ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ - บางซื่อ) ระยะที่ 3 | กค | 15/11/2554 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ - บางซื่อ) ระยะที่ ๓ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยกรอบการเจรจากู้เงินฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ วัตถุประสงค์การกู้เงิน เป็นโครงการเพื่อเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล บริเวณสถานีบางซื่อ โดยนำผู้โดยสารจากพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเข้าสู่โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนภายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดและความสูญเสียด้านพลังงานจากการจราจรติดขัด เพิ่มการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ลดมลพิษจากการจราจรบนถนน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ถนน ๑.๒ กรอบวงเงินกู้ ๓๑,๗๗๒.๓๕ ล้านเยน หรือเทียบเท่า ๑๑,๗๕๕.๗๗ ล้านบาท ๑.๓ กรอบต้นทุนและระยะเวลาในการกู้ กำหนดกรอบการกู้เงินและระยะเวลาผูกพันเงินกู้ให้สอดคล้องกับลักษณะโครงการ รวมทั้งมีระยะเวลาของเงินกู้ที่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลในอนาคต กรณีการกู้เงินจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) การพิจารณาต้นทุนการกู้เงินจะใช้ต้นทุนที่ได้ทำการแปลงหนี้ต่างประเทศเป็นเงินบาท (Cross Currency Swap) แล้วเปรียบเทียบกับต้นทุนการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล ๑.๔ กรอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ดำเนินการภายใต้ระเบียบของแหล่งเงินกู้ ๑.๕ กรอบระยะเวลาในการเบิกจ่ายเงินกู้ กำหนดให้สอดคล้องกับการดำเนินโครงการโดยจะเจรจาให้ได้เงื่อนไขที่เป็นประโยชน์สูงสุด ๑.๖ กรอบในการกำกับติดตามและการตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน กำหนดให้มีการตรวจสอบและกำกับติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแหล่งเงินกู้ของโครงการ และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้จ่ายเงินของโครงการ ๒. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า สัญญาเงินกู้ฯ เข้าข่ายเป็นสัญญาระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศและอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายภายในของต่างประเทศ จึงเห็นควรส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้ ตามมาตรา ๒๓ (๒) ของพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ระบุว่าสำนักงานอัยการสูงสุดมีอำนาจหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและตรวจร่างสัญญา หรือเอกสารทางกฎหมายให้แก่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดทำแผนการดำเนินงานก่อสร้างโครงการ แผนการเบิกจ่ายเงินกู้ และการบริหารจัดการแผนดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องตามแผนการใช้จ่ายจริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....