ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | พิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน และพิธีสารเพื่อผนวกข้อบทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ของความตกลงการค้าสินค้า ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน | พณ | 18/09/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบพิธีสาร รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ พิธีสารฉบับที่ ๓ เพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน มีสาระสำคัญเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ได้แก่ (๑) การทบทวน ตรวจสอบ และดูแลการปฏิบัติตามและการดำเนินงานของความตกลง (๒) การพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน เกี่ยวกับการแก้ไขความตกลง (๓) การเจรจาแก้ไขการดำเนินงาน หรือเรื่องอื่นใดอันเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามความตกลง (๔) การกำกับดูแลและประสานความร่วมมือกับองค์กรย่อยต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ความตกลง รวมทั้งให้ความเห็นชอบตามที่เห็นสมควรต่อการตัดสินใจหรือคำแนะนำขององค์กรย่อยที่ได้ถูกจัดตั้งขึ้น (๕) การพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามความตกลง หรือเรื่องที่ภาคีทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายแก่คณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน และ (๖) การทำหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ภาคีทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน จะต้องจัดประชุมอย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง หรือตามที่เห็นว่าจำเป็น ๑.๒ พิธีสารเพื่อผนวกข้อบทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงการค้าสินค้า ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐประชาชนจีน มีสาระสำคัญประกอบด้วย ๑.๒.๑ ส่วนที่ ๑ อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) อำนวยความสะดวกและส่งเสริมการค้าสินค้าระหว่างประเทศสมาชิก โดยที่กฎระเบียบทางเทคนิค มาตรฐาน และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง จะต้องไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่จำเป็น (๒) เสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรองของประเทศภาคี (๓) เสริมสร้างความร่วมมือต่าง ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับการเตรียมการ การจัดทำ และการใช้มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง และ (๔) เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการค้าระหว่างประเทศภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๒.๒ ส่วนที่ ๒ มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) อำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก ในการที่จะคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ในอาณาเขตของตน (๒) สร้างความโปร่งใสและความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น ในการใช้บังคับระเบียบข้อบังคับและกระบวนการเกี่ยวกับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของประเทศภาคีแต่ละฝ่าย (๓) เสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรับผิดชอบหลักของแต่ละประเทศสมาชิก และ (๔) เสริมสร้างการนำเอาหลักการและระเบียบที่ระบุไว้ไปปฏิบัติ ๑.๒.๓ ส่วนที่ ๓ บทญัตติสุดท้าย ระบุเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม การระงับข้อพิพาท การเก็บรักษา และการมีผลใช้บังคับ ๑.๓ ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาร่วมกันในพิธีสารเพื่อผนวกข้อบทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าฯ หากไม่จำเป็นต้องแก้ไขพิธีสาร ในส่วนที่ ๒ มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์ โดยขอให้ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับปี ๒๐๐๕ ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะครอบคลุมประเด็นสินค้าเข้า-ออกระหว่างประเทศ ทั้งในเรื่อง Food safety ที่ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารในระบบ INFOSAN ตามมติสมัชชาอนามัยโลก และ CODEX ตามความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ก็ให้แจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อจะได้เสนอพิธีสารดังกล่าวต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยด่วนต่อไป ๒. อนุมัติการลงนามในพิธีสารทั้งสองฉบับ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ได้รับมอบหมายอื่น เป็นผู้ลงนามในพิธีสาร และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในพิธีสารทั้งสองฉบับดังกล่าว ให้ผู้ลงนามใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนาม ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของพิธีสารทั้งสองฉบับเมื่อประเทศไทยลงนามและดำเนินการตามกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้ว ๕. ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการตามกระบวนการให้แล้วเสร็จโดยด่วนเพื่อให้ทันการลงนามพิธีสารในการประชุมผู้นำอาเซียน-จีน ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ |
.....