รับทราบรายงานผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการคลังเอเซีย - ยุโรป   (Asia - Europe      
Finance Deputies)    ระหว่างวันที่ 4 - 5 กุมภาพันธ์ 2541  ณ  กรุงลอนดอน  ประเทศอังกฤษ  ของ  
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม)      และการเข้าพบ นาย Gordon  Brown 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหราชอาณาจักร   ตามที่กระทรวงการคลัง  รายงาน     โดยมีสาระ
สำคัญสรุปได้ดังนี้
          การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการคลังเอเซีย - ยุโรป
          การประชุมครั้งนี้ต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเซีย - ยุโรป  เมื่อ 
วันที่ 19 กันยายน 2540      ที่ประชุมได้เน้นความสำคัญของความร่วมมือระหว่างเอเซียและยุโรปและ
ประเทศอังกฤษในฐานะประธานสหภาพยุโรปจะเป็นเจ้าภาพการประชุม ฯ  ครั้งที่ 2  (ASEM II)  โดย
หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะสามารถสรุปแนวทางร่วมในการแก้ไขปัญหา และการเสริมสร้างความมั่นคง
ของระบบการเงินโลก เพื่อเสนอต่อการประชุมผู้นำในเดือนเมษายน 2540       และได้หารือถึงความ  
จำเป็นในการเรียกความเชื่อมั่นของตลาดกลับคืนมา   ความสำคัญของการดำเนินการตามแผนงานที่ 
ตกลงไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเซีย  ซึ่งไทยได้
ดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม    ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น  
กับได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของมาตรการริเริ่มต่าง ๆ เช่น การป้องกันการฟอกเงิน  การจัดทำ  
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมโยงกระทรวงการคลังของประเทศสมาชิก     ความร่วมมือในการเสริม
สร้างระบบการกำกับดูแลสถาบันการเงินและความร่วมมือทางศุลกากร    การจัดตั้งสหภาพการเงิน  
ยุโรป (EMO) และการเริ่มใช้เงินตราสกุลเดียว (Euro) ในวันที่ 1 มกราคม 2542 สำหรับการดำเนิน  
การต่อไป  กระทรวงการคลังไทยในฐานะผู้ประสานงานฝ่ายเอเซียร่วมกับกระทรวงการคลังญี่ปุ่นจะ  
ได้ร่วมกับกระทรวงการคลังสหราชอาณาจักรในฐานะประธานสหภาพยุโรปจัดทำรายงานความร่วม  
มือด้านการเงินการคลังในกรอบเอเซีย - ยุโรป      และความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ 
ทางการเงิน เพื่อเสนอต่อการประชุม ASEM II       ส่วนการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 
เอเซีย - ยุโรป ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2542 ณ ประเทศเยอรมนี 
          การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหราชอาณาจักร
          ได้สนทนาหารือข้อราชการในเรื่องต่าง ๆ  และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน    โดยสหราช
อาณาจักรรับที่จะให้การสนับสนุนประเทศไทยในการดำเนินมาตรการการตามกรอบ IMF  และการ  
พิจารณาอนุมัติเงินกู้  งวดที่ 3  ในเดือนมีนาคม 2541     รวมทั้งจะให้การสนับสนุนด้านวิชาการใน 
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจแก่ไทยด้วย
          การชี้แจงภาวะเศรษฐกิจไทยแก่นักลงทุนอังกฤษ  
          ภายหลังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและการปรับโครงสร้าง   นักลงทุนได้แสดง 
ความสนใจเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงิน   และเห็นว่าไทยได้ปรับปรุงไปในแนว
ทางที่ถูกต้องแล้ว
          การเข้าพบประธานธนาคาร Hong Kong and Shanghai Banking Corporation  (HSBC) 
          HSBC  สนใจที่จะเข้าซื้อกิจการธนาคารของไทย   และจะเสนอข้อเสนอแก่ทางการไทย   ซึ่ง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้แนะนำให้ดำเนินการกับธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป  
          การเข้าพบกับ British Airways 
          British Airways แสดงความสนใจในการเป็น Strategic Partner กับการบินไทย และจะรับส่ง
คณะผู้แทนมาเสนอข้อคิดเห็นในกรุงเทพ ฯ ภายในสองสัปดาห์

รับทราบรายงานการใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตามมาตรการจูงใจในการประหยัด
ในภาครัฐของส่วนราชการต่าง ๆ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงาน สรุปได้ดังนี้
สำนักนายกรัฐมนตรี
- สำนักเลขาธิคณะรัฐมนตรี เดือนกันยายน 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือนสิงหาคม
2540 20.87% และใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น 14.08% เดือนตุลาคม 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือน
สิงหาคม 2540 2.22% และใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น 27.90% เดือนพฤศจิกายน 2540 ใช้ไฟฟ้า
ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2540 10.67% และใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น 0.14%
- สำนักงาน ก.พ. เดือนกันยายน 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือนสิงหาคม 2540
37.97% และใช้น้ำประปาลงลง 6.28%
- สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก เดือนกันยายน 2540
ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือนสิงหาคม 2540 25.42% (น้ำประปาใช้ร่วมกับสำนักเลขาธิาการนายกรัฐมนตรี)
- สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เดือนพฤศจิกายน 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือนสิงหาคม 2540 8.05% และใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น
17.17%
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ เดือนตุลาคม 2540 ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2540
0.52% และเดือนพฤศจิกายน 2540 ใช้น้ำประปาลดลงจากเดือนตุลาคม 2540 2.81%
- กรมวิเทศสหการ เดือนตุลาคม 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือนสิงหาคม 2540  19.20%
และใช้น้ำประปาลดลง 26%
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เดือนพฤศจิกายน 2540 ใช้ไฟฟ้าลดลงจากเดือน
ตุลาคม 2540 10.16% และใช้น้ำประปาลดลง 10.17%

          1. เห็นชอบในหลักการการจัดตั้งกลไกค้ำประกันสินเชื่อเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง   ตามที่สำนัก   
งานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เสนอ และมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ  
ไทย (ธนส.)  รับไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงกลไกที่ ธสน.  มีอยู่ขณะนี้ให้มีประสิทธิภาพ  บังเกิดผลใน
ทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด   และให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจไปพิจารณา
ด้วยดังนี้ 
              1.1 ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้ที่เป็น 
เงินตราต่างประเทศ จำเป็นต้องแก้ไขโดยด่วนส่วนปัญหาที่ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบัน 
มีสาเหตุที่สำคัญ 2 ประการ คือ การขาดสภาพคล่องของธนาคาร และความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ   ซึ่งใน   
เรื่องการขาดสภาพคล่องของธนาคาร  นั้น   ขณะนี้กระทรวงการคลัง และ ธสน. แก้ไขปัญหา   โดยคาดว่าจะ
สามารถคลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้ภายในเดือนมีนาคม 2541สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องความเสี่ยงในการ 
ปล่อยสินเชื่อ นั้น  ให้ ธสน.  นำหลักการการจัดตั้งกลไกค้ำประกันสินเชื่อ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่ง 
เสริมการลงทุน เสนอ ไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงกลไกที่ ธสน. มีอยู่ขณะนี้ให้เหมาะสมและมีประสิทธิ
ภาพยิ่งขึ้น โดยให้เร่งรัดดำเนินการให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจในการปล่อย 
สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
              1.2 กลุ่มเป้าหมายหลักในการดำเนินการเรื่อง กลไกค้ำประกันสินเชื่อควรครอบคลุมถึงการให้สิน   
เชื่อเพื่อการผลิตผลิตผลทางการเกษตรเพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น ฝ้าย และถั่วเหลือง ด้วย   
          2. ให้กระทรวงการคลังถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนในการติดตาม     กำกับดูแลให้การดำเนิน  
การเรื่องกลไกค้ำประกันสินเชื่อมีผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว       พร้อมกับเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพ
คล่องของธนาคารพาณิชย์ด้วย  
          ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

          1. เห็นชอบการปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8  ในส่วนของแนวทางการ 
พัฒนาและแนวทางการดำเนินงานไปสู่การปฏิบัติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ    
และสังคมแห่งชาติ เสนอ  ยกเว้นในส่วนของเป้าหมายเศรษฐกิจส่วนรวม ให้รอทบทวนสถานการณ์ให้มี
ความชัดเจนกว่าปัจจุบัน รวมถึงผลการประเมินเศรษฐกิจไทยร่วมกับ IMF ก่อน
          2. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับประเด็นความเห็นของ
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
              2.1 สถานการณ์เศรษฐกิจในยังมีความผันผวน ไม่สามารถสรุปทิศทางที่ชัดเจนได้  นอกจาก
นั้นรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการหารือกับ IMF     จึงไม่เหมาะสมที่จะประกาศตัวเลขเป้าหมายอัตราการ 
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะนี้ เพราะอาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้อง 
              2.2 กรอบแนวทางการปรับแผนพัฒนา ฯ  ฉบับที่ 8       มีความเหมาะสมเพราะเป็นการส่ง 
สัญญาณถึงนโยบายของชาติในระยะยาวใน 4 เรื่องที่สำคัญ   คือ  การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ  
การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก การพัฒนาคนและสังคมเพื่อ
ลดผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ และการปรับระบบบริหารจัดการเพื่อพัฒนาประเทศ
              2.3 ในขั้นตอนการนำกรอบแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 8   ซึ่งปรับปรุงแล้วนี้ไปปฏิบัติ   ควรเน้น 
รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ  โดยมองในระยะยาวว่าควรจะต้องปรับอย่าง
ไร เช่น การปรับปรุงผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น   มอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ   
และสังคมแห่งชาติ รับไปศึกษาและเสนอนโยบายระยะยาว    ส่วนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายใต้ 
คณะกรรมการปรับโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนั้น  อาจจะมีข้อจำกัดไม่สามารถ 
มองระยะยาวได้ เพราะมีภารกิจจำกัดอยู่ในกรอบแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น
          ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ
 

          อนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เรื่อง การแก้ไขปัญหาน้ำมันพืชขาด 
แคลน  โดยมอบให้คณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น   ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี  (นายปัญจะ   
เกสรทอง)  เป็นประธาน    รับข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการพิจารณากำหนด
มาตรการแก้ไข โดยการใช้มาตรการชะลอการส่งออกน้ำมันปาล์ม   โดยจำกัดโควตาการส่งออก  หรือเก็บ   
ค่า  Premium     หรือการใช้นโยบายน้ำเข้าน้ำมันปาล์มโดยเสรี ไปกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการขาด 
แคลนน้ำมันพืชที่เหมาะสม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน  

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตามกลุ่มสินค้าเปรียบเทียบ
ระหว่างปีงบประมาณ 2539 และ 2540 ตามที่กระทรวงการคลังรายงาน โดยสรุปคือ  มีการนำเข้าสินค้า
ฟุ่มเฟือยตามกลุ่มสินค้าทั้งสิ้น 17 รายการ  โดยในปีงบประมาณ 2539  มีมูลค่ารวม  18,288,035,238
บาท ส่วนปีงบประมาณปี 2540 มีมูลค่ารวม 18,106,502,489 บาท โดยสินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 3 อันดับ
แรก ได้แก่ กลุ่มสินค้ากระเป๋าหนังและเข็มขัด เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.26 รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 58.81  น้ำหอมและเครื่องสำอางค์  เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.26   สำหรับสินค้าที่นำเข้าลดลง 3 อันดับ
แรก ได้แก่ กลุ่มสินค้าผ้าทอทำด้วยขนสัตว์  ลดลงร้อยละ 67.46 ดอกไม้ ลดลงร้อยละ 17.42  ไวน์ ลดลง
ร้อยละ 12.46 เทียบการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยรวมทุกประเภทแล้วมีอัตรานำเข้าปีงบประมาณ 2540  ลด
ลงจากปีงบประมาณ 2539 ร้อยละ 0.99 

          รับทราบคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ 39/2541 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541 แต่งตั้ง นายอำนาจ  สอนอิ่ม   
สาตร์  เป็นข้าราชการการเมือง  ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายโพธิพงษ์  ล่ำซำ) 
ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2541 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม รวม 15 ราย   โดยมี นายปรากรม  วุฒิพงศ์    
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานกรรมการ   ทั้งนี้   ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นไป 
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการกับผู้แทนสมาชิกมูลนิธิเกษตร
กรไทย - สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (นาย  
วิรัช รัตนเศรษฐ) ประธานคณะกรรมการร่วมฯ เสนอ        โดยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ
ประชาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2540 แล้ว ดังนี้ 
          1. มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 24/2541 ลงวันที่ 14 มกราคม 2541 แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมฯ    
จำนวน 40 ราย  โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวิรัช รัตนเศรษฐ) เป็นประธาน  
กรรมการ 
          2. คณะกรรมการร่วมฯ ได้จัดประชุม ครั้งที่ 1/2541 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2541 เพื่อรับทราบและ
พิจารณาแก้ไขปัญหาของเกษตรกร รวม 4 เรื่อง คือ
              2.1 ปัญหาหนี้สินเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร
              2.2 โครงการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูชีวิตเกษตรกร
              2.3 การพัฒนาสหกรณ์และพระราชบัญญัติสหกรณ์ 
              2.4 ปัญหาที่ดิน ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม
          3. คณะกรรมการร่วมฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังนี้
              3.1 คณะอนุกรรมการกลุ่มปัญหาที่ดิน  ป่าไม้  และสิ่งแวดล้อม  จำนวน 44 ราย  โดยมีรัฐมนตรี 
ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวิรัช รัตนเศรษฐ) เป็นประธานอนุกรรมการ
             3.2 คณะอนุกรรมการกลุ่มปัญหาหนี้สินเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร จำนวน 35 ราย   โดยมี 
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) เป็นประธานอนุกรรมการ 
             3.3 คณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการร่วมระหว่างภาคราชการกับผู้แทนสมาชิกมูลนิธิเกษตรกร 
ไทย - สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน จำนวน 24 ราย  โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการ  
เมือง (นายอำนวย ปะติเส) เป็นประธานอนุกรรมก
             3.4 คณะอนุกรรมการพัฒนาสหกรณ์ จำน 25 ราย    โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร 
และสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) เป็นประธานอนุกรรมการ
          4. ให้เร่งรัดคณะกรรมการ  อนุกรรมการ  ที่ได้รับแต่งตั้งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบ 
หมายต่อไป  กับทั้งขอให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือเร่งดำเนินการ 
ต่อไป

          1. อนุมัติการกำหนดเงินเดือนของ  นายประภัสร์  จงสงวน   ผู้อำนวยการองค์การรถไฟฟ้ามหานคร 
ในอัตราขั้นต้นของผู้อำนวยการ ฯ คือเดือนละ 104,500 บาท 
          2. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาทบทวนอัตราเงินเดือน ขั้นต่ำ - ขั้นสูง ของผู้อำนวยการ   
องค์การรถไฟฟ้ามหานครใหม่  โดยเทียบเคียงกับรัฐวิสาหกิจที่มีลักษณะการดำเนินงานคล้ายคลึงกัน   และ     
ในกรณีที่จำเป็นให้องค์การรถไฟฟ้า ฯ     พิจารณาปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนพนักงานระดับล่างให้สอด  
คล้องกับเงินเดือนผู้อำนวยการที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขด้วย      พร้อมทั้งให้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่  
อนุมัติยกเว้นให้รัฐวิสาหกิจบางแห่งไม่ต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ  และข้อบังคับของกระทรวงการคลัง  และ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจใดบ้างที่จำเป็นต้อง
ได้รับการยกเว้นดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง  
          ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

          คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติหลักการ  
          1. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ  
พ.ศ. 2540 (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบหรือทบทวนการขอขยายระยะเวลาในการไม่เปิดเผย 
ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ)
          2. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
พ.ศ. 2540  (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล    ซึ่งจะต้องจัดทำบัญชีแสดง  
การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นด้วย)
          3. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ 
พ.ศ. 2540 (กำหนดบุคคลผู้มีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลแทนผู้เยาว์  คนไร้ความสามารถ  คนเสมือนไร้ความ  
สามารถ หรือเจ้าของข้อมูลที่ถึงแก่กรรม) 
          ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนิน  
การต่อไปได้

          เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2540 เรื่อง ข้อบังคับเกี่ยวกับ 
สวัสดิการของพนักงานองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ    ในส่วนที่เกี่ยวกับการขยายการให้  
สวัสดิการการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ      โดยให้กระทรวงการคลังเป็น 
หน่วยงานหลักดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแทนสำนักงบประมาณตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมาย 
ไว้แต่เดิม ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาด้วย

          รับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (27 มกราคม 2541) เกี่ยวกับแนวทาง 
การแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน  และอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีป้องกันและ  
แก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องด้านแรงงาน  ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ   สรุปได้
ดังนี้
          1. กระทรวงแรงงาน ฯ ได้จัดทำแถลงการณ์  ชี้แจง   ประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันและแก้ไข  
ปัญหาแรงงานให้นายจ้างและลูกจ้างได้ทราบ 
          2. ผู้แทนสภาองค์การนายจ้าง  สภาองค์การลูกจ้าง     และกระทรวงแรงงาน ฯ  ได้ปรับปรุงแนว  
ปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2539  ให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันและได้
ลงนามร่วมกันแล้ว
          3. กระทรวงแรงงาน ฯ ได้จัดประชุมผู้นำสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้าง  ตลอดจน  
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหา     และร่วมกันหาแนวทางมาตรการเรียกร้องด้านแรง 
งาน       ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการไตรภาคีพิเศษขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งและข้อ 
พิพาทร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาวะวิกฤต  

          รับทราบตามสรุปวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2541
ตามที่ประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เสนอ

          รับหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในท้องที่ตำบลโพนทอง 
อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้แก่นายเปรื่อง ยลวิลาศ พ.ศ. ....  และให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ 
พิจารณา ตามมติคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร

          รับหลักการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน 
จังหวัดนครปฐม เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าสาธารณะ  บริเวณด้านทิศตะวันตกของกรุงเทพมหานคร 
พ.ศ. .... และในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง  กรุงเทพมหานคร  เพื่อก่อสร้างสถานีขนส่ง 
สินค้าสาธารณะ บริเวณด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร พ.ศ ....  และให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ
พิจารณา ตามมติคณะกรรมการสานงานสภาผู้แทนราษฎร

          รับหลักการร่างพระราชบัญญัติการขุดดิน พ.ศ. .... และให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ตามมติ
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการยกเว้นหรือคืนค่าธรรมเนียมที่
เรียกเก็บจากสินค้าทุ่มตลาดหรือสินค้าที่ได้รับการอุดหนุนที่นำเข้ามาเพื่อผลิต  ผสม   ประกอบหรือบรรจุ
เป็นสินค้าส่งออก  พ.ศ. .... (เพื่อออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับใหม่    และยกเลิกประกาศกระทรวง
พาณิชย์ว่าด้วยวิธีการขอคืนค่าธรรมเนียมพิเศษที่เรียกเก็บจากสินค้าทุ่มตลาดหรือสินค้าที่ได้รับการ
อุดหนุนที่นำเข้ามาเพื่อผลิต ผสม ประกอบ หรือบรรจุเป็นสินค้าส่งออก พ.ศ. 2540 ลงวันที่ 18 เมษายน 
2540   โดยกำหนดหลักการ  ไว้เป็นการทั่วไปว่า  ในกรณีที่ได้มีการกำหนดให้สินค้าใดเป็นสินค้าที่ต้อง
เสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้า และได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษไว้เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด
หรือการอุดหนุน    ก็ให้ผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวเพื่อผลิต    ผสม     ประกอบหรือบรรจุเป็นสินค้าส่งออก
ได้รับการยกเว้นหรือได้รับคืนค่าธรรมเนียมพิเศาโดยนัยเดียวกันกับมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติ
ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482  และให้ครอบคลุมถึงการนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออกตามมาตรา   36   
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน  พ.ศ. 2540 ด้วย โดยไม่ต้องออกประกาศยกเว้นหรือให้คืนค่า
ธรรมเนียมพิเศษเป็นรายสินค้า)   ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการปฏิรูประบบบริหารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาคเอกชน  
ตามที่สำนักงาน  ก.พ. เสนอ  โดยใช้มาตรการภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจภาคเอกชน และปรับปรุง
บริการของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้นักวิจัยชาวต่างประเทศได้รับความสะดวก
และรวดเร็วยิ่งขึ้น  โดยในการเพิ่มบริการของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ให้มีการ
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้บริการของศูนย์บริการวีซ่า  และใบอนุญาตทำงานครอบคลุม
ถึงนักวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  โดยให้รวมถึงบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร   
ซึ่งอยู่ในความอุปการะ และเป็นส่วนแห่งครัวเรือนด้วย
 

          รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ปรากฎจากสื่อมวลชน  ระหว่าง
วันที่ 20 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม 2540  ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี   ทั้งนี้  สำนักโฆษกได้ติด
ข่าวสาระ และเก็บข้อมูลรวบรวมเพื่อจะประเมินดูว่า มีการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล และมีการ
เผยแพร่ข่าวสารออกสู่ประชาชนมากน้อยเพียงใด  ซึ่งในเนื้อหาที่ปรากฎอยู่อาจมีบางส่วนที่หน่วย
ราชการได้ดำเนินการแต่ไม่ปรากฎออกมาเป็นข่าวหรือไม่มีการเผยแพร่หรือมีการเผยแพร่ แต่เจ้าหน้าที่
ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ซึ่งจัดได้มีการประเมินผลต่อไป  และจากการประเมินในเบื้องต้นทราบ
ว่ามีการเผยแพร่ข่าวสาร การดำเนินงานของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจมากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาได้แก่  
การดำเนินงานด้านต่างประเทศ มาตรการทางสังคม และงานด้านการศึกษา และการปฏิรูปการเมือง    
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รายงาน