ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง | 02/08/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขขอบเขตการใช้บังคับตามพระราชบัญญัตินี้โดยขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมถึงลูกจ้างของส่วนราชการไม่ว่าจะเป็นราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น การเพิ่มเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้าง แก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการกองทุนเงินทดแทน การลดการจ่ายเงินเพิ่มกรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินสมทบหรือจ่ายไม่ครบจำนวน การแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการ แก้ไขบทกำหนดโทษให้เหมาะสม รวมทั้งแก้ไขเพื่อให้บทบัญญัติเอื้อประโยชน์ต่อการบริหารจัดการกองทุนที่ดี หรือการลดขั้นตอนการทำงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรกำหนดให้มีการจัดทำรายงานการเงินของกองทุนส่งผู้สอบบัญชีภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นบัญชี การรายงานการสอบบัญชีเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน และการรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีต่อกระทรวงการคลัง ควรกำหนดให้มีการวางและรักษาไว้ซึ่งระบบบัญชีที่เหมาะสมแก่กองทุนตามมาตรฐานการบัญชีสากล และควรกำหนดให้มีการจัดระบบการตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานต่าง ๆ ของกองทุน รวมทั้งเห็นควรให้ตัดมาตรา ๔ (๓) ในร่างพระราชบัญญัติฯ ซึ่งระบุให้ร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่องค์การของรัฐบาลหรือองค์การระหว่างประเทศ เนื่องจากโดยปกติองค์การดังกล่าวมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายภายในในเรื่องต่าง ๆ เว้นแต่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเฉพาะเรื่อง ซึ่งจะระบุไว้ในความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การนั้น ๆ ดังนั้น ลูกจ้างของสถานเอกอัครราชทูตและองค์การระหว่างประเทศจึงควรได้รับการคุ้มครองจากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย ซึ่งถือเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่สถานเอกอัครราชทูตและองค์การระหว่างประเทศต้องปฏิบัติตาม ไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๓. ให้กระทรวงแรงงานรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีขอบเขตการใช้บังคับกฎหมายให้รวมถึงกลุ่มลูกจ้างของราชการที่มีการจ้างต่อเนื่อง จะทำให้รัฐในฐานะนายจ้างมีภาระที่จะต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนตามอัตราที่กำหนด กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม และให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความมั่นคงและความยั่งยืนของกองทุนเงินทดแทนในระยะยาวจากการให้สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....