รับทราบรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาเรื่อง การจัดการมลพิษ  ทรัพยากร 
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน   ดังนี้
          สาระสำคัญของเรื่อง 
          การดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 
          1. ระยะสั้น
          2. ระยะยาว
          และมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   กระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงอุตสาหกรรม   และสำนักงาน 
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับไปพิจารณาดำเนินการ       แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ   
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          รับทราบรายงานและข้อเสนอเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการศึกษาและ
วัฒนธรรม ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน ดังนี้
          สาระสำคัญของเรื่อง 
          คณะกรรมาธิการได้แยกพิจารณาศึกษาเป็นเฉพาะด้านทั้งด้านการศึกษา  ด้านวัฒนธรรม   และ 
ด้านศาสนา โดยหยิบยกเฉพาะประเด็นสำคัญที่เห็นว่าเป็นพื้นฐานของการพัฒนาประเทศ เพื่อประยุกต์
ให้เข้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8     โดยทางด้านการศึกษาได้พิจารณาศึกษา   
เรื่อง  "ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมไทย"   ด้านวัฒนธรรมได้พิจารณาศึกษาเรื่อง  "แนว 
ทางการปลูกฝังและสร้างเสริมความมีวินัยของสังคมไทย"  และด้านศาสนาได้พิจารณาศึกษาเรื่อง  "บท 
บาทของศาสนาในการพัฒนาสังคมไทย"  
          และมอบให้กระทรวงศึกษาธิการ    ทบวงมหาวิทยาลัย     สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ   
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ    และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  (สำนักงานคณะกรรมการการ    
ศึกษาแห่งชาติ)  รับไปพิจารณาดำเนินการ    แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ   เพื่อนำ 
เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

         รับทราบรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาเรื่อง สถานภาพของการถ่ายทอด 
เทคโนโลยีของประเทศไทยและศักยภาพในการพัฒนา     ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน 
ดังนี้
          สาระสำคัญของเรื่อง โดยสรุปคือ
          ปัญหา อุปสรรค  และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ควรให้ความสนในปัจจุบัน
สามารถสรุปได้ดังนี้
          1. รัฐควรให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานโดยสร้างความเข้าใจถึง    
เหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรักษาสมดุลย์ขององค์ประกอบสำคัญ  3  ประการ  ที่เรียกว่า  "3E"    
ซึ่งหมายถึง    ความสมดุลย์ของพลังงาน  (Energy)    สิ่งแวดล้อม  (Environment)     และเศรษฐกิจ 
(Economic)  
          2. รัฐควรดำเนินการเรื่องเทคโนโลยีการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด     การละเลยในการแก้  
ปัญหาเรื่องการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าทำให้เกิดผลเสียและปัญหานานาประการ รัฐควรมีแผนหลักในการ  
ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่อย่างเหมาะสม 
          3. ในเรื่องการพัฒนาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์     รัฐควรให้ความสนใจด้านความสามารถ 
ของบุคลากร      โดยจัดให้มีการพัฒนาศึกษาด้านคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับระดับการใช้งานในทุก
ระดับขั้นของการศึกษา เพื่อให้สามารถนำมาใช้ปฏิบัติงานแทนการทำงานระบบเดิม
          4. อุตสากรรมเซมิคอมดักเตอร์    เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์  
เกือบทุกประเทศ รัฐควรมีแนวนโยบายที่ชัดเจน  และมีมาตรการจริงจังในการส่งเสริมอุตสาหกรรม 
เซมิคอนดักเตอร์      เพื่อให้สินค้าและอุตสาหกรรมต่าง ๆ   ที่ผลิตขึ้นในประเทศสามารถแข่งขันใน
ตลาดโลกได้
          5. เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม    เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้น 
ฐานเศรษฐกิจและการศึกษา  รัฐควรสนับสนุนกำกับดูแลให้ทันสมัย  ก้าวหน้าและมีค่าใช้จ่ายอยู่ใน 
ระดับที่ประชาชนจะสามารถใช้บริการได้
          และมอบให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม  กระทรวง 
อุตสาหกรรม  สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี   และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ 
และสังคมแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ  เพื่อ
นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          รับทราบรายงานเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติรถยนตร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติ 
การขนส่งทางบก  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (ปรับปรุงอัตราภาษีและอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับรถทั้งระบบ) 
ซึ่งกระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก)   ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (11 สิงหาคม 2540) 
เกี่ยวกับการตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีรถ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น     ตามที่ 
กระทรวงคมนาคม รายงาน สรุปได้ดังนี้
          1. ออกระเบียบกรมการขนส่งทางบก   ว่าด้วยการเสียภาษีรถประจำปีทางไปรษณีย์  พ.ศ.  2538 
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนสามารถยื่นขอชำระภาษีรถประจำปีได้  ณ  ที่ทำการไปรษณีย์โทร  
เลขของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ที่ให้บริการไปรษณีย์ธนาณัติได้ทุกแห่งทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ยัง    
กำหนดให้รถยนตร์ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครสามารถยื่นขอชำระภาษีรถประจำปีได้  ณ  ที่ทำ 
การสำนักงานขนส่งพื้นที่ได้ทุกแห่ง
          2. แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติรถยนตร์ พ.ศ. 2522 ดังนี้ 
              2.1 กำหนดให้มีการออกหมายเลขทะเบียนที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ  และการขอใช้หมาย 
เลขทะเบียน (ประมูลป้ายทะเบียน)
              2.2 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอใช้รถเป็นการชั่วคราวในระหว่างรอการจดทะเบียน  หรือ 
รอแผ่นป้ายแสดงการจดทะเบียน
              2.3 กำหนดให้การนำรถไปเพื่อขายหรือซ่อมต้องมีข้อความแสดงการใช้รถในแต่ละครั้ง   
              2.4 กำหนดให้เจ้าของใหม่ต้องร่วมรับผิดชอบชำระภาษีประจำปีที่ค้างชำระ     รวมทั้งกำหนด   
ให้การจดทะเบียนรถที่ยังค้างชำระภาษีประจำปีเกินกว่า 3 ปีขึ้นไป สิ้นสุดลง และกำหนดให้เจ้าของรถมี  
หน้าที่ต้องส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถดังกล่าว รวมทั้งกำหนดโทษปรับหากเจ้าของรถไม่ปฏิบัติตาม 
              2.5 กำหนดให้นายทะเบียนมีอำนาจผ่อนชำระภาษีประจำปีที่ค้างชำระได้       รวมทั้งอาจไม่  
ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในทางทะเบียนถ้ารถนั้นยังค้างชำระภาษีประจำปี
          3. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ดังนี้
              3.1 กำหนดให้นายทะเบียนมีอำนาจไม่ดำเนินการทางทะเบียนแก่รถยนตร์ที่ค้างชำระภาษี  
ประจำปี และมีอำนาจให้ผ่อนผันการชำระภาษีที่ค้างชำระได้
              3.2 กำหนดให้เจ้าของรถใหม่ต้องร่วมรับผิดชำระภาษีประจำปีค้างชำระด้วย 
              3.3 กำหนดให้การจดทะเบียนรถที่ค้างชำระภาษีประจำปีเกินกว่า 3 ปีขึ้นไปสิ้นสุดลง   และ  
เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องส่งคืนแผ่นป้ายทะเบียน รวมทั้งกำหนดโทษปรับถ้าเจ้าของรถไม่ส่งคืนแผ่นป้าย 
ทะเบียนภายในกำหนด
              3.4 กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำานจลดอัตราภาษีประจำปีลงจากอัตราที่กำหนดได้     โดยตรา  
เป็นพระราชกฤษฎีกา
          4. การแก้ไขกฎหมายตามข้อ  2  และ  3     ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะ 
กรรมการกฤษฎีกา 

          อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีชุดใหม่ 
จำนวน 4 คน   แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระ   ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ 
ดังนี้ 
          1. นายจงอาชว์  โพธิสุนทร
          2. นายถาวร     จุณณานนท์
          3. นายปกิต      กิระวานิช
          4. นายพหล      จินดากุล
          โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้นายดาบตำรวจ นเรศ อยู่ปั้น ผู้บังคับหมู่ งาน 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการอำนวย
การ ตำรวจภูธรภาค 1  ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการคงอยู่รับ
ราชการในตำแหน่ง   ตั้งแต่วันที่  1  ตุลาคม  2523    ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้นายดาบตำรวจ ปรีดา ปรียารัตนโชติผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานรตำรวจภูธร ตำบล
เขาหินซ้อน  อำเภอพนมสารคาม  จังหวัดฉะเชิงเทรา  ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะ
เหตุปฏิบัติราชการคงอยู่รับราชการในตำแหน่ง  ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2539 ตามที่
กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้สิบตำรวจตรี วิศักดิ์  เพ็งสี ผู้บังคับหมู่ งาน 5 กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร
ภาค 9 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการคงอยู่รับราชการในตำแหน่ง 
ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2540 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ 

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้สิบตำรวจตรี วิรัตน์ ศรีวิไล  ผู้บังคับหมู่  งานป้องกันปราบปราม  สถานีตำรวจภูธร  ตำบล
หางน้ำสาคร  อำเภอมโนรมย์  จังหวัดชัยนาท  ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการ
ปฏิบัติราชการ  คงอยู่รับราชการในตำแหน่ง  ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2538 ตามที่
กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้สิบตำรวจเอก สายชล  บัวดี ผู้บังคับหมู่ งาน 4  กองกำกับการ 4  กองบังคับการอำนวยการ  
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับ
ราชการในตำแหน่ง   ตั้งแต่วันที่  31  มกราคม 2532 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          อนุมัติให้มหาวิทยาลัยมหิดลจ้าง Mr. U. Kyaw Than เป็นลูกจ้างชั่วคราวชาวต่างประเทศ ที่มีอายุ
เกิน 65 ปี บริบูรณ์  ต่ออีก 1 ปี  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540  ถึงวันที่ 30 กันยายน 2541  ในตำแหน่ง  
อาจารย์ชาวต่างประเทศ  อัตราค่าจ้างเดือนละ 21,600 บาท    พร้อมทั้งค่าเช่าบ้านเหมาจ่าย  เดือนละ 
8,000 บาท ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย เสนอ  และสำหรับในกรณีที่มีการพิจารณาอนุมัติจ้างลูกจ้างชาว   
ต่างประเทศที่มีอายุเกิน 65 ปี บริบูรณ์  เพื่อปฏิบัติภารกิจใด ๆ ของส่วนราชการ  ให้ยึดถือหลักการใน
การจ้างลูกจ้างชาวต่างประเทศตามแนวทางที่สำนักงาน ก.พ. เสนอด้วย

          ตามมติคณะรัฐมนตรี (18 กุมภาพันธ์ 2540) อนุมัติหลักการดำเนินการปฏิรูปการศึกษา
ในสถานศึกษาต่าง ๆ ที่เปิดสอนในระดับเด็กก่อนวัยเรียน และสถานศึกษาที่ให้การศึกษาระดับ
ต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ไม่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ เพื่อเร่งรัดให้สถานศึกษามีคุณภาพ
และมุ่งเน้นพัฒนาสถานศึกษาให้ได้มาตรฐานตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา
          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพ-
มหานคร โดยให้โรงเรียนประชานิเวศน์เป็นโรงเรียนนำร่อง 1 แห่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยรายละเอียดด้านอัตรากำลังและงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ
และสำนักงบประมาณ ไปดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติเสนอร่างแผน
พัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน ผู้มีความสามารถพิเศษ ซึ่งกำหนดจะพัฒนาเด็กและเยาวชนระดับ
มัธยมศึกษาใน 5 ด้าน คือ  ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์  ภาษาไทย  กีฬา  ดนตรี  และทัศนศิลป์และ
ศิลปะการแสดง โดยปฏิรูประบบการเรียน การสอน  ให้ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง  ทั้งนี้  ให้รับ
ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการดังนี้ ควรกำหนดมาตรการเพื่อกระจายโอกาสไปสู่เด็กและเยาวชน
กลุ่มเป้าหมายทั้งในกรุงเทพ ฯ และจังหวัดต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรม  และควรมีมาตรการเพื่อให้
การปฏิบัติตามนโยบายในภาพรวมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผน
ปฏิบัติการพัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนผู้มีความสามารถพิเศษ  (พ.ศ. 2541-2544)  ให้สอด
คล้องกับแผน ฯ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติเป็นหน่วยงานประสานการดำเนินงาน

          อนุมัติให้ถอนเรื่อง ขอทบทวนการกำหนดรถประจำตำแหน่งข้าราชการตุลาการ ตำแหน่งอธิบดี 
และรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คืนไปได้       ตามที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอ    โดยให้นำกลับไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเนื่องจาก
เรื่องนี้มีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว

          รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 2 (1 เมษายน - 30 กันยายน 2540)
ปีงบประมาณ 2540 ตามที่กระทรวงการคลัง รายงาน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
          1. ภาพรวมที่สำคัญของกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินงานที่สำคัญรวมทั้งสิ้น 67 โครงการ 
          2. โครงการ/แผนงานที่สำคัญ ได้แก่
              2.1 โครงการการจัดทำแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ
              2.2 โครงการการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันการเงินที่เปิดดำเนินการในปัจจุบัน
              2.3 โครงการการแก้ไขปัญหาบริษัทเงินทุน 58 แห่ง ที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ
              2.4 โครงการดำเนินมาตรการภาษีอากรเพื่อรักษาและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

          รับทราบรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาเรื่อง มาตรการและแนวทางในการ
พิจารณาเงินออมและเงินลงทุนระยะยาว ตามที่สำนักงานเลขานุการวุฒิสภา รายงาน
          สาระสำคัญของเรื่อง
          การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในระยะสั้น  ทางการทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันเร่งสร้างความ 
เชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักลงทุนโดยเร็ว    โดยการปฏิบัติการตามข้อตกลงที่มีต่อกองทุนการเงินระหว่าง  
ประเทศอย่างเคร่งครัด   เร่งแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินที่ทางการประกาศควบคุมให้สามารถทำธุรกิจต่อ 
ไปได้โดยเร็ว  และเร่งสร้างเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน     สำหรับระยะยาวต้องลดการพึ่งพาต่างประ  
เทศด้านต่าง ๆ  ให้น้อยลงทางการและธุรกิจเอกชน       จึงต้องร่วมมือกันกำหนดแผนการพัฒนาอุตสาห 
กรรมไทยให้สามารถผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และลดการพึ่งพาต่างประเทศทั้งด้านเทคโนโลยี  วัตถุ   
ดิบ   และการตลาด     ขณะเดียวกันต้องมีการรณรงค์อย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
การใช้จ่ายของประชาชนในประเทศให้ประหยัด มัธยัสถ์ ลดการใช้สินค้าฟุ่มเฟือย  รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือ  
การออมระยะยาวและสร้างความมั่นคงให้แก่สถาบันการเงิน   ทั้งนี้  เพื่อระดมเงินออมในประเทศให้เพียง  
พอความต้องการลงทุน      นอกจากนี้ยังต้องดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปเพื่อการ  
พัฒนาและการวิจัยยกระดับการศึกษารวมถึงการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อการรองรับการ 
พัฒนาประเทศในอนาคต 
          และมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรม
การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ   แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะ 
รัฐมนตรีทราบเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสีเทียน
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ.....  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอันตรายเกิดแก่ประชาชน
ตามที่กระทรวงอุตสากรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกต
ในประเด็นที่ว่าข้อกำหนดในร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นการจำกัดเสรีภาพในการประกอบอาชีพตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 วรรคสอง หรือไม่ ไปพิจารณาด้วยแล้วดำเนินการต่อไปได้
       

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองสี่  ตำบล   
คลองหลวง  จังหวัดปทุมธานี   ในท้องที่ตำบลบางเตย  อำเภอสามพราน  จังหวัดนครปฐม   และในท้องที่แขวง  
คลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าสาธารณะด้านทิศเหนือ  ทิศ 
ตะวันตก และทิศตะวันออก ของกรุงเทพมหานคร  รวมทั้งกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่อง (เพื่อดำเนินการกิจ 
การขนส่งสินค้าทางถนนด้วยรถยนค์ และเพื่อเป็นการรองรับปริมาณสินค้า  และการกระจายสินค้าไปยังท้องที่ 
ต่าง ๆ  โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกัน  ตลอดจนเป็นการสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาการจราจรและการ
ใช้ถนนหลวงเป็นที่ขนถ่ายสินค้า   และให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จะใช้เพื่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าสาธารณะทั้งสาม 
แห่งตกเป็นของรัฐ) รวม  3  ฉบับ   ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ   ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ 
พิจารณาแล้ว โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแก้ไขเพิ่มเติมข้อความที่เป็นคำปรารภในร่างพระราชบัญญัติ
เวนคืนดังกล่าวทั้ง 3 ฉบับ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้เพิ่มข้อความต่อท้าย ดังนี้  
"... ประกอบกับมาตรา 49 ของวรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัย 
อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ..."  ตามรูปแบบร่างพระราชบัญญัติเวนคืนที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแก้ไขล่าสุด        และรูปแบบร่างพระราชบัญญัติเวนคืนที่วุฒิสภาได้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติเวนคืนใน
ปัจจุบัน     แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา   ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน  เพื่อ 
สร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข  122  สายทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์  พ.ศ. ....  (เพื่ออำนวยความสะดวกและ 
รวดเร็วแก่การจราจรและขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปใช้อสังหาริมทรัพย์ได้ก่อน
ที่จะมีการตราเป็นพระราชบัญญัติเวนคืน ฯ) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้