่ง  
กำเนิดสินค้า กระบวนการระงับข้อพิพาท การทุ่มตลาด เรื่องการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ควรมีการแก้ไข เช่น  สิ่งทอ  
มาตรการสุขอนามัย อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า เรื่องที่ควรให้มีการปฏิบัติเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว เช่น  การ   
ปฏิบัติเป็นพิเศษและแตกต่างสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เป็นต้น    สำหรับเรื่องอื่น ๆ   อาทิ   การลดภาษีสินค้า    
อุตสาหกรรมและประมง ไทยควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ  ทั้งนี้  ถือ   
ว่าเป็นท่าทีเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานของหน่วยราชการไทย และคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์  
การการค้าโลก ในขั้นตอนการเตรียมการประชุมระดับรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 3 ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการจัดหาข้าวเพิ่มเติมทดแทน 
ปริมาณที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และองค์การคลังสินค้า จัดหาได้ไม่ครบ โดยประกาศรับซื้อจากผู้ส่งออก 
เพิ่มเติมทดแทนจนครบ จำนวน 300,000 ตัน  (+5%)  ตามสัญญา เพื่อมิให้การส่งมอบข้าวให้รัฐบาลอิหร่าน 
ต้องล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทั้งสองฝ่าย  รวมทั้งกระทบต่อราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกร
จะขายด้วย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดตั้งตลาดกลางกุ้งกุลาดำที่ท้องที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรม 
ราช และอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้ง 2 แห่ง โดยแห่งใดมีความพร้อมก่อน
ก็ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)  พิจารณาความเหมาะสม   แล้วดำเนิน 
การต่อไปได้  ทั้งนี้ ให้ได้รับการสนับสนุนการเงินค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งตลาดกลาง  ฯ และเงินทุนจากกองทุนรวม 
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนเมษายน
2542 เปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2542 และเดือนเดียวกันปีที่แล้ว (ปรากฎว่า สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม
สินค้า  มีมูลค่านำเข้ารวม  31.15  ล้านเหรียญสหรัฐ  ลดลงจากเดือนมีนาคม 2542  แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ
เดือนเดียวกับปีที่แล้ว โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด  6  อันดับแรก  ได้แก่  กระเป๋าหนังและเข็มขัด
หนัง  กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ สุราต่างประเทศ น้ำหอมและเครื่องสำอาง  ผลไม้  ส่วน
สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีอัตราการนำเข้าลดลงมากที่สุด 6 อันดับแรก  ได้แก่  เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล ผ้าทอ
ทำด้วยขนสัตว์ สูท เสื้อ กระโปรง กางเกง และเนคไท แว่นตา ปากกาและอุปกรณ์  น้ำหอมและเครื่องสำอาง)
และให้กระทรวงพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อรณรงค์ให้ใช้สินค้าที่ผลิตได้ในประเทศไทย  ซึ่ง
สามารถทดแทนสินค้าฟุ่มเฟือยที่นำเข้าจากต่างประเทศ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนพฤษภาคม  
2542 เปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2542 และเดือนเดียวกันปีที่แล้ว  (ปรากฏว่า สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง  17  กลุ่ม  
สินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 28.82 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากเดือนเมษายน 2542  แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน   
เดียวกันปีที่แล้ว โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่  สุราต่างประเทศ  ผ้าทอทำด้วยขน     
สัตว์ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง น้ำหอมและเครื่องสำอาง กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ เลนส์   ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือย 
ที่มีอัตราการนำเข้าลดลงมากที่สุด 6 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล แว่นตา น้ำหอมและเครื่อง  
สำอาง  ผลไม้   สูท   เสื้อ   กระโปรง   กางเกง   เนคไท   และเครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่งภาย  
ในที่ทำด้วยคริสตัล) และให้กระทรวงพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อรณรงค์ให้ใช้สินค้าที่ผลิตได้ใน 
ประเทศไทยซึ่งสามารถทดแทนสินค้าฟุ่มเฟือยที่นำเข้าจากต่างประเทศ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ  อนุมัติหลักการการ 
ดำเนินการเกี่ยวกับกลยุทธ์การส่งออกในส่วนของการดำเนินงานในระยะสั้น โดยจัดนิทรรศการแสดงและขายสินค้า    
ณ  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงระหว่างวันที่  17 - 21  พฤศจิกายน  2542 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   
โดยให้กระทรวงการคลังรับไปหารือในรายละเอียดกับกระทรวงพาณิชย์ แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับการดำเนิน  
งานในระยะยาวที่เห็นควรจัดสร้างอาคารของสนามบินหนองงูเห่าเป็นสถานที่จัดนิทรรศการแสดงขายสินค้าและจัด 
สัมมนา นั้น ให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์  ทั้งนี้ อาจพิจารณา 
ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการดำเนินการที่สนามบินดอนเมืองก่อน

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ จำนวน  
12 คน  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2542 เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ยกเว้นลำดับที่ 1  นายเกริกไกร  จีระแพทย์  และ 
ลำดับที่ 9 นางอภิรดี ตันตราภรณ์  ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป  แต่ไม่ก่อนวันที่ 
1 ตุลาคม 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบภาวะ  
การค้าระหว่างประเทศไทยในระยะ 6 - 7 เดือนแรกของปี 2542  ตามที่กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง
เสนอ เกี่ยวกับภาวะการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศซึ่งมีแน้วโน้มปรับตัวดีขึ้น และภาวะการนำเข้าสินค้า
สำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้นเป็นลำดับ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.)  คือ  รับทราบ 
รายงานการดำเนินการสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร ตาม 
ที่กระทรวงพาณิชย์รายงาน   และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของ  คศก.  (เกี่ยวกับการใช้มาตรการกีดกัน 
ทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีอากรของหลายประเทศ  การร่วมกันระวังป้องกันปัญหาความไม่ปลอดภัยในด้านสุขอนามัย 
ในการผลิตและการส่งออกสินค้าอาหารบางประเภทอย่างเข้มงวด   การประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเข้าใจข้อจำกัด 
ในการที่ไทยจะต้องลดการอุดหนุนสินค้าเกษตรลงตามข้อตกลง  WTO   โดยเฉพาะกรณีที่รัฐสนับสนุนงบประมาณ 
เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พร้อมทั้งเสริมสร้างให้เกษตรกรมีขีดความสามารถเพื่อลดการพึ่งพารัฐใน 
การช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิต)  ไปดำเนินการต่อไป   รวมทั้งมอบให้กระทรวงการคลังรับไปประสานกับหน่วย 
งานที่เกี่ยวข้องในการประชุมหารือเกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันร่วมกับภาค
เอกชน เพื่อดำเนินการต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบาย
เศรษฐกิจในการประชุม ครั้งที่ 25/2542 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2542 ซึ่งได้พิจารณาเรื่อง สรุปผลการประชุม
แผนปฏิบัติการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกปี 2543 ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ผลการประชุม  สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศและส่วนกลาง ได้ประเมินสถานการณ์ส่งออกปี  2542
แล้ว  ยืนยันการส่งออกในปี  2542  จะขยายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ  4.0   ส่วนกระทรวง
พาณิชย์ได้มีนโยบายหลักในเรื่องการเร่งรัดการส่งออกโดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ
สินค้าไทย  เพื่อให้สามารถรักษาและขยายส่วนแบ่งในตลาดโลกได้   โดยเน้นกลยุทธ์ในการส่งเสริมและพัฒนา
การส่งออก ดังนี้ การขยายตลาดใหม่ ได้แก่ ละตินอเมริกา  ยุโรปตะวันออก  ตะวันออกกลาง  อาฟริกา  เอเชีย
ใต้  จีน  และเอเชียตะวันออก  และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน   การสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย  โดยการสร้างตรา
สัญลักษณ์สินค้าไทย  (Brand)  ของไทย การสร้างเครือข่ายกระจายสินค้าที่ใช้ตราสัญลักษณ์สินค้าไทยในต่าง
ประเทศ  (Distribution Network for Brand Name Products)  การขยายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เน้นการ
กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้า  บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกันและเกื้อกูลกัน  รวม
ทั้งสนับสนุนให้ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการของไทยใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารข้อมูล (Information Tech
nology) ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าไปทั่วโลกให้มากขึ้น และสนับสนุนให้สามารถทำให้เกิดการค้าทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ให้มากขึ้น  และส่งเสริมการส่งออกแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ซึ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในอนาคต

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  เกี่ยวกับรายงาน
ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมสินค้าระหว่างการส่งมอบผู้ซื้อในต่างประเทศ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ 
เสนอ (สรุปได้ว่า ตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังและได้รับความร่วม  
มือจากผู้ประกอบการภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง  ปรากฎว่า  ผู้ซื้อข้าวไทยในต่างประเทศได้ให้การยอมรับ 
ว่าปัญหาข้าวขาดน้ำหนักสูญหายลดลงมาก ซึ่งสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศก็มีความเห็นเช่นเดียวกันและได้ชี้ 
ให้เห็นผลเด่นชัดคือ บริษัทประกันภัยได้ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยในการขนส่งข้าวประเภท All Risk ลดลงจาก 
เดิมเหลืออัตราร้อยละ 0.825 ทำให้ผู้ส่งออกลดต้นทุนได้มากซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการส่งออกและช่วยรักษา 
ชื่อเสียงคุณภาพข้าวไทย  ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายโดยผ่านทางสมาคมผู้ส่งข้าว   
ออกต่างประเทศในปีงบประมาณ 2541 และ 2542  เป็นเงิน  4  และ  5  ล้านบาท  ตามลำดับ  ซึ่งช่วยให้  ตร.  
สามารถดำเนินการป้องกันและปราบปรามเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ในรอบปีที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีการโจร 
กรรมข้าวสารระหว่างการส่งมอบให้กับผู้ซื้อต่างประเทศแต่ประการใด)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปา  ตามมาตรการจูงใจในการประหยัด  
ในภาครัฐ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ประจำเดือนเมษายน 2542 เปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2540 
มีการใช้ไฟฟ้าลดลง ส่วนการใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงาน

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการรายงาน  
สถานการณ์ราคาน้ำมันและผลกระทบ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) รายงาน  
และตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายไพฑูรย์ แก้วทอง) ชี้แจงเพิ่มเติม (เกี่ยวกับการที่น้ำมันขี้นราคา  
นั้น จะมีผลกระทบต่อราคาสินค้าน้อย  เช่น  ถ้าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาท  จะมีผลกระทบ  
ต่อราคาสินค้าอุตสาหกรรมเพียงร้อยละ  0.14  เท่านั้น  กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้ประชาสัมพันธ์ 
ให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับทราบและกวดขันมิให้มีการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยไม่มีเหตุผลแล้ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ  รับทราบเรื่องการ 
ขายข้าวและยางพาราให้สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์เสนอ (สรุปได้ว่า ขณะนี้สาธารณรัฐ
ประชาชนจีนได้ประกาศโควตาการซื้อข้าวหอมมะลิจากไทยแล้ว   ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งให้สมาคมผู้ส่งข้าวออก   
ต่างประเทศดำเนินการติดต่อโดยตรงกับสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว  นอกจากนี้  ได้ประกาศที่จะรับซื้อยางพารา 
ในจำนวน 400,000 ตัน ซึ่งรวมถึงจำนวน 100,000 ตัน ที่จะรับซื้อจากไทยด้วย  โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประสาน   
กับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และกรมวิชาการเกษตร เพื่อจัดหาบริษัทเอกชนของสาธารณรัฐประชาชนจีน 
ในมณฑลต่าง ๆ ที่ดำเนินกิจการนำเข้าเพื่อรับซื้อยางพาราของไทยแล้ว สำหรับยางพาราอีกจำนวน 300,000 ตัน  
สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศจะรับซื้อเป็นการทั่วไป โดยคู่แข่งที่สำคัญของไทย คือ ประเทศมาเลเซียและอินโด  
นีเซีย ซึ่งอินโดนีเซียได้เสนอขายในราคาต่ำ  โดยในเรื่องนี้ กระทรวงพาณิชย์จะได้รีบแต่งตั้งคณะผู้แทนไปเจรจากับ 
สาธารณรัฐประชาชนจีนโดยเร็วต่อไป) และให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตร ฯ รับไปดำเนินการในส่วนที่  
เกี่ยวข้องต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการแต่งตั้ง นายประทวน เขียวฤทธิ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง  
ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์   ปฏิบัติราชการประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
(นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร) ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการแต่งตั้ง นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 
เป็นรองประธานคณะกรรมการเพื่อสอบสวนการค้าชายแดน คนที่ 1 แทน  นายประวิช  รัตนเพียร  อดีตรัฐมนตรี  
ช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  และแต่งตั้ง นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาตกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรอง 
ประธานคณะกรรมการ ฯ คนที่ 2 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเมษายน  -  พฤษภาคม  2542  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงพาณิชย์เสนอ   และให้ สศช. กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย 
รับความเห็นของ คศก.  (เกี่ยวกับการกำกับชื่อหน่วยงานที่จัดทำดัชนีควบคู่ไปกับคำว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจทุกครั้ง  
เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจากแต่ละหน่วยงานที่จัดทำมีวัตถุประสงค์ เทคนิควิธีการ และองค์ประกอบต่างกัน  
ควรแลกเปลี่ยนความเห็นและปรึกษาหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำดัชนีชี้นำเพียงดัชนีเดียว การระมัดระวัง   
ในการใช้เทคนิคการจัดทำดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ และสามารถชี้แจงให้สาธารณชนได้เข้าใจถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ การ  
พิจารณาเพิ่มเติมปัจจัยด้านการบริโภคภาคเอกชนไว้ในดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของ สศช. รวมทั้งการชี้แจงข้อมูลอื่น ๆ  
นอกเหนือจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจซึ่งเป็นดัชนีรวมที่จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจ เช่น ปริมาณ
การใช้ไฟฟ้า จำนวนแรงงานที่เข้าประกันตนในระบบประกันสังคม เป็นต้น)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม 2542  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  (สรุปได้ดังนี้  ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 
เดือนกรกฎาคม 2542 เท่ากับ 127.5  เทียบกับเดือนมิถุนายน 2542  มีจำนวนสูงขึ้น  และลดลงจากเดือนเดียว   
กันปีที่แล้ว โดยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเฉลี่ยระยะ 7 เดือนแรกของปี 2542 สูงขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2541  
เป็นผลมาจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ  ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่ม    ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้า  
หมวดอาหารและเครื่องดื่ม    รวมทั้งสินค้าและบริการสำคัญมีราคาลดลง)  โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็น 
และข้อสังเกตของ คศก. (เกี่ยวกับการระมัดระวังในการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเพื่อสร้างความเข้าใจ 
ที่ถูกต้องแก่ประชาชน    และให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภาย ในติดตามและศึกษาผลกระทบจากการขึ้น  
ราคาน้ำมัน อันเนื่องมาจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปค) ได้รวมตัวกันลดการผลิตน้ำมัน  อาจเป็นเหตุให้ผู้   
ประกอบการใช้เป็นข้ออ้างในการขึ้นราคาสินค้า ค่าบริการและค่าขนส่ง  ซึ่งจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะ
ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้น) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.)  คือ  รับทราบ 
เรื่อง ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 5 เดือนแรกของปี 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  โดยให้ 
กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงการคลัง  กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม  และกระทรวงเกษตรและ 
สหกรณ์ รับความเห็นและข้อสังเกตของ คศก.  ในส่วนที่เกี่ยวข้อง  (เกี่ยวกับปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศที่สามารถ 
จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกของไทย  เช่น   นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีน หรือภาวะเศรษฐกิจของ   
ญี่ปุ่น การติดตามและตรวจสอบสินค้าวัตถุดิบนำเข้าที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการขาดดุลการค้าและมีผลกระทบต่อ  
ระดับทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศได้เข้าสู่กระบวนการผลิตมากน้อยเพียงใด การกำหนดยุทธศาสตร์ในการ  
ส่งออกสินค้าเกษตรโดยการคัดเลือกธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและมีแนวโน้มที่สามารถแข่งขันในตลาดโลก โดยการจัด 
หามาตรการช่วยเหลือหรือร่วมทุนในระยะต้น ๆ  เพื่อสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจ   การให้กระทรวงวิทยาศาสตร์  ฯ   
ประสานกับกระทรวงเกษตร  ฯ   เพื่อเร่งรัดโครงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราและศึกษาวิธีการแปรรูปยางให้มี  
มูลค่าเพิ่มมากขึ้น   การให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร  ฯ   เร่งรัดดำเนินการเจรจาซื้อขายยางพารากับ 
สาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป   รวมทั้งการสนับสนุนการส่งออกโดยภาครัฐควรมุ่งขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ  ให้  
เพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มประเทศละตินอเมริกาเพื่อเป็นตลาดรองรับสินค้าเกษตรในอนาคต) ไปพิจารณาดำเนินการ
ต่อไป