ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 22 (COP 22) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 12 (CMP12) และการประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ 1 (CMA 1) | ทส | 25/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (the Conference of the Parties to the UNFCCC : COP) สมัยที่ ๒๒ (COP 22) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต (the Conference of the Parties serving as the Meeting of the Parties to the Kyoto Protocol : CMP) สมัยที่ ๑๒ (CMP 12) และการประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส (the Conference of the Parties serving as the Meeting of the Parties to the Paris Agreement) สมัยที่ ๑ (CMA 1) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ เมืองมาร์ราเกซ ราชอาณาจักรโมร็อกโก ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในระหว่างการประชุมระดับสูง และมอบหมายให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ผู้แทนพิเศษของประธานกลุ่ม ๗๗ สำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รองหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย กรณีที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยไม่ได้พำนักในราชอาณาจักรโมร็อกโก รวมทั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต ราชอาณาจักรโมร็อกโก ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๑.๒ เห็นชอบต่อกรอบท่าทีเจรจาของไทยสำหรับใช้ในการประชุม COP 22 การประชุม CMP 12 และการประชุม CMA 1 มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำการดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงภายใต้ความตกลงปารีส จะคำนึงถึงหลักการของความเป็นธรรม ความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างโดยคำนึงถึงขีดความสามารถของแต่ละประเทศ และมุ่งหวังให้รัฐภาคียกระดับการดำเนินงานตามพันธกรณีของตนเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาฯ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส รวมทั้งเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มระดับการดำเนินงานในช่วงก่อนปี ค.ศ. ๒๐๒๐ อย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่หลักการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นธรรม รวมทั้งยกระดับการให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาด้านการเงิน การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า หากในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติฯ จะมีการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐภาคี จะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนการทำความตกลงนั้นตามมาตรา ๔ (๗) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และหากความตกลงดังกล่าวมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเข้าข่ายลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จะต้องเสนอขอความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกรอบท่าทีการเจรจาของไทยฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๔. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....