ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณท้องที่ตำบลตลิ่งงาม ตำบลบ่อผุด ตำบลมะเร็ต ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย และตำบลเกาะพะงัน ตำบลบ้านใต้ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... | ทส | 04/06/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณท้องที่ตำบลตลิ่งงาม ตำบลบ่อผุด ตำบลมะเร็ต ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย และตำบลเกาะพะงัน ตำบลบ้านใต้ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยร่างประกาศฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดนิยามคำว่า “แนวชายฝั่งทะเล” ๑.๒ กำหนดให้พื้นที่ที่ได้มีการกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์และเขตควบคุมอาคารของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศนี้ โดยจำแนกพื้นที่ออกเป็น ๗ บริเวณ และในพื้นที่ดังกล่าวห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรมบางประการ ได้แก่ พื้นที่บริเวณที่ ๑ และพื้นที่บริเวณที่ ๗ (๒) ห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมการทำเหมืองแร่ การขุดเจาะ ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และการถ่ายเทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิต เป็นต้น ๑.๓ กำหนดให้การก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร หรือดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ พื้นที่บริเวณที่ ๒ เขื่อน หรือกำแพง ต้องไม่ปิดกั้นทางลงสู่ทะเลหรือหาด หรือพื้นที่สาธารณประโยชน์อื่น เป็นต้น ๑.๔ กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนที่จะทำการก่อสร้างอาคาร หรือดำเนินการโครงการ หรือประกอบกิจการในพื้นที่ตามร่างข้อ ๒ นอกจากต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้แล้ว ให้จัดทำและเสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น หรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แล้วแต่กรณี ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑.๕ กำหนดให้เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตามร่างข้อ ๒ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็น ๒ ระดับ คือ คณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด และคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับพื้นที่ และกำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแต่ละระดับ ๑.๖ กำหนดข้อยกเว้นสำหรับอาคารที่ไม่ต้องดำเนินการตามประกาศนี้ ได้แก่ อาคารในพื้นที่ตามร่างข้อ ๒ ที่มีอยู่แล้วก่อน หรือในวันประกาศนี้ใช้บังคับ เป็นต้น และกำหนดให้การกระทำ กิจกรรม หรือกิจการใดที่ต้องห้ามตามประกาศนี้ ถ้าได้รับอนุญาตตามกฎหมายใดไว้ก่อนวันประกาศนี้ใช้บังคับให้ดำเนินการต่อไปได้ ๑.๗ กำหนดให้ประกาศนี้มีระยะเวลาการบังคับใช้ห้าปีนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ๒. ให้รับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ตามร่างประกาศฯ ข้อ ๑ ได้กำหนดนิยามคำว่า “แนวชายฝั่งทะเล” หมายความว่า แนวที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุดตามปกติทางธรรมชาติ แต่มาตรการของกรมประมงที่เกี่ยวข้องกับร่างประกาศฯ ระบุใช้ “ขอบน้ำตามแนวชายฝั่งขณะทำการประมง” อาจทำให้ชาวประมงสับสนได้ การเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังในที่สาธารณประโยชน์ในแต่ละจังหวัดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ระดับจังหวัด และมีอำนาจหน้าที่พิจารณาในการกำหนดเขตและการขออนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะ (กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ) ในเขตพื้นที่จังหวัด ทั้งนี้ ตามระเบียบกรมประมงว่าด้วยการยื่นคำขอและการอนุญาตให้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำประเภทที่สาธารณประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกันกับร่างประกาศฯ ข้อ ๓ (๑) (ฉ) อาจเป็นการสร้างภาระแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น และตามร่างประกาศฯ ข้อ ๓ (๑) (ฌ) ห้ามจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามที่กำหนดในบัญชีท้ายประกาศ และปลิงทะเล โดยได้รับยกเว้นให้เฉพาะบางกรณี และต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ มิได้กำหนดให้ต้องขออนุญาต มีเพียงระบบการรับรองมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงและการขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกับกรมประมงเท่านั้น แต่บางกรณีอาจมีสัตว์น้ำดังกล่าวติดปะปนมาในขณะที่ทำการประมงตามปกติได้ นอกจากนี้ ร่างประกาศฯ ข้อ ๓ (๑) (ฌ) (๔) ควรกำหนดนิยามคำว่า “การครอบครองของทางภาคเอกชนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ” ให้มีความชัดเจนเพื่อการบังคับใช้ได้จริง รวมทั้งการกำหนดห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับทุกประเภท ทุกขนาด ควรมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนด้วยหรือไม่ และตามร่างประกาศฯ ห้ามใช้เครื่องมือประเภทลอบปูตาห่างน้อยกว่า ๒.๕ นิ้ว โดยมิได้ระบุเฉพาะท้องลอบเหมือนประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งควรกำหนดให้สอดคล้องกัน และโดยที่ร่างประกาศฯ จะมีระยะเวลาการบังคับใช้ ๕ ปี นับแต่วันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ ดังนั้น ในอนาคตหากมีกิจกรรมหรือโครงการด้านพลังงานและด้านอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศหรือเป็นประโยชน์สาธารณะควรจะให้มีการพิจารณาทบทวนผ่อนผันให้ดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นในอนาคต ประกอบกับร่างประกาศฯ ได้มีการห้ามหรือควบคุมการดำเนินกิจกรรมไว้หลายประเภท ในอนาคตหากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ หรือหากมีโครงการหรือการประกอบกิจกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เป็นต้น เห็นควรให้มีการทบทวนประกาศฯ ดังกล่าวให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
.....