คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  (นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล)  รับร่างพระราช 
บัญญัติสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการพิจารณามาตรการ
ทางกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติ  ของกระทรวงยุติธรรม       โดยให้เชิญผู้แทนสำนักงานคณะ  
กรรมการกฤษฎีกาเข้าร่วมหารือด้วย  แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า  ทั้งนี้  ให้รับข้อสังเกตของ
คณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การบัญญัติให้มีหมวด 3 การกำหนดสิทธิให้คนต่างด้าว  นั้น  เมื่อเทียบเคียงกับ  
บทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .....  อาจจะทำให้เกิดการ  
สับสนได้เนื่องจากมีกฎหมาย 2 ฉบับ ที่กำหนดเรื่องในทำนองเดียวกัน ประกอบกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่ม  
เติมประมวลกฎหมายที่ดินดังกล่าว  คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แก้ไขปรับปรุงหลักการให้กว้างขึ้น    จึงทำให้ไม่สอด  
คล้องกัน นอกจากนี้การกำหนดให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติมีอำนาจกำหนดประเภทธุรกิจของคนต่างด้าว   
ที่สามารถทำสัญญาเช่า อาจเป็นการจำกัดสิทธิของคนต่างด้าวมากขึ้น  รวมทั้งการกำหนดให้ที่ดินที่คนต่างด้าว  
จะพึงเช่าได้ไว้เพียง 2 ประเภท นั้น อาจไม่สอดคล้องกับความประสงค์ของกระทรวงการคลัง  สมควรที่จะขยายให้  
ครอบคลุมถึงที่ดินเพื่อธุรกิจบริการด้วย   ดังนั้น   เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว   จึงเห็นควรพิจารณาว่าจะสมควรตัด
หมวด 3 ออกทั้งหมดหรือไม่ อย่างไร

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2541  และให้ 
ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
          1. เห็นชอบแผนปฏิบัติการเร่งรัดการสร้างเศรษฐกิจพอเพียงและประชาสังคม และแผนงานโครง 
การ ตามที่มูลนิธิพัฒนาไทเสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ   
จำเป็น ปีงบประมาณ 2541 จำนวนเงิน 40,203,000 บาท หรือจากงบกลาง รายการค่าใข้จ่ายในการ  
บรรเทาผลกระทบทางสังคมจากวิกฤตเศรษฐกิจ จำนวนเงินดังกล่าว สนับสนุนมูลนิธิ ฯ  ให้ดำเนินการ               
ตามแผนปฏิบัติการ    และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ ประสานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ 
ต่อไป
          2. สำหรับการดำเนินงานโครงการการพัฒนาศักยภาพศูนย์ศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง  
และประชาสังคม  ตามแผนปฏิบัติการ ฯ ให้ประสานงานเกี่ยวกับพื้นที่ที่จะดำเนินงานกับการสร้างศูนย์ 
สาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโครงการ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ตามแนวพระ 
ราชดำริที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางสังคม จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อให้ 
ศูนย์สาธิต ฯ มีการใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงจากประชาชน  ส่วนการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเร่ง 
รัดการสร้างเศรษฐกิจพอเพียงและประชาสัมคม ให้ประสานเชื่อมโยงแนวคิดและการปฏิบัติงานของทุก    
ส่วนราชการ     ทั้งที่กำลังดำเนินการอยู่และจะดำเนินการเกี่ยวกับโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนว 
พระราชดำริเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการเรียนรู้ และการประยุกต์ใช้ร่วมกัน

          คณะรัฐมนตรีมีมติ 
          1. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นตกลงประนีประนอมยอมความกับบริษัทเทพอินทนนท์ จำกัด   
เพื่อให้คดีความยุติลงโดยไม่มีฝ่ายใดต้องรับผิดชอบ และให้ทำสัญญาก่อสร้างบริษัทดังกล่าว เพื่อทำการ 
ก่อสร้างอาคารศูนย์หัวใจสิริกิติ์ได้ต่อไปโดยวิธีพิเศษเป็นกรณีพิเศษ ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ โดย   
ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535  ในเรื่อง การ     
ทำสัญญาจ้าง   การควบคุมงานก่อสร้าง    การตรวจ    การจ้าง    และการดำเนินการในขั้นตอนอื่น ๆ   
ต่อไป  ตามความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  (คณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ)  ทั้งนี้    ให้     
ทบวงมหาวิทยาลัยติดตามผลการดำเนินการ  รวมทั้งผลการสอบสวนของคณะกรรมการในการหาตัวผู้  
กระทำการทุจริตในเรื่องนี้ด้วย
          2. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณปี  2542  -  2544  ในวงเงิน 
457,950,000 บาท เพื่อเป็นค่าก่อสร้างอาคารศูนย์หัวใจสิริกิติ์  โดยจ่ายจากงบประมาณปี 2541  ผูก   
พันงบประมาณปี 2542 และปี 2543 - 2544  ส่วนรายการระบบคอมพิวเตอร์จำนวน 1 ชุด  ในวงเงิน  
12,050,000 บาท   ให้ขอทำความตกลงกับคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์
ก่อน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่ง 
ชาติ พ.ศ. 2541 (เพื่อยุบเลิกคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  
16 ธันวาคม 2540  และให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า  "คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่ง  
ชาติ" เรียกโดยย่อว่า กอช.,  จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการ ฯ  เรียกโดยย่อว่า สอช.,  ให้มีผู้อำนวยการ  
สอช. เป็นผู้บริหารงานและผู้บังคับบัญชาใน สอช. รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน)  ตามที่กระทรวง 
อุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้     
โดยให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฯ  ให้รับผิดชอบเกี่ยวกับ  
การบริหารแผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม และการให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใช้หน่วยงาน 
เดิมทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ ฯ ต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงหมวดเงินงบประมาณรายจ่าย  (โครงการจัดตั้งตลาดกลาง 
ยางพารา จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 
          1. อนุมัติให้กรมส่งเสริมการเกษตรเบิกจ่าย รายการก่อสร้างตลาดกลางยางพารา  จังหวัดสุราษฎร์  
ธานีในหมวดค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ตามความเห็นของสำนักงานงบประมาณ  โดยให้ก่อหนี้ผูกพัน  
งบประมาณปี 2541  ในวงเงิน 2.24 ล้านบาท   และให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ    กับให้  
กระทรวงการคลังพิจารณากันเงินงบประมาณไว้เบิกเหลื่อมปี     สำหรับงบประมาณที่จะดำเนินการในปีงบ   
ประมาณ 2542  ที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรไว้แล้ว ให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการก่อสร้างตามที่ได้รับ  
งบประมาณไว้แล้ว
          2. ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นผู้เบิกจ่ายเงินงบประมาณ  
แทนกรมวิชาการเกษตร   โดยให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง  ด่วนที่สุด  ที่  กค 0526.7/ว120 
ลงวันที่ 30 กันยายน 2539 เรื่อง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณแทนกัน     ส่วนการก่อสร้างตลาดกลางยาง  
พารา ให้กรมวิชาการเกษตรปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535  และที่แก้  
ไขเพิ่มเติมในการจัดหาผู้รับจ้างและวิธีจ้าง 
          3. ให้สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด ดำเนินการก่อสร้างตลาดกลางยางพาราเอง ตามแบบที่กรมวิชา      
การเกษตรกำหนดและเป็นผู้ให้คำปรึกษาในรายละเอียดของแบบก่อสร้าง      โดยให้ก่อสร้างบนพื้นที่ของ  
สหกรณ์สุราษฎร์ธานี ฯ  บริเวณสามแยกบ้านหนองขรี  หมู่ที่ 3  ตำบลหนองไทร   อำเภอพุนพิน   จังหวัด   
สุราษฎร์ธานี      และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จให้กรรมสิทธิ์สิ่งก่อสร้างเป็นของกรมวิชาการเกษตรเพื่อให้   
การดำเนินตามโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การบริหารงานและการจัดการของกรมวิชาการเกษตร  และให้  
สหกรณ์สุราษฎร์ธานี ฯ อนุญาตให้กรมวิชาการเกษตรใช้พื้นที่ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 30 ปี

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมประมงจ่ายเงินชดเชยเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับ 
ผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดเชิงพาณิชย์   จำนวน    
143  ราย  เป็นเงินจำนวน 24,510,000 บาท  เป็นกรณีพิเศษ  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
เสนอ โดยให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง

          คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ในฐานะประธานคณะกรรมการ
พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ รับโครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ของการนิคม  
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ไปพิจารณาในคณะกรรมการ ฯ ให้ได้ข้อยุติภายใน 1 สัปดาห์   โดย 
ให้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมด้วย     หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่  
กระทรวงอุตสาหกรรม ก็อนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ  ทั้งนี้  ให้กระทรวง
การคลังประสานกับ OECF เพื่อขอเลื่อนกำหนดระยะเวลาการเจรจาเงินกู้เพื่อดำเนินการโครงการนี้ด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ  เห็นชอบตาม 
มติคณะกรรมการปรับโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ครั้งที่ กปพ.4/2541 เกี่ยวกับการ
จัดสรรเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรม และแนวทางการจัดตั้งกองทุนพัฒนานวัตกรรม ตาม
ที่คณะกรรมการปรับโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (กปพ.) เสนอ

         คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบตามที่ 
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานความก้าวหน้าการเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของ
ชาติ รวม 11 ฉบับ

         คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบตามที่    
กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) รายงานแผนการใช้เงินกู้ ADB 
Co - finance ในการให้สินเชื่อแก่ผู้ส่งออกโดยดำเนินการได้ 3 แนวทาง  คือ  ให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการนำเข้า
วัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้าส่งออก,  เป็นแหล่งเงินเพื่อสนับสนุนการรับซื้อตั๋วส่งออกของธนาคารพาณิชย์  
ทั้งตั๋วสินค้าออกที่มี L/C และไม่มี L/C คุ้มครอง และให้สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ส่งออกจัดทำสินค้า
ที่ได้รับคำสั่งซื้อมาแล้ว สำหรับยอดการใช้เงินขณะนี้อยู่ ณ ระดับ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งค่อนข้างต่ำ 
เนื่องจากสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ขณะนี้มีเงินเหลือมาก  ธสน. จึงได้เร่งการใช้วงเงินดังกล่าวอย่างเต็มที่ 
และคาดว่าจะใช้วงเงินหมดภายในสิ้นปีนี้ หากระบบธนาคารพาณิชย์มีความต้องการเงินเสริมสภาพคล่องระดับใกล้เคียง
กับช่วงครึ่งปีแรก 

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ  รับทราบ    
ตามที่ผู้แทนกรมตำรวจ  กระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจโท สุเทพ  ธรรมรักษ์) รายงานความก้าวหน้า   
การแก้ไขปัญหาการโจรกรรมสินค้าระหว่างการขนถ่ายสินค้าจากเรือเล็กเพื่อนำขึ้นเรือใหญ่  ครั้งที่  5  
โดยให้กระทรวงมหาดไทย  (กรมตำรวจ)   รับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินการป้อง  
กันและปราบปรามการโจรกรรมสินค้าดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งสรุปผลการดำเนินงาน
ให้กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะ ๆ เพื่อรับฟังความเห็นหรือข้อเสนอแนะ
เพิ่มเติม เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปดำเนินการต่อไปด้วย

         คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบตามที่ 
กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน ประกอบด้วย  ผลการดำเนินการตาม   
พระราชกำหนดฟื้นฟูสถาบันการเงิน รวม 4 ฉบับ  และแผนงานและความคืบหน้าขององค์กรต่าง ๆ ในการแก้ 
ไขปัญหาสถาบันการเงิน

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ อนุมัติให้  
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท Keloil Sendirian Berhad  เพื่อ 
ดำเนินธุรกิจก๊าซหุงต้มในประเทศมาเลเซีย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ

        คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบรายงาน   
ผลความคืบหน้าของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการประนอมหนี้ของสถาบันการเงิน ตามที่ธนาคารแห่ง  
ประเทศไทย (ธปท.) เสนอ  และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงเพิ่มเติม  ทั้งนี้  ให้หน่วยงานที่เกี่ยว 
ข้องเร่งรัดการปฏิบัติงานส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมชลประทานเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างจากสัญญา โครงการปรับปรุงปาก 
แม่น้ำโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ในวงเงิน 26,701,466.80 บาท ตามที่ขอตกลงไปได้ โดยให้กรมชลประทาน    
เจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2541 ของกรมชลประทาน  และให้ทำความตกลงกับ
สำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมเจ้าท่าขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อจ้าง
เหมาก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นร่องน้ำปราณบุรี  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ในวงเงิน 156,300,000  
บาท   โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541   และผูกพันงบประมาณปี 
พ.ศ. 2542 - 2543 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแบบรูปรายการก่อสร้าง  
สะพานและถนนเชื่อมถนนรามคำแหงกับซอยลาดพร้าว 130 ในวงเงิน 23,750,000 บาท  โดยให้เบิกจ่ายจาก 
งบประมาณปี 2541 และผูกพันงบประมาณปี 2542 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
          1. ให้ก่อสร้างท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต ในวงเงิน 191,991,000 บาท โดยให้เบิกจ่าย
จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  โดยโอนจากรายการก่อสร้างท่าเทียบเรืออ่าว
ปอและรายการปรับปรุงถนนทางเข้าสวนสาธารณะไร่แม่ฟ้าหลวงมาสมทบ กับให้ใช้จ่ายจากงบประมาณ
ปี พ.ศ. 2542 และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2543
          2. ให้ก่อสร้างอนุรักษ์และปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์หาดทรายแก้ว    เทศบาลตำบลพิบูลมังสาหาร  
จังหวัดอุบลราชธานี ในวงเงิน 13,953,732 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.   
2541  โดยโอนจากรายการปรับปรุงถนนทางเข้าสวนสาธารณะไร่แม่ฟ้าหลวงมาสมทบ    และให้ใช้จ่าย
จากงบประมาณปี พ.ศ. 2542

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) ดำเนินการบรรจุ
ข้าราชการอัตราใหม่ จำนวน 39 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2541 เป็นต้นไป  โดยให้เกลี่ยอัตราว่าง 
ที่มีอัตราเงินเดือนมากำหนด และหากดำเนินการแล้วยังไม่เพียงพอ ให้สำนักงบประมาณพิจารณา  ทั้งนี้  
การดำเนินการดังกล่าวให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 โดยควบคุมค่าใช้  
จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐให้อยู่ในกรอบงบประมาณปี พ.ศ. 2541 และ 2542 อย่างเคร่งครัด  ตามความ 
เห็นของสำนักงาน ก.พ. 

         คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างระบบ
กำจัดขยะมูลฝอย โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด  โดย  
ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2542 
- 2543 รวม 3 รายการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
         1. ค่าก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลตำบลแม่สอด    จำนวน 30,198,000 บาท 
         2. ค่าก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองปราจีนบุรี จำนวน 35,633,000 บาท 
         3. ค่าก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองหนองคาย จำนวน 66,985,193 บาท