ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... | พณ | 02/02/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า ในการดูแลให้มีการแข่งขันทางการค้าที่มีความเป็นอิสระ และปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการดูแล และส่งเสริมการประกอบธุรกิจให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม เสมอภาคเท่าเทียมกัน ครอบคลุมในทุกประเภทธุรกิจตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยกระทรวงพาณิชย์ใช้กลไกปกติของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าดำเนินการไปก่อน และทบทวนความเหมาะสมของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าให้มีความสอดคล้องกันด้วย ส่วนการจัดตั้งสำนักงานฯ เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ มีฐานะเป็นนิติบุคคล ให้พิจารณาในระยะต่อไปตามความจำเป็น และให้รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นควรมีกติกาเพื่อกำหนดให้มีการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภคในการบริโภคสินค้าและบริการ รวมทั้งลดการแทรกแซงของรัฐบาล ดังนั้น องค์กรที่กำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าที่ทำหน้าที่เป็นองค์กรผู้ตรวจสอบจึงควรมีอิสระในการดำเนินงาน ไม่อยู่ใต้อำนาจฝ่ายบริหาร การกำหนดบทนิยาม “รัฐวิสาหกิจ” ตามมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติฯ ให้มีความชัดเจน และกำหนดกรอบระยะเวลาเพื่อรองรับการเตรียมการของรัฐวิสาหกิจให้เพียงพอต่อการปฏิบัติตามกฎหมายการกำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายต่อคณะกรรมการฯ ให้ชัดเจนเพื่อรองรับเฉพาะคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย การกำหนดให้นำกฎหมายว่าด้วยวิธีการปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลมให้ครอบคลุมหน้าที่ของคณะกรรมการในกรณีอื่น ๆ ด้วย อาทิ การออกระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ สำหรับกรณีบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติฯ ว่าสามารถนำข้อบัญญัติในพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการไปทำการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้ หากประสงค์จะให้คงบทบัญญัติทั้งสองข้อไว้ ก็ควรกำหนดเวลาเฉพาะในช่วงแรกของการจัดตั้งสำนักงานเพื่อมิให้เกิดบทเฉพาะกาลแบบถาวร รวมทั้งการตัดโอนภารกิจด้านการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าและสำนักส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าซึ่งเป็นส่วนราชการเทียบเท่ากองไปกำหนดไว้ในสำนักงานฯ เพื่อมิให้โครงการการแบ่งส่วนราชการซ้ำซ้อนกัน และเห็นว่าคณะกรรมการฯ เป็นผู้มีอำนาจทางบริหารไม่ควรมีอำนาจในการพิจารณาลดหย่อนโทษปรับ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒. มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประสานคณะทำงานร่วม รัฐ-เอกชน-ประชาชน (ประชารัฐ) ฝ่ายกฎหมาย เพื่อรวบรวมความเห็นขององค์กรภาคเอกชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงในการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. อาทิ การมีกติกาเพื่อกำหนดให้มีการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภคในการบริโภคสินค้าและบริการ รวมทั้งลดการแทรกแซงของรัฐบาล ดังนั้น องค์กรที่กำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าที่ทำหน้าที่เป็นองค์กรผู้ตรวจสอบจึงควรมีอิสระในการดำเนินงาน ไม่อยู่ใต้อำนาจฝ่ายบริหาร การให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเป็นกลไกในการช่วยตรวจสอบความโปร่งใสและกำกับดูแลการแข่งขันที่เป็นธรรม การสนับสนุนการสร้างและพัฒนาบุคลากรขององค์กรในด้านทักษะและความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและประเด็นการแข่งขันทางการค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติฯ ว่าสามารถนำข้อบัญญัติในพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการทำการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ พ.ศ.๒๕๕๐ ได้ อย่างไรก็ตาม หากประสงค์จะให้คงบทบัญญัติทั้งสองข้อไว้ ก็ควรกำหนดเวลาเฉพาะในช่วงแรกของการจัดตั้งสำนักงานเพื่อมิให้เกิดบทเฉพาะกาลแบบถาวร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....