ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 2 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 28 จากข้อมูลทั้งหมด 28 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | การของบกลางเพื่อชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก ปี 2561 | กค. | 11/04/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๐๐,๖๐๑,๐๔๓.๔๕ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก ปี ๒๕๖๑ โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๖๙ (๓) แล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) และสำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และเห็นควรให้มีแนวทางการบริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะต่อไปอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาระที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าวเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้อนุมัติไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. .... | กษ. | 14/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
เพื่อเป็นการลดภาระและบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องและผลประโยชน์ที่จะได้รับให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมถึงการพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสม
เพื่อให้กลุ่มผู้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
สามารถดำรงและฟื้นตัวได้ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยการให้คำปรึกษาและให้ความรู้แก่ผู้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีนำเงินค่าปรับที่อยู่ในอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีอาญาที่เป็นอำนาจของข้าราชการตำรวจ เงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เฉพาะส่วนที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และเงินค่าปรับทางปกครองที่ข้าราชการตำรวจสั่งปรับตามกฎหมาย สมทบเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | ตช. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำเงินค่าปรับที่อยู่ในอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีอาญาที่เป็นอำนาจของข้าราชการตำรวจ
เงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกเฉพาะส่วนที่ต้องนำส่งรายได้แผ่นดิน
และเงินค่าปรับทางปกครองที่ข้าราชการตำรวจสั่งปรับตามกฎหมายสมทบเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวน
สอบสวน การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา
โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในการกำหนดอัตราการนำเงินค่าปรับดังกล่าวที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินสมทบเข้ากองทุน
เพื่อประโยชน์ในการกำกับการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถติดตามประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน
และควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรเร่งดำเนินการเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับกรมการขนส่งทางบก
และบังคับใช้กฎหมายในการติดตามการชำระเงินค่าปรับจากผู้กระทำความผิด
เพื่อให้การจัดเก็บค่าปรับและนำส่งเงินเข้ากองทุนครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละปีงบประมาณ
และทราบประมาณการรายได้ได้อย่างถูกต้อง
สามารถกำหนดแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินกองทุน
และเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง
เรื่องการกำหนดสัดส่วนเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ทั้งในเรื่องการเบิกจ่ายเงินจากกองทุน การเก็บรักษาเงิน
และการควบคุมตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสสูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | การต่ออายุการบริจาคเงินอุดหนุนแก่ฝ่ายเลขานุการของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล | กต. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่ออายุการบริจาคเงินอุดหนุนแก่ฝ่ายเลขานุการของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลปีละ
๑๐,๐๐๐ ฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ
๓๗๙,๘๐๐ บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ๑ ฟรังก์สวิส เท่ากับ ๓๗.๙๘
บาท) เป็นระยะเวลา ๔ ปี นับแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๐ เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | การเสนอวิธีและขั้นตอนยุติการดำเนินการของกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ต่อคณะรัฐมนตรี | กค. | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (1. ศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ฯลฯ จำนวน 3 คน) | นร.08 | 07/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
จำนวน ๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์
เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ด้านกิจกรรมทางทะเล ๒.
ศาสตราจารย์ ชุมพร ปัจจุสานนท์ ด้านกฎหมาย ๓.
พลเรือเอก จุมพล ลุมพิกานนท์ ด้านการทหารเรือ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน (ASEAN Labour Ministers' Meeting: ALMM) ครั้งที่ 27 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และขอความเห็นชอบต่อการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 27 และร่างถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 12 | รง. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบ
เห็นชอบ และอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน
[ASEAN Labour Ministers’ Meeting (ALMM)] ครั้งที่ ๒๗ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๙ ตุลาคม
๒๕๖๕ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียน [Senior Labour Officials’
Meeting (SLOM)] ครั้งที่ ๑๘ (๒)
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสแรงงานอาเซียนบวกสาม [Senior Labour Officials’
Meeting+3 (SLOM+3) ครั้งที่ ๒๐ (๓) ALMM ครั้งที่
๒๗ และ (๔) การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม [ASEAN Plus Three Labour
Ministers’ Meeting (ALMM+3)] ครั้งที่ ๑๒ ๑.๒
เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ของ ALMM
ครั้งที่ ๒๗ และร่างถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ของการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนบวกสาม [ASEAN Plus Three Labour
Ministers’ Meeting (ALMM+3)] ครั้งที่ ๑๒
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองเอกสารดังกล่าว
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
เป็นเอกสารแสดงความมุ่งมั่นของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการขับเคลื่อนถ้อยแถลงร่วมระดับรัฐมนตรี
เพื่อตอบสนองต่อการฟื้นฟูด้านแรงงานภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการทำงาน การเป็นสถานประกอบการที่ปลอดภัยและมีการคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุม
และร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
เป็นเอกสารแสดงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนบวกสาม ได้แก่ จีน
ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาฝีมือแรงงาน
และความสามารถในการปรับตัวของแรงงานในอนาคตของงานภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด
๑๙ และโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ของประเทศบวกสาม ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ และร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | การกำหนดสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ. | 17/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการกำหนดสินค้าควบคุม
ปี ๒๕๖๖ จำนวน ๕ รายการ ได้แก่ ๑) หน้ากากอนามัย ๒) ใยสังเคราะห์ Polypropylene (Spunbond) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย
๓) ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ ๔) เศษกระดาษ และกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก
และ ๕) ไก่ เนื้อไก่ เพื่อกำหนดมาตรการกำกับดูแลสินค้ามีปริมาณเพียงพอ
และราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริโภค ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ
เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|