ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 66 (SC66) และแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | ทส | 29/03/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบสรุปประเด็นสำคัญในวาระการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES) ครั้งที่ ๖๖ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมฯ มีมติให้ประเทศในกลุ่ม Primary Concern ซึ่งรวมถึงประเทศไทยเสนอรายงานเพิ่มเติมวิธีการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งชาติ การดำเนินการในกิจกรรมหรือประเด็นใหม่ ๆ หรือการพัฒนานโยบายในการต่อต้านการล่าช้างและค้างาช้างผิดกฎหมายไปยังสำนักเลขาธิการ CITES ภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๒.๑ ให้กรมการปกครองเร่งรัดการแก้ไขพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ. ๒๔๘๒ ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการควบคุมช้างบ้านและป้องกันมิให้นำช้างที่ผิดกฎหมายมาจดทะเบียนเป็นช้างบ้าน ๑.๒.๒ ให้กรมการปกครองร่วมกับกรมปศุสัตว์และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งรัดดำเนินการรวบรวมข้อมูล DNA ของช้างบ้านทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๑.๒.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาความเหมาะสมในการควบคุมการครอบครองสัตว์ในบัญชี CITES ที่เป็นสัตว์ต่างถิ่น (Non-native species) เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งอนุสัญญา CITES และกำหนดมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในการควบคุม กำกับ ดูแลสวนสัตว์สาธารณะและสถานเพาะพันธุ์สัตว์ป่าที่มีสัตว์ตระกูลแมวใหญ่ของเอเชีย เพื่อมิให้มีการนำสัตว์ดังกล่าวเข้าสู่การค้าระหว่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ๑.๓ เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการค้าและการครอบครองช้างไทยในประเทศ ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ๖ หมวดกิจกรรม ได้แก่ (๑) การออกระเบียบและกฎหมาย (๒) การพัฒนา/ปรับปรุงระบบทะเบียนข้อมูล (๓) การกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย (๔) การศึกษาวิจัยและเสริมสร้างศักยภาพ (๕) การประชาสัมพันธ์ และ (๖) การติดตามและประเมินผล ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมให้กรมศุลกากรเป็นหนึ่งในหน่วยงานรับผิดชอบในกิจกรรมพิจารณาทบทวนเส้นทางการลักลอบนำเข้า-ส่งออกงาช้างจากข้อมูล ETIS (The Elephant Trade Information System) และให้ความสำคัญในเรื่องประเด็นม้าน้ำ รวมถึงดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการด้านสัตว์ (Animals Committee : AC) อย่างจริงจัง และรายงานต่อสำนักเลขาธิการ CITES ทราบเป็นระยะ ๆ ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ (Standing Committee : SC) ครั้งที่ ๖๗ รวมทั้งควรมีการดำเนินการในเรื่องงาช้างอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการกับสัตว์ต่างถิ่นชนิดพันธุ์อื่น ๆ โดยให้มีการออกแบบการจัดการทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....