ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | แนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี 2562-2563 | รง | 20/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ แนวทางการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๓ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาให้แรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) รวมทั้งผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตร ซึ่งแรงงานต่างด้าวดังกล่าวได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและได้รับเอกสารประจำตัวเรียบร้อยแล้ว และใบอนุญาตทำงานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ และมิใช่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (MoU) อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน ๒ ปี โดยประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ครั้งละไม่เกิน ๑ ปี และอนุญาตให้ทำงานไม่เกิน ๒ ปี โดยใบอนุญาตทำงานหมดอายุก่อนวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ให้อนุญาตทำงานได้ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ให้อนุญาตทำงานได้ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ๑.๒ การดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ หรือภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการจนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งแรงงานต่างด้าวจะต้องมายื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงานภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยมีสถานที่ดำเนินการ ๒ รูปแบบ คือ ที่ตั้งสำนักงานของแต่ละหน่วยงาน และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ กรุงเทพมหานครให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมการจัดหางานกำหนด และจังหวัดให้เป็นไปตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนด ๒. ในส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ๓. สำหรับระยะเวลาที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ให้เริ่มดำเนินการภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการจนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ๔. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาเข้ามาทำงานในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการทำงาน ให้ถือว่าเป็นคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ เป็นกรณีพิเศษ และร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวที่นำเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศได้รับยกเว้นไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวที่ถือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหรือหนังสือรับรองสถานะบุคคลที่กระทรวงการต่างประเทศให้การรับรอง และได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ เป็นคนต่างประเทศซี่งผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานจะนำมาทำงานกับนายจ้างในประเทศหรือนายจ้างจะนำมาทำงานกับตนในประเทศ โดยได้รับยกเว้นให้ใช้เอกสารดังกล่าวแทนหนังสือเดินทางเพื่อขออนุญาตทำงานได้ และกำหนดให้ผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานหรือนายจ้าง แล้วแต่กรณี แจ้งเลขที่เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหรือเลขที่หนังสือรับรองสถานะบุคคลของคนต่างด้าว รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มความในคำปรารภของร่างประกาศกระทรวงแรงงานทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นซึ่งเป็นเงื่อนไขในการออกประกาศในเรื่องนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๕. ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เช่น (๑) ติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของแรงงานต่างด้าวอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดกับนายจ้างให้ส่งแรงงานที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้วกลับประเทศต้นทาง หรือดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้กลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายและอาจส่งผลกระทบด้านความมั่นคง (๒) ให้แรงงานต่างด้าวและผู้ติดตามทุกคน ต้องมีหลักฐานการประกันสุขภาพ และผลการตรวจสุขภาพที่ดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุข หรือสำนักงานประกันสังคม โดยการคุ้มครองไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่อนุญาตให้ทำงานและพำนักชั่วคราวอยู่ในประเทศไทย ก่อนออกใบอนุญาตให้ทำงาน และ (๓) การนำเทคโนโลยีมาใช้ทดแทนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาเพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างยั่งยืนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๖. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการผลักดันและเร่งรัดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้อยู่ภายใต้ระบบการนำเข้าภายใต้ข้อตกลง (MoU) หรือบันทึกความเข้าใจเป็นหลัก เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีเอกภาพ รวมทั้งควรมีระบบการติดตามและประเมินผล เพื่อให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่ระบบ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....