คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินกิจการของสหกรณ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หรือดำเนินการในการรับฝากเงินหรือให้กู้ยืมเงิน และมีสมาชิกที่มิได้อยู่ในหน่วยงานหรือองค์กรเดียวกันหรือมิได้ประกอบอาชีพเดียวกัน (สหกรณ์ซึ่งประกอบธุรกิจเงินทุน) เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์และผู้มีส่วนได้เสียในผลประโยชน์ของสหกรณ์ รวมทั้งป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนโดยทั่วไปและระบบเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยให้นำไปรวมกับร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้รับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน) รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารแห่งประเทศไทย อาทิ การกำหนดมาตรการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินกิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเช่นเดียวกับการประกอบธุรกิจเงินทุน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
               ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรมีการกำหนดมาตรการการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินกิจการทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์เช่นเดียวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และเห็นควรให้จัดตั้งองค์กรอิสระเป็นหน่วยงานกำกับดูแลและตรวจสอบการประกอบธุรกิจการเงินภาคประชาชนในระดับฐานราก โดยมีหน้าที่กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และองค์กรการเงินชุมชน รวมทั้งอาจขยายขอบเขตองค์กรดังกล่าวให้สามารถกำกับดูแลธุรกิจอื่น ๆ ที่ปัจจุบันยังไม่มีผู้กำกับดูแลเป็นการเฉพาะ เช่น ธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่ง ธุรกิจแฟคตอริ่ง เป็นต้น และควรมีการบูรณาการการแก้ไขพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื่องจากมีหลายหน่วยงานได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวในประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย