ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
|---|---|---|---|
| 1 | โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2568-2570 | อก. | 26/08/2568 |
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) ปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย
กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล
หรือวิสาหกิจชุมชน วงเงินปีละ ๒,๐๐๐ ล้านบาท รวมเป็นเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นตามโครงการโดยแยกตามวัตถุประสงค์การกู้เงิน
หากกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งโดยการพัฒนาแหล่งน้ำและพัฒนาระบบการให้น้ำและเพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อย
กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน ๖ ปี
และหากกู้เงินเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน
๘ ปี ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
สำหรับการชดเชยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ขอให้รัฐบาลชดเชยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้โครงการฯ
ปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ อัตราการชดเชยดอกเบี้ย
ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นต่องบประมาณนั้น ให้ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม
ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งข้อสังเกตและความเห็นของกระทรวงการคลัง
ตลอดจนข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงพาณิชย์ เห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมบริหารจัดการ
กำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์เงื่อนไข
ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง สอดคล้องกับระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5 อย่างยั่งยืน ตลอดจนหามาตรการส่งเสริมการตัดอ้อยสดเพิ่มมากขึ้น
ลดการเผาอ้อย สนับสนุนให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรควบคุมดูแลให้นำสินเชื่อไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์
รวมถึงควรกำหนดเงื่อนไขการให้สินเชื่อเพิ่มเติม
โดยให้มีการเรียกคืนสินเชื่อเมื่อตรวจสอบพบการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมถึงกำหนดให้มีการนำเครื่องจักรกลการเกษตรที่จัดซื้อมาเป็นหลักประกัน
เพื่อให้มั่นใจว่ามีการซื้อเครื่องจักรจริง และช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ให้กู้ยืม
และควรมีแนวทางการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้โครงการบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
และให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ |
|||
