ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | แนวทางการแก้ไขปัญหาราษฎร 5 หมู่บ้านในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปางร้องเรียนขออพยพ | พน | 15/10/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้อพยพราษฎร ๕ หมู่บ้าน (บ้านห้วยคิง หมู่ที่ ๖ ตำบลแม่เมาะ บ้านหัวฝาย หมู่ที่ ๑ บ้านดง หมู่ที่ ๒ บ้านสวนป่าแม่เมาะ หมู่ที่ ๗ และบ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง หมู่ที่ ๘ ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรและสนับสนุนการปฏิบัติงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในพื้นที่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. รับข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นควรกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการดำเนินการอพยพราษฎรที่เป็นทิศทางเดียวกัน ซึ่งรวมถึงแนวทางหรือมาตรการในการแก้ไขปัญหาราษฎรที่ไม่อพยพออกจากพื้นที่ และเห็นควรให้คณะกรรมการที่กระทรวงพลังงานจะแต่งตั้งเพื่อดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอพยพราษฎร ๕ หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พิจารณาการใช้พื้นที่ดังกล่าวอย่างรอบคอบ และให้ กฟผ. จัดทำแผนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่ราษฎรได้รับค่าชดเชยและอพยพออกจากพื้นที่นั้นอย่างรอบคอบและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ กฟผ. ร่วมกับกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและรับฟังความคิดเห็นของราษฎรและผู้มีส่วนได้เสียในบริเวณใกล้เคียงที่มีแนวโน้มที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อจัดทำแนวทางหรือมาตรการในการแก้ไขปัญหาอพยพราษฎรอย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการย้ายกลับเข้าพื้นที่เดิมของราษฎรกลุ่มเดิม หรือการย้ายเข้าพื้นที่ของราษฎรกลุ่มใหม่ที่ชัดเจน และมาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และสวนป่า (ป่าสัก) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่รองรับการอพยพเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนพิจารณาแนวทางการทำความเข้าใจกับชุมชนเพื่อป้องกันการขออพยพในอนาคต และจัดทำแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ได้จากการอพยพของประชาชนในการพัฒนาเป็นแนวป้องกันด้านสิ่งแวดล้อม (Buffer zone) เป็นต้น ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ กฟผ. จัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่าง กฟผ. กับราษฎรที่ยืนยันไม่ต้องการอพยพให้ชัดเจนเพื่อเป็นการยอมรับร่วมกันว่า พื้นที่รองรับการอพยพราษฎร ๕ หมู่บ้าน มีความเหมาะสมและได้รับความเห็นชอบจากการประชาคมหมู่บ้านแล้ว หากในอนาคต กฟผ. มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินของราษฎร กฟผ. จะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในการเวนคืนที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ และต้องดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้ กฟผ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักด้านงบประมาณ จำนวน ๒,๙๗๐.๕ ล้านบาท โดยให้ กฟผ. ประสานงานกับคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และให้ กฟผ. หารือร่วมกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เพื่อพิจารณาข้อตกลงด้านงบประมาณที่เป็นค่าชดเชยต้นสักของ อ.อ.ป. ในพื้นที่รองรับการอพยพและพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประเมินและทบทวนสถานภาพความเป็นหมู่บ้านของทั้ง ๕ หมู่บ้าน ในกรณีจำนวนครัวเรือนที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านเดิมมีจำนวนน้อยเกินกว่าที่จะคงสถานภาพเป็นหมู่บ้านภายหลังการอพยพของครัวเรือนในแต่ละหมู่บ้านแล้ว โดยพิจารณากำหนดแนวทางการโอนครัวเรือนที่เหลืออยู่ไปสมทบร่วมกับหมู่บ้านอื่น หรือพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการบริหารจัดการครัวเรือนที่เหลืออยู่ให้สอดคล้องกับแนวทางการปกครองในระดับหมู่บ้านต่อไป ๕. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติการให้บริการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการพื้นฐาน เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร และระบบประปา ในพื้นที่ของครัวเรือนที่ขออพยพ เพื่อป้องกันการย้ายกลับเข้าพื้นที่เดิม สำหรับพื้นที่ของครัวเรือนที่ยืนยันไม่ต้องการขออพยพ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาบริการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการพื้นฐานดังกล่าวให้กับครัวเรือนในพื้นที่ต่อไปตามสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับจากภาครัฐ |
.....