ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 (ผลการศึกษาจัดทำแนวทางและมาตรการในการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) | คค | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ [ผลการศึกษาจัดทำแนวทางและมาตรการในการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลแห่งประเทศไทย (รฟม.)] ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยผลการศึกษาได้แบ่งมาตรการดำเนินการเป็น ๒ ระยะ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการดำเนินการระยะสั้น ได้แก่ ๑.๑.๑ การปรับรูปแบบองค์กรและการดำเนินงาน รฟม. ควรปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรภายในและระบบการประเมินประสิทธิภาพภายใน เพื่อแบ่งแยกการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับต้นทุน (Cost Center) และการหารายได้ (Profit Center) เพื่อให้สามารถแยกแยะและประเมินประสิทธิภาพของแต่ละหน่วยงานได้อย่างชัดเจน ๑.๑.๒ การเพิ่มผู้โดยสาร เป้าหมายหลักควรเป็นการพัฒนาและบริหารระบบเพื่อให้สามารถดึงผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้มาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยสำคัญคือ การให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการเดินทางและการเข้าถึงจุดหมายของการเดินทางของผู้รับบริการ ๑.๑.๓ การพัฒนาระบบ Feeder และ Park and Ride รฟม. ควรจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อดำเนินงานการพัฒนาระบบ Feeder และ Park and Ride เช่น การขอใบอนุญาตการให้บริการรถประจำทางในรูปแบบ Feeder และการให้บริการควรเป็นเส้นทางที่มีการกำหนดจุดจอดที่น้อยกว่าเส้นทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการให้ผู้โดยสารในการเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้าได้รวดเร็วและมีค่าโดยสารที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ๑.๑.๔ การเพิ่มรายได้จากส่วนภาคธุรกิจ Non-fare Revenue รฟม. ควรเพิ่มประสิทธิภาพและผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมในองค์กรในการสร้างรายได้ที่เป็น Non-fare Revenue (รายได้จากการให้เช่าพื้นที่ร้านค้า ค่าโฆษณา และค่ากรรมสิทธิ์ในการให้บริการระบบโทรคมนาคม) โดยสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และให้ภาคเอกชนที่มีประสบการณ์และเครือข่ายในด้านต่าง ๆ เข้ามาบริหารจัดการ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรในด้านดังกล่าวไปพร้อม ๆ กัน ๑.๑.๕ การพัฒนาจุดเชื่อมต่อสถานี รฟม. ควรปรับปรุงกระบวนการในการออกแบบจุดเข้าออกที่เชื่อมต่อกับสถานี โดยเพิ่มการมีส่วนของภาคเอกชนและเจ้าของแหล่งกิจกรรมบริเวณสถานีในช่วงการออกแบบและวางแผนโครงการ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประเมินค่าธรรมเนียมเพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าเพิ่มต่ออาคารภาคเอกชนที่เกิดขึ้นจริงเมื่อมีการพัฒนาจุดเชื่อมต่อ ๑.๒ มาตรการดำเนินการระยะยาว ได้แก่ ๑.๒.๑ การพัฒนาแบบ Transit Oriented Development (TOD) ได้แก่ แนวทางการพัฒนาควบคู่ระหว่างแหล่งกิจกรรม อสังหาริมทรัพย์ และระบบรถไฟฟ้า โดยกลไกสำคัญคือ การพัฒนาแบบควบคู่เพื่อให้องค์กรที่ลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านรถไฟสามารถได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าที่ดินและโอกาสในการพัฒนาโดยรอบสถานีและตามแนวเส้นทาง ๑.๒.๒ การพัฒนาบริษัทลูกเพื่อเดินรถ รฟม. ต้องเตรียมความพร้อมต่อภาระหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นในด้านการกำกับบริษัทเดินรถ โดยสร้างองค์ความรู้ในด้านต้นทุนการบริหารและจัดการการเดินรถ รวมทั้งต้นทุนในการบำรุงรักษา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับทางการค้า ดังนั้น ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสร้างองค์ความรู้เพื่อใช้ในการกำกับดูแลระบบและสร้างอำนาจในการต่อรองกับบริษัทเดินรถในอนาคต คือ รฟม. ดำเนินการเดินรถเอง ๑.๒.๓ การพัฒนาบริษัทลูกเพื่อจัดการระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รฟม. ต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารเอง และจะสามารถออกแบบโครงสร้างค่าโดยสาร และบูรณาการระบบจัดเก็บค่าโดยสารได้ โดยให้ รฟม. ปรับใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อบุกเบิกการปรับใช้ระบบ Smart-card บนปัจจัยหลักที่ รฟม. จะเป็นองค์กรที่ให้บริการกับผู้เดินทางในระบบรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ ๑.๒.๔ การปรับโครงสร้างองค์กรในระยะยาว จากภาพรวมของมาตรการในด้านต่าง ๆ รฟม. จำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานตามมาตรการดำเนินการที่นำเสนอ โดยมีการแบ่งหน่วยงานภายในออกเป็น ๔ กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มกิจกรรมด้านการวางแผนและการพัฒนากลยุทธ์ กลุ่มงานวิศวกรรม กลุ่มบริหารงาน และการเงิน และกลุ่มบริษัทลูก (ประกอบด้วย บริษัทลูกด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัทลูกด้าน Non-fare Revenue บริษัทลูกด้านการบริหารโครงข่ายและเดินรถ บริษัทลูกด้านระบบตั๋ว และบริษัทลูกด้านระบบ Feeder) ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรดังกล่าวจะช่วยสร้างระบบประเมินผลงาน และประสิทธิภาพในส่วนต่าง ๆ อย่างชัดเจนตามกลุ่มรายได้และกลุ่มรายจ่ายขององค์กร รวมทั้งเพิ่มความคล่องตัวให้ รฟม. ในการดำเนินงานและสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละส่วนเข้ามาในองค์กรได้ และยังช่วยให้ รฟม. สามารถพัฒนาระบบตอบแทนพนักงานเพื่อสร้างแรงจูงใจได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ รฟม. ดำเนินการเดินรถเอง เพื่อให้มีข้อมูลด้านต้นทุนการบริหารและจัดการการเดินรถ และต้นทุนในการบำรุงรักษา สำหรับใช้ในการกำกับดูแลระบบและสร้างอำนาจต่อรองกับบริษัทเดินรถในอนาคต ควรแสดงให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของรูปแบบการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป การนำนโยบายภาครัฐมาใช้ประกอบการศึกษาเพิ่มเติมและให้มีความสอดคล้องกัน เช่น นโยบายการจัดทำตั๋วร่วม นโยบาย ๒๐ บาท ตลอดสาย เป็นต้น การศึกษาเพิ่มเติมในประเด็นการบริหารจัดการด้านการเงินและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้ครอบคลุมแนวทางและมาตรการในการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการของ รฟม. การให้ความสำคัญกับการดำเนินงานภายใต้ขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของ รฟม. โดยเฉพาะการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการบริหารจัดการสัญญาการให้บริการในระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของภาคเอกชนภายใต้สัญญาสัมปทานในรูปแบบต่าง ๆ การเร่งปรับโครงสร้างองค์กรในลักษณะหน่วยธุรกิจ (Business Unit) และแยกระบบบัญชีและการเงินเป็นรายโครงการ รวมทั้งการจัดทำแนวทางการพัฒนาธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....