ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 851 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 17001 - 17020 จากข้อมูลทั้งหมด 124200 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17001 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) | สธ | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Health of the Kingdom of Bhutan) มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับภูฏาน โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นความสนใจร่วมกันรวม ๑๐ ประเด็น ได้แก่ (๑) การควบคุมโรค (๒) การแพทย์ดั้งเดิม (๓) ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง (๔) การรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการ (๕) ทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข (๖) การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (๗) การให้บริการด้านการบำบัดและรักษายาเสพติด (๘) การวิจัยและการศึกษาด้านการแพทย์ (๙) ระบบการกำกับดูแลยาของประเทศ และ (๑๐) สาขาความร่วมมืออื่น ๆ โดยจะมีการลงนามในระหว่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภูฏานจะเดินทางเยือนประเทศไทยในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมต่อยอดให้เกิดประโยชน์จากความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจฯ โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านการแพทย์ดั้งเดิมและสมุนไพรหายากของภูฏาน รวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำดื่มในชนบทภูฏานมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
17002 | ร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... | นร09 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง และพื้นที่อื่นใดที่อยู่ในภาคตะวันออกตามที่จะได้กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีการบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร จัดทำโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่มีคุณภาพ และกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่โดยสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. สำหรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเพิ่มเป็นการเฉพาะ การเพิ่มกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ในมาตรา ๓๗ (๘) การกำหนดให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการโอนอำนาจของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายไปเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งแก้ไขมาตรา ๕๘ เพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถพิจารณาการให้สิทธิยกเว้นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนร่วมกับคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นั้น ให้เสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อประกอบการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
17003 | การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวบงกช อนุโรจน์ และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวบงกช อนุโรจน์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ๒. นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการสงเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||
17004 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)(นายวิชญายุทธ บุญชิต) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิชญายุทธ บุญชิต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
17005 | ทิศทางการพัฒนาภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบทิศทางการพัฒนาภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่งมีแนวทางการพัฒนา ๖ แนวทาง (๑) พัฒนากรุงเทพมหานครเป็นมหานครทันสมัยระดับโลกควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม (๒) พัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและสร้างความเชื่อมโยงเพื่อกระจายการท่องเที่ยวทั่วทั้งภาค (๓) ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน (๔) บริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และคงความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน (๕) เปิดประตูการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย-ภาคกลาง-ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และ (๖) พัฒนาความเชื่อมโยงเศรษฐกิจและสังคมกับทุกภาคเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
17006 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์) | วท | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
17007 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นางอุมาพร สุขม่วง) | วท | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอุมาพร สุขม่วง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
17008 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (จำนวน 6 ราย 1. นายพีระ รัตนวิจิตร ฯลฯ) | ศธ | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายพีระ รัตนวิจิตร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. นายศรีชัย พรประชาธรรม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๔. นายวีระกุล อรัณยะนาค ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายพิธาน พื้นทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายชาญ ตันติธรรมถาวร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
17009 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 4 ราย 1. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ฯลฯ) | สธ | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุระ วิเศษศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสุเทพ เพชรมาก ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
17010 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (จำนวน 10 คน 1. นายอำพน กิตติอำพน ฯลฯ) | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติชุดใหม่ รวม ๑๐ คน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ ๒. นายคณิศ แสงสุพรรณ กรรมการ ๓. นายวรากรณ์ สามโกเศศ กรรมการ ๔. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา กรรมการ ๕. นายศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการ ๖. นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล กรรมการ ๗. นายสนิท อักษรแก้ว กรรมการ ๘. นายอัชพร จารุจินดา กรรมการ ๙. นายลักษณ์ วจนานวัช กรรมการ ๑๐. นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
17011 | การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (คณะกรรมการ ปปง.) (จำนวน 4 คน 1. พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ฯลฯ) | นร04 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๔ คน ตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๘/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ๒. นายประยงค์ ปรียาจิตต์ ๓. นายประสงค์ พูนธเนศ ๔. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ
|
||||||||||||||||||||||||
17012 | การขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ตามทิศทางประเทศไทย 4.0 | นร04 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) เสนอ ดังนี้
๑. แนวทางการดำเนินงานการขยายผลการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติซึ่งได้คัดกรองความพร้อมของผลงานวิจัย โดยใช้เทคโนโลยีสำหรับการวิจัยข้อมูลที่เรียกว่า Machine Learning โดยจัดกลุ่มผลงานออกเป็น ๕ กลุ่ม ประกอบด้วย (๑) กลุ่มงานวิจัยที่ใช้ประโยชน์แล้ว (๒) กลุ่มงานวิจัยที่พร้อมใช้ประโยชน์ (๓) กลุ่มงานวิจัยต้นแบบ (๔) กลุ่มงานวิจัยองค์ความรู้ทางวิชาการ และ (๕) กลุ่มงานวิจัยไม่ร่วมสมัย ซึ่งผลการคัดกรองจากผลงานวิจัยประมาณ ๑๗๘,๕๘๔ เรื่อง มีผลงานวิจัยที่ควรจะผลักดันไปสู่การต่อยอดและขยายผลเพื่อใช้ประโยชน์ จำนวน ๒,๘๔๔ ผลงาน ๒. การจัดกิจกรรมตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ ๒ ภายใต้แนวคิด “วิจัยขายได้” ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ กันยายน ๒๕๖๐ ณ อาคารไปรษณีย์กลาง และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ บางรัก กรุงเทพมหานคร โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นผู้กำกับการดำเนินงานในภาพรวม
|
||||||||||||||||||||||||
17013 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 42/2560) | สลธ.คสช. | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๐/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการรองรับเพื่อให้การดำเนินการเดินอากาศเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๑/๒๕๖๐ เรื่อง การบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามโครงการพิเศษของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||
17014 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง | นร11 | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ (๑) สรุปผลการพบปะหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกรในภาคกลาง เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๐ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ (๒) ผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ภาคกลางของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคกลางไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
17015 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2560) | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
17016 | ขอให้พิจารณานำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 40/2560 และ ที่ 41/2560 ) | สลธ.คสช. | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๐/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการรองรับเพื่อให้การดำเนินการเดินอากาศเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๑/๒๕๖๐ เรื่อง การบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามโครงการพิเศษของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||
17017 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง ๑.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคงเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มงวดในการตรวจตราผู้สัญจรผ่านแดน โดยกำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติให้ชัดเจน เคร่งครัด เช่น การกำหนดให้รถยนต์ที่ผ่านจุดตรวจต้องเปิดกระจกทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร รวมทั้งให้พิจารณากำหนดมาตรการตรวจสอบจุดเสี่ยงที่อาจมีการลักลอบผ่านแดน โดยเฉพาะพื้นที่เอกชนที่ติดชายแดนที่อาจยังไม่มีมาตรการด้านความมั่นคงรองรับ ทั้งนี้ ให้พิจารณาความจำเป็นในการใช้อำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบผ่านแดนดังกล่าวด้วย ๑.๒ ให้คณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณจุดผ่านแดนหรือตามแนวชายแดนด้านต่าง ๆ ให้เพียงพอ ทั่วถึง รวมทั้งให้มีการตรวจสอบกล้อง CCTV ดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเจรจากับฝ่ายมาเลเซียเกี่ยวกับความเหมาะสมในการขยายเวลาการเปิดจุดผ่านแดน โดยในเบื้องต้นอาจเปิดจุดผ่านแดน ๒๔ ชั่วโมง ให้เฉพาะการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เท่านั้น โดยให้กำหนดประเภทรถยนต์และวัตถุประสงค์ของการขนผ่านให้รัดกุมและชัดเจนด้วย ทั้งนี้ สำหรับการเดินทางของผู้สัญจรผ่านแดนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เห็นควรให้คงจำกัดเวลาไว้ตามเดิม ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับไปศึกษาและพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินงาน บทบาท และภารกิจของสภาบันการเงินต่าง ๆ ของรัฐทั้งระบบ เพื่อให้สถาบันการเงินของรัฐเป็นองค์กรของรัฐที่สามารถดำเนินกิจการได้อย่างเหมาะสม ทั้งในด้านการให้บริการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล และการให้บริการทางการเงินในฐานะสถาบันการเงินทั่วไป โดยไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินโดยรวมของสถาบันการเงินของรัฐนั้น ๆ และให้รายงานผลการศึกษาต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ เดือน ๒.๒ ตามที่ได้มีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ (การจัดเก็บภาษีจากสินค้าสุราและยาสูบ) เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ แล้ว นั้น ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลผู้ประกอบการเพื่อมิให้มีการแสวงประโยชน์จากการกักตุนและขึ้นราคาสินค้าสุราและยาสูบในลักษณะที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทั้งนี้ ให้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงในการดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลผู้ประกอบการให้ทั่วถึงด้วย ๒.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการให้มีการจัดตั้งตลาดกลางคืนเป็นศูนย์กลางการขายส่งสินค้าเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน (เช่น มาตรฐาน GAP) สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (สินค้า GI) ระหว่างผู้ผลิต/เกษตรกรและผู้จำหน่ายสินค้าปลีกในพื้นที่ให้ครบทุกจังหวัดภายในปี ๒๕๖๑ โดยพิจารณากำหนดพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ทั้งนี้ อาจพิจารณานำกลไกประชารัฐมาสนับสนุนการดำเนินการด้วย ๒.๔ ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการจัดให้มีหลักสูตรการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นการสร้างเสริมอาชีพในสาขาต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน และความต้องการของตลาดแรงงานไทย เช่น หลักสูตรเพื่อพัฒนาเกษตรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) หลักสูตรเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ธุรกิจตั้งต้น (Startup) และภาคการท่องเที่ยวและบริการ ๒.๕ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขับเคลื่อนให้มีโรงเรียนชาวนาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกร เช่น การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเพาะปลูกข้าว ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความรู้ความสามารถของเกษตรกรไปสู่การเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) ต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาทบทวนและปรับปรุงแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และให้พิจารณาดำเนินโครงการ/งานที่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณและไม่ก่อให้เกิดภาระผูกพันในปีต่อ ๆ ไป เป็นลำดับแรก เพื่อให้งานบรรลุผลและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๑ ๓.๒ เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นปีแห่งการปฏิรูปเน้นการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) นอกเหนือจากงานตามภารกิจปกติ (Function) จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกท่านสรุปผลการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบในช่วงการบริหารงานของรัฐบาลทั้งในส่วนของงานตามภารกิจ (Function) และงานตามยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล (Agenda) ที่ต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น การบริหารจัดการน้ำ การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่ามีการดำเนินการเรื่องใด อย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก และให้จัดทำแผนงานสำคัญที่จะดำเนินการต่อไปเป็นรายไตรมาสเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการแผ่นดินก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไปภายใน ๑ เดือน ๓.๓ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศซึ่งอยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดองให้เป็นการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ซึ่งจัดตั้งตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามลำดับ ทั้งนี้ เพื่อลดภาระด้านการบริหารจัดการ รวมทั้งขั้นตอนการทำงานและปริมาณงานที่อาจซ้ำซ้อนกัน สำหรับสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU) นั้น ให้คงปฏิบัติหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องสำคัญเชิงนโยบายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
17018 | รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐) ไปแล้ว นั้น จากการติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว พบว่ายังมีรายการที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นอยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการตามกระบวนการเบิกจ่ายและการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงเห็นควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นดำเนินการ ดังนี้
๑. รายการงบประมาณที่ลงนามในสัญญาแล้ว แต่มีเงินเหลือจ่ายหรือยังไม่บันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้หน่วยงานเร่งรัดบันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้ครบถ้วนโดยเร็ว หากมีเงินเหลือจ่ายให้ดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สำหรับรายการที่ปรับแผนการเบิกจ่ายงบประมาณมาเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ๒. รายการงบประมาณที่ยังไม่ลงนามในสัญญา ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ และ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สำหรับรายการที่ปรับแผนการเบิกจ่ายงบประมาณมาเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ๓. รายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่ยังไม่ลงนามในสัญญา หรือยังไม่บันทึก PO ในระบบ GFMIS ให้ดำเนินการก่อหนี้หรือบันทึก PO ภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ และรายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ยังไม่ขอรับการจัดสรรให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ หากไม่ดำเนินการตามกำหนดดังกล่าว ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบกลางกรณีอื่นที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและมีความพร้อมเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
17019 | การเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอโครงการที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๙ มกราคม ๒๕๕๙) ว่า ในการเสนอขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการใด ๆ ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการระบุตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของโครงการ รวมทั้งผลกระทบ/ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินโครงการให้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
17020 | การตรวจสอบ TOR ย้อนหลัง | นร | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การจัดทำเอกสารขอบเขตงาน (Terms of Reference : TOR) ของโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐมีความถูกต้อง เหมาะสม รอบคอบ และเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน จึงมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปประสานและดำเนินการเพื่อให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๖๐ (เรื่อง การกำกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ) ตรวจสอบ TOR ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งมีวงเงินสูงหรือเป็นโครงการของรัฐที่อยู่ในความสนใจของประชาชนย้อนหลัง ๓ ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จนถึงปัจจุบัน) แล้วจัดทำความเห็นหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สำหรับการจัดทำ TOR ของหน่วยงานภาครัฐในระยะต่อ ๆ ไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามนัยข้อ ๖ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
|
.....