ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 685 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13681 - 13700 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13681 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 ครั้งที่ 4/2561 | ดศ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและได้พิจารณาประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) (ร่า) และพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. .... ๒. มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13682 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 | ดศ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖
กันยายน ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ และครั้งที่ ๕/๒๕๖๑
เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ซึ่งผ่านการรับรองจากคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติแล้ว ประกอบด้วยเรื่องเพื่อทราบ
จำนวน ๖ เรื่อง และเรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๔ เรื่อง
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เช่น แนวทางการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาดาวเทียม THEIA
การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสำนักงานประสานงานภูมิภาค (Regional Liaison
Office : RLO) ของสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติที่ประเทศไทย
และความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติได้มีมติรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ
ตามขั้นตอนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13683 | ร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562)] | นร | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13684 | รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560 | พม | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่ครอบคลุมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ในที่อยู่อาศัยที่ช่วยส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตอยู่อย่างมั่งคงและมีศักดิ์ศรี ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน การจัดทำแผนช่วยเหลือผู้สูงอายุเมื่อเกิดภัยพิบัติ สุขอนามัยผู้สูงอายุ กรอบแนวคิดเรื่องการสูงวัยอย่างมีพลัง การรายงานสถานการณ์ทั่วไป สถานการณ์เด่นปี ๒๕๖๐ และงานวิจัยเพื่อสังคมสูงอายุ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะ โดยบูรณาการให้สอดคล้องกับมาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติเรื่องสังคมสูงอายุ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. และข้อสังเกตของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในข้อเสนอแนะเชิงนโยบายควรมีการดำเนินการเกี่ยวกับอัตราการเพิ่มของประชากรที่ลดลงด้วย เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมสูงอายุในประเทศไทย และควรจำแนกสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยตามภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่จะสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของประชากรกับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และควรมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบ โอกาส และสิ่งท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์ผู้สูงอายุกับการขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13685 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะห่างในการตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบกับโรงงานน้ำตาล ต้องได้รับหนังสือยินยอมจากโรงงานน้ำตาลในพื้นที่นั้น รวมทั้งกำหนดให้ผู้ที่จะขอตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแล้ว ต้องดำเนินการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานภายในห้าปีนับแต่วันที่ได้รับการรับรอง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะห่างในการตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบกับเขตพื้นที่ของผู้ที่จะขอตั้งโรงงานน้ำตาลหรือเขตพื้นที่ของผู้ที่จะขอตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย อาจมีผลกระทบและลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และการที่ร่างประกาศนี้กำหนดห้ามเฉพาะโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบไม่ให้ตั้งใกล้กับโรงงานน้ำตาลที่ได้รับใบอนุญาตที่มีอยู่เดิม แต่ไม่ได้กำหนดห้ามโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไม่ให้ตั้งใกล้กัน สมควรพิจารณาว่าประเด็นนี้มีความครบถ้วนถูกต้อง และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมตามมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทยปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐ หรือไม่ อย่างไรก็ดี เห็นว่าประเด็นดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ในชั้นการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13686 | ขออนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2533 โดยให้รัฐบาลสาธารณรัฐกัวเตมาลาตั้งที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย แทนการให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย | กต | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง รัฐบาลกัวเตมาลาขอความเห็นชอบในการให้สถานเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศญี่ปุ่น มีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย) เฉพาะในส่วนที่ให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย เป็น ให้รัฐบาลสาธารณรัฐกัวเตมาลาตั้งที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13687 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร) | ยธ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13688 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562)] | นร | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๒ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....) และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ให้กระทรวงการคลังสนับสนุนการจัดรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13689 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) | สผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13690 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงานศาลปกครอง) | ศป | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13691 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13692 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง) | ลต | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13693 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562)] | นร | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยไม่ขัดข้องกับการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมดูแลมิให้เกิดการสวมสิทธิไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ เนื่องจากได้มีการเพิ่มประเภทที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีผลให้ไม้มีค่าที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวเป็นไม้ที่มิใช่ไม้หวงห้าม ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13694 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) | สม | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13695 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน) | ผผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13696 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) | ตผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13697 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2560 | นร09 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕๖๐ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเป็นประเด็นข้อหารือเกี่ยวกับคำสั่งทางปกครอง หลักการมีส่วนได้เสียและหลักความเป็นกลางในการพิจารณาทางปกครอง การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง การก้ไข การเยียวยา และการเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง ตลอดจนการนับระยะเวลาตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ๒. ผลการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เช่น (๑) จัดวิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (๒) เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประชาชนให้กับประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ และ (๓) สัมมนาร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง รวมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เช่น (๑) ควรมีการศึกษาและทบทวนปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเฉพาะในส่วนที่พระราชบัญญัตินี้ยังมิได้บัญญัติไว้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติที่ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ และ (๒) ควรมีการจัดให้มีการอบรมบุคลากรในภาครัฐเพื่อพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครองให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13698 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกรมสรรพากรได้นำข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มาประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการใช้บังคับกฎหมายในระยะแรก ๆ โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้และให้คำปรึกษาในเรื่องการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคาโอน (TP documentation) เป็นสำคัญ และได้มีการประกาศกำหนดแบบรายงานมาตรฐานอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีรายละเอียดที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดปัญหาในการตีความ และกรณีร่างมาตรา ๗๑ ทวิ และร่างมาตรา ๗๑ ตรี ซึ่งเป็นบทบัญญัติในส่วนของภาษีเงินได้ย่อมไม่นำมาใช้บังคับกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมในการยกเว้นหน้าที่การจัดทำเอกสารให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันภายในประเทศที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราเท่ากัน และไม่มีผลขาดทุนจากการประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีหรือผลขาดทุนสะสมยกมาจากกรอบระยะเวลาบัญชีก่อน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13699 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตเห็นสมควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ และข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดโครงสร้างส่วนราชการภายในตามร่างมาตรา ๑๐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรคำนึงถึงบทบาท หน้าที่ และหลักดุลยภาพของการบริหาร Checks and Balances ระหว่างฝ่ายบริหารคือ อธิการบดี และฝ่ายกำกับดูแลด้านนโยบายคือ สภาสถาบัน และควรกำหนดให้มี “สำนักงานสภาสถาบัน” ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ของสภาสถาบันเป็นการเฉพาะในลักษณะเดียวกันกับสำนักงานอธิการบดีซึ่งเป็นหน่วยธุรการของฝ่ายบริหาร เพื่อมิให้เกิดปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และกรณีที่สถาบันอาจจัดการศึกษาหรือดำเนินการวิจัยร่วมกับสถานศึกษาชั้นสูง หรือสถาบันอื่น ๆ ตามความในวรรคหนึ่งหรือวรรคสามของร่างมาตรา ๑๓ นั้น ซึ่งคำว่า “สถาบันอื่น” ตามร่างมาตรา ๑๓ นี้ มีความมุ่งหมายกว้างเพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันสามารถแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันอื่น ๆ ทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนได้ รวมทั้งหากต่อไปมีกฎหมายกลางที่เกี่ยวข้องใช้บังคับกับกรณีการบริหารงานบุคคลและตำแหน่งทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาหรือดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถาบันพระบรมราชชนกให้มีความสอดคล้องกับหลักการและแนวทางดังกล่าวด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13700 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2561 | นร01 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ โดย ก.ธ.จ. ทั้ง ๗๖ คณะ/จังหวัด ได้สอดส่องการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐโดยสอดส่องแผนงาน/โครงการ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (เรื่องร้องเรียน) ตามอำนาจหน้าที่ จำนวน ๑,๓๗๖ แผนงาน/โครงการ ปรากฏว่า มีโครงการ จำนวน ๓๖๕ โครงการ/เรื่อง ที่ไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยมีโครงการที่ไม่เป็นไปตามด้านที่ ๔ การปฏิบัติภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่าเป็นจำนวนมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านที่ ๓ การปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และด้านที่ ๒ การปฏิบัติภารกิจเพื่ออำนวยความสะดวก ให้บริการ และสนองความต้องการของประชาชน ตามลำดับ โดย ก.ธ.จ. มีมติเป็นข้อเสนอแนะสำหรับโครงการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน ๔๗๒ ข้อ ซึ่งจังหวัด/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะไปดำเนินการแล้ว จำนวน ๒๐๘ ข้อ หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๐๗ และ ก.ธ.จ. จะได้ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะในส่วนที่เหลือต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|