อนุมัติให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2536   เพื่อชำระหนี้ค่าเช่าเวลาเวลาออกอากาศรายการโทรทัศน์  เพื่อการศึกษาของมหาวิทยาลัย  
รามคำแหง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531 - 2532  จำนวน 20,214.21 บาท  ตามความจำเป็น  ตามความ 
เห็นของสำนักงบประมาณ

          รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการต่อผู้อพยพ
ผู้หลบหนีเข้าเมือง และการดำเนินการด้านกิจการชายแดน ตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงาน  สรุปได้ดังนี้  
          1. เรื่องการทบทวนนโยบายและมาตรการการปฏิบัติต่อผู้อพยพจากอินโดนีเซีย   และผู้หลบหนี
เข้าเมืองจากกัมพูชา กระทรวงมหาดไทยได้ทยอยปิดศูนย์ ฯ  ที่พักชั่วคราวของผู้หลบหนีเข้าเมืองทางเรือ
และศูนย์ ฯ รับผู้อพยพอินโดจีนต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2525 มาเป็นลำดับ จนปัจจุบันเหลือเพียง 4 แห่ง (จะปิด
อีก 1 แห่ง ในปี 2536)
          2. เรื่องแผนแม่บทและแผนโครงการระดับกระทรวง เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับ
ชาวเขา การปลูกพืชเสพติด การพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูงกำลังจัดทำรายละเอียดของโครง
การปี 2535 
          3. เรื่องมาตรการปฏิบัติต่อนักศึกษาพม่าที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ได้ประกาศให้นักศึกษาพม่า
มารายงานตัวและออกบัตรประจำตัวชั่วคราวแก่ผู้ที่น่าเชื่อว่าเป็นนักศึกษาพม่าจริงและได้ปรับปรุงสถาน
ที่ที่จะใช้เป็นศูนย์ควบคุมนักศึกษาพม่าที่อำเภอปากท่อ  จังหวัดราชบุรี  เพื่อให้นักศึกษาพม่าเข้าอยู่ตาม
เวลาที่กำหนด 
          4. เรื่องการดำเนินการต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวลาวภูเขาที่เคยอาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้สั่งให้ 
จังหวัดน่านจัดทำบัญชีรายชื่อให้ถูกต้องตามความเป็นจริง   และจัดเตรียมหลักฐานที่เกี่ยวข้องและขอรับ
สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจาก UNHCR
          5. เรื่องสรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-พม่า ครั้งที่ 6  ได้แจ้งหน่วย 
งานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการแล้ว  
          6. เรื่องผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ 5  ได้มอบหมายกรมการปก
ครองจัดทำเอกสารเกี่ยวกับกำหนดข้อตกลงระงับอัคคีภัยชายแดนไทย-มาเลเซีย และให้สำนักงานปลัด  
กระทรวงมหาดไทยจัดทำคู่มือปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย  ซึ่งเอกสารทั้ง 2 
เรื่อง ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไปแล้ว
          7. เรื่องผลการประชุมคณะกรรกมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-
ลาว จะดำเนินการของบประมาณจากงบกลาง ฯ ต่อไป
          8. เรื่องการเปิดจุดผ่านแดนถาวรด้านกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับสภาสูงสุด 
แห่งชาติ (SNC) เพื่อยืนยันความพร้อมก่อนที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวร
          9. เรื่องมาตรการดำเนินการต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่าได้แจ้งจังหวัดชายแดนด้านพม่า 
กรมตำรวจ กรมการปกครอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ศึกษาแนวทางปฏิบัติไว้ล่วงหน้าแล้ว
       10. เรื่องการแก้ไขปัญหาความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้   ได้แจ้ง  5  จังหวัดชายแดนภาคใต้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกรมการปกครอง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วน
ที่เกี่ยวข้อง

          คณะรัฐมนตรีได้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2535 เรื่อง การทุจริตและประพฤติ
มิชอบเกี่ยวกับการใช้เงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เป็นดังนี้     
          "ให้ส่งคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายสังคมและกฎหมายพิจารณาก่อน        โดยให้พิจารณาถึงผล   
กระทบที่อาจมีต่อความคล่องตัวในการทำวิจัยด้วย และหากรัฐมนตรีท่านใดสนใจก็ให้เข้าร่วมพิจารณา   แต่  
ถ้าการพิจารณาไม่ทันในรัฐบาลนี้ ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป"

          คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2535 เรื่อง การปรับปรุง 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  พระนคร  (เร่งด่วน)  เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ในวโรกาสครบรอบ 100 ปี พระราชสมภพ  (8 พฤศจิกายน 2536)  มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี    เป็น
ดังนี้    
           "อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ  โดยคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า  สถานที่ตั้งปัจจุบันของ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ค่อนข้างเสี่ยงต่ออัคคีภัย จึงมอบให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดกำหนด 
แผนการย้ายสถานที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด"

         คณะรัฐมนตรีมีมติ
          1. รับทราบผลการดำเนินการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของการไฟฟ้า  
ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ  
          2. เห็นชอบให้บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด     ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้
บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไป ยกเว้นระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีบางฉบับตามความเห็นของกระทรวง 
การคลังและยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2522  ตามความ
เห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

          คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2535   เรื่อง  กองทัพอากาศ 
ขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2536 มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เป็นดังนี้ 
          "โดยที่เรื่องนี้ได้รับแจ้งจากกองทัพอากาศและคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษว่า    ยังมิได้ดำเนินการ 
อย่างใดที่เป็นข้อผูกพันในการซื้อเครื่องบิน CHALLENGER 601-3A กับบริษัท BOMBARDIER INC. CANADAIR,
CHALLENGER DIVISION และหากจะนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือจะยกเลิกโครงการ กองทัพอากาศ 
ไม่มีข้อขัดข้องทั้งสิ้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ยืนยันด้วยแล้ว   จึงมีมติให้ระงับการดำเนินการจัด 
ซื้อเครื่องบิน CHALLENGER 601-3A"

          คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2535 เรื่อง การจัดเก็บ
ค่าธรรมเนียมทางด่วน การปรับอัตราค่ากระแสไฟฟ้า  และการปรับปรุงอัตราค่าโดยสารรถประจำทาง 
ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพแล้ว  มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีในข้อ 1  ข้อความว่า  "ให้กระทรวง
มหาดไทยรับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการขึ้นค่าธรรมเนียมทางด่วน โดยค่อย ๆ  เพิ่มอัตรา 
ที่ละน้อยไปพิจารณาดำเนินการ   นั้น"    ให้แก้ไขเป็น    "ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของนายก
รัฐมนตรีเกี่ยวกับการขึ้นค่าธรรมเนียมทางด่วนว่า หากจำเป็นต้องขึ้นค่าธรรมเนียม  ก็ให้เพิ่มอัตราที่ละ 
น้อยไปพิจารณาดำเนินการ นั้น"  

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของ ก.พ. เกี่ยวกับการตั้งอัตราเงินเดือน จำนวน 142 อัตรา
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2536 ในกรมศิลปากร โดยยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  7  มกราคม  2535 เป็น
กรณีพิเศษ และให้ทำความตกลงด้านการเงินกับสำนักงบประมาณต่อไป

          อนุมัติการพัฒนาระบบข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด ดังนี้
          1. ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2535 เรื่อง มาตรการปรับปรุงระบบราชการ
และระบบข้าราชการในประเด็นการระงับการเพิ่มอัตราตำแหน่งข้าราชการและลูกจ้าง
          2. ขอจัดจ้างลูกจ้างชั่วคราวช่วยเหลือการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2536 ไปก่อน  จำนวนทั้ง  
สิ้น 53 อัตรา แยกเป็นระดับปริญญาตรี จำนวน 25 อัตรา และระดับ ปวช. จำนวน 28 อัตรา   โดยเริ่ม  
จ้างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2535  ถึงวันที่ 30 กันยายน 2536      สำหรับในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป  
ขอกำหนดตำแหน่งข้าราชรับผิดชอบงานเป็นการถาวรได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น  
          สำหรับในปีงบประมาณ 2536 วงเงินที่เสนอไว้แล้วไม่มีค่าใช้จ่าย   จึงเห็นควรให้สำนักงานปลัด  
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับยอดจากวงเงินงบประมาณปี 2536    โดยตกลงกับสำนักงบประมาณ 
ก่อนการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2535 เรื่อง ขออนุมัติให้ประเทศ
ไทย เป็นที่ตั้งสำนักงานผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก  และขอผ่อน 
ผันมติคณะรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษ  มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เป็นดังนี้
          1. อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งสำนักงานผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศประจำ 
ภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก
          2. อนุมัติให้ทำความตกลงในการจัดตั้งสำนักงานผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศประจำภูมิ 
ภาคเอเซียและแปซิฟิก โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้ลงนามในความตกลง
          3. อนุมัติให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2528   โดยให้ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีเงินได้  
แก่ผู้มีสัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทย      ซึ่งปฏิบัติงานในสำนักงานผู้แทนสหภาพโทรคมนาคม 
ระหว่างประเทศมีฐานะเป็นทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ  ดังนั้น  ประเทศไทยจึงต้องปฏิบัติตามพันธ  
กรณีที่มีอยู่ตามอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิและความคุ้มกันของทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ   ปี   ค.ศ.
1974 ที่กำหนดในมาตรา 19(6)
          4. คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การจะทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2528  เรื่อง  การยกเลิก   
เอกสิทธิ์ทางภาษีอากรสำหรับคนไทยในองค์การหรือสถาบันระหว่างประเทศ  โดยยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ที่มี  
สัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทยที่ทำงานในองค์การสหประชาชาติ   หรือทบวงการชำนัญพิเศษ  
แห่งสหประชาชาติ หรือองค์การระหว่างประเทศที่มีข้อสัญญาหรือความตกลงนั้น สมควรต้องมีข้อมูลอื่น ๆ  ประ
กอบการพิจารณาด้วย จึงมอบให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปศึกษาหาแนวทางและวิธีการของประเทศต่างๆ  
ว่า ปัจจุบันมีวิธีดำเนินการในเนื่องนี้กับคนสัญชาติของตนหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศของตนอย่างใด ได้รับ 
การยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งในระดับ Professional  Staff  หรือ  Local  Staff  หรือไม่  และองค์การหรือทบวงการ 
ชำนัญพิเศษ ฯ ต่าง ๆ มีข้อกำหนดและวิธีการในเรื่องนี้อย่างใด     และโดยที่มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวยังมีความ  
สับสนเกี่ยวกับคำว่า "องค์การระหว่างประเทศ"  เพราะการใช้คำว่า  "องค์การระหว่างประเทศ"  น่าจะหมายถึง 
องค์การระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้องค์การสหประชาชาติเท่านั้น   สำหรับองค์การระหว่างประเทศที่ไม่ได้อยู่  
ภายใต้องค์การสหประชาชาติควรใช้คำว่า "องค์การนานาชาติ"  จึงสมควรทบทวนการใช้คำในเรื่องนี้   แล้วนำ  
เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา   โดยเสนอแนวทางการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีที่ชัดเจนเพื่อประกอบการ
พิจารณาด้วย

          มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนำเรื่อง ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2535 
เรื่อง แนวทางการขอคืนที่ราชพัสดุบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพื่อนำมาจัดให้ส่วน 
ราชการและหน่วยงานต่าง ๆ  ใช้ประโยชน์ เป็นดังนี้
          "ในหลักการสมควรให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยคืนที่ราชพัสดุในเขตเช่า เนื่อที่ประมาณ 400 ไร่ เพื่อ 
นำมาจัดสรรให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ได้ใช้ประโยชน์ โดยให้คณะกรรมการพิจารณาสถานที่ทำงาน 
ของหน่วยราชการในเขตกรุงเทพมหานครและเมืองหลัก  รับไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดและจัดทำผังการ 
ใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เนื่อที่ประมาณ 1,000 ไร่  ซึ่งอยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์
ของการสื่อสาร ฯ ตามสัญญาเช่าเหมา โดยให้การสื่อสาร ฯ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ฯ ด้วย"
          ไปทำความตกลงกับรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงการคลัง หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นชอบ
ด้วยก็ให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอขอแก้ไข

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 
2535 เกี่ยวกับการดำนินการแก้ไขปัญหาการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของชุมชนบ้านครัว  โดยรัฐมนตรี
ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายเอนก  สิทธิประศาสน์) และคณะ  ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมชุมชนดัง
กล่าว ตามที่กระทรงมหาดไทย รายงาน เห็นควรดำเนินการดังนี้ 
         1. ให้มีการชี้แจงให้ชาวชุมชน ฯ   เข้าใจว่าการก่อสร้างเส้นทางสายหลักบางโคล่  -  แจ้งวัฒนะ
เป็นแนวทางตรงชิดถนนพระรามที่ 6  หรือเป็นแนวทางโค้งไม่ชิดถนนพระรามที่ 6 เส้นทางไหนดีที่สุด 
         2. ให้มีการไต่สวนสาธารณะเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนรวมและกระจายการจราจร (อุรุพงษ์  - 
ราชดำริ) โดยนักวิชาการวิศวกรทั้ง  2  ฝ่าย เพื่อให้เห็นถึงเหตุผลความจำเป็น ข้อดีข้อเสียทั้งหลักวิชา
การทางวิศวกรรมจราจร การลงทุน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และอื่น ๆ
          3. ชาวชุมชน ฯ ที่ถูกเวนคืนให้ดำเนินการเป็น 2 ทางเลือก คือ
              3.1 ให้การเคหะแห่งชาติจัดที่อยู่อาศัยรองรับผู้ถูกเวนคืน หรือ
              3.2 ชาวชุมชน ฯ ที่อยากอยู่ที่เดิมให้การเคหะแห่งชาติสร้างแพล็ตบนที่ราชพัสดุบริเวณใกล้
เคียงกับชุมชน ฯ ให้ผู้ถูกเวนคืนเช่า
          4. ให้พิจารณาผลตอบแทนค่าชดเชยสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ถูกเวนคืนอย่างคุ้มค่าและเป็นธรรม
          5. ควรมีการจัดรูปที่ดิน (Land Readjustment) เพื่อพัฒนาที่ดินบริเวณที่ถูกเวนคืน    โดยวาง  
ผังจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ ให้ที่ดินทุกแปลงได้รับบริการเสมอภาคกันอย่างเป็นธรรม   และเจ้าของที่ดิน  
ยังคงอยู่ในพื้นที่เดิม
          6. การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานต่าง ๆ     มีกระบวนการวิธีการและขั้นตอนการ 
ดำเนินงานแตกต่างกัน   ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ    จึงควรกำหนดระบบการทำงานให้เป็นรูป  
แบบเดียวกัน  และให้มีหน่วยงานเฉพาะที่จะทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานผู้ต้องการเวนคืนร่วมกัน   
วางแผนปฏิบัติการในการเวนคืนในเชิงรุก ที่มีการหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา    และเป็นแกน 
กลางประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ล่วงหน้า   

          คณะรัฐมนตรีได้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (12 กันยายน 2535)  เรื่อง  การปรับปรุงวิธีการปฏิบัติ
และกระบวนการพิจารณาอนุมัติการรับเหมาก่อสร้าง มีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เป็นดังนี้
          "รับทราบปัญหาและวิธีการปฏิบัติและกระบวนการพืจารณาอนุมัติการรับเหมาก่อสร้าง   และการ  
ดำเนินการเจรจาต่อรองราคาจ้างเหมาก่อสร้างทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ    และโดยที่ยังมี
ข้อบกพร่องในวิธีการปฏิบัติและกระบวนการพิจารณอนุมัติการประมูลรับเหมาก่อสร้างทาง  ของกรมทาง 
หลวง กระทรวงคมนาคม ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ จึงมอบให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณา 
ปรับปรุงแก้ไขคู่มือการประเมินราคางานก่อสร้างทาง (เฉพาะภาคผนวก)  ซึ่งจัดทำโดยคณะอนุกรรมการ  
กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานกิจกรรมก่อสร้างงานทาง    ในคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงระบบการก่อ 
สร้างสถานที่ราชการและถาวรวัตถุของประเทศ ปี 2533 ให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น  และให้กระทรวงคมนาคม
รับไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานของกรมทางหลวงในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป"

          รับทราบเรื่อง การแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรี เมื่อพ้นจากตำแหน่ง โดยให้
คณะรัฐมนตรีทุกท่านปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2534  ในเรื่อง การแสดง 
ทรัพย์สินและหนี้สินในวาระการพ้นจากตำแหน่ง โดยให้ยื่นบัญชี ฯ ภายใน 15 วัน   นับจากวันพ้น    
จากตำแหน่ง (วันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถวายสัตย์ ฯ)  โดยให้ยื่นที่กองงานนายกรัฐมนตรี   สำนัก 
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

          อนุมัติให้การสนับสนุนในด้านอัตราเงินเดือนของข้าราชการครู   เพื่อไปช่วยปฏิบัติการสอน 
ในโรงเรียนเอกชนการกุศลทั่วประเทศ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้    ในเขตการ   
ศึกษา 2,3 และ 4 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2536 จำนวน 136 ตำแหน่ง ต่อไป ตามที่กระทรวงศึกษา   
ธิการ เสนอ  โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2535 เป็นกรณีพิเศษ    โดยให้ทำ  
ความตกลงด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ

          รับทราบรายงานผลการดำเนินงานในส่วนของกรุงเทพมหานคร งวดเงินงบประมาณที่ 2 
(กุมภาพันธ์ 2535 - พฤษภาคม 2535) ตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงาน

            เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอการตั้งอัตราเงิน
เดือนของอัตราว่างในกรมควบคุมมลพิษ  กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม  และสำนักนโยบายและแผนสิ่ง
แวดล้อม จำนวน 40 อัตรา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2535  โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มกรา
คม 2535 เป็นกรณีพิเศษ

          รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (7 กรกฎาคม 2535) เกี่ยวกับการปฏิบัติ
ตามกฎหมายที่ตราในสมัยนายอานันท์ ปันยารชุน  ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรก  สรุปได้ว่า  มีกฎ 
หมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง รวม 25 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติ จำนวน 22 ฉบับ ไม่ 
มีปัญหาในทางปฏิบัติแต่ประการใด และพระราชบัญญัติ จำนวน 3 ฉบับ มีปัญหาในทางปฏิบัติ   ตามที่กระ 
ทรวงการคลัง เสนอ และให้กระทรวงการคลังดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(ฉบับที่ 4)  พ.ศ. 2534   ซึ่งกฎหมายมิได้ระบุให้นำเงินที่ได้มาจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินมาชำระค่า 
ภาษี ระบุเพียงแต่ให้นำเงินมาเสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเท่านั้น ดังนั้น  จึงเป็นปัญหาในทางปฏิบัติว่า
จะนำมาชำระค่าภาษีได้หรือไม่ จึงเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมมาตรานี้ให้ชัดเจนต่อไป

          1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2521 วันที่ 13 สิงหาคม 2534 และวันที่
10 มีนาคม 2535 ในส่วนที่เกี่ยวกับการขนส่งผ่านแดนระหว่างไทยกับลาว 
          2. ยกเลิกการให้องค์การ ร.ส.พ. เป็นผู้รับจัดการขนส่งผ่านแดนและเป็นผู้ประกอบการขน
ส่งผ่านแดนไปสู่ลาวแต่ผู้เดียว
          3. อนุญาต และรับรองให้บริษัท ที.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ (1991) จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทร่วม
ทุนกับบริษัทสันติภาพศูนย์การค้าสากลของลาว  ซึ่งรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชา 
ชนลาวได้แจ้งเลือกแล้ว  เป็นผู้รับจัดการขนส่งผ่านแดน     และเป็นผู้ประกอบการขนส่งผ่านแดน 
ระหว่างไทยกับลาว    
          4. ให้กระทรวงคมนาคมออกประกาศเชิญชวนให้ผู้รับจัดการขนส่ง  และผู้ประกอบการขน   
ส่งสินค้าผ่านแดนรายใดก็ตาม     ที่สนใจจะดำเนินการแสดงความประสงค์ขอเข้ามาเป็นผู้ดำเนิน 
การในการขนส่งสินค้าผ่านแดนไทย - ลาว  และให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งรายชื่อดังกล่าว
ให้ฝ่ายลาวรับทราบด้วย ขณะเดียวกันรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอาจขอ
เสนอรายชื่อผู้รับจัดการขนส่งและผู้ประกอบการขนส่งสินค้าผ่านแดนรายอื่นที่ตนเห็นสมควรต่อ 
รัฐบาลไทยเพิ่มเติมอีกด้วยก็ได้   แล้วให้กระทรวงคมนาคมกลั่นกรอง    และเสนอรายชื่อดังกล่าว
พร้อมทั้งเหตุผลที่สนับสนุน  หรือคัดค้านต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุญาตและรับรองต่อไป
          อนึ่ง      เจ้าของสินค้าผ่านแดนจะเลือกเอาผู้ได้รับอนุญาตและรับรองแล้วดังกล่าวข้างต้น
รายใดก็ได้   ทั้งนี้  ตามนัยแห่งมาตรา 5 ของความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่าง
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว     ลงวันที่
1 มิถุนายน ค.ศ. 1978

          1. อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทย เป็นที่ตั้งสำนักงานผู้แทนสหภาพโทคคมนาคมระหว่าง
ประเทศไทยประจำภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิก
          2. อนุมัติให้อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข   เป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงระหว่ารัฐบาลแห่ง
ราชอาณาจักรไทยและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ   เรื่อง  การจัดตั้งสำนักงานผู้แทนสห 
ภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศในกรุงเทพ ฯ
          3. อนุมัติให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2528 โดยให้ยกเว้นภาษีเงิน   
ได้แก่ผู้มีสัญชาติหรือผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทย ที่ทำงานในสำนักงานสหภาพโทรคมนาคม
ระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิกที่ตั้งในประเทศไทย 
          ตามที่กระทรวงคมนาคม  เสนอ         สำหรับการขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16  
กรกฎาคม 2528   โดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้แก่ผู้มีสัญชาติหรือผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทยที่
ทำงานในสำนักงานสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิกที่ตั้งใน 
ประเทศไทยนั้น ผ่อนผันให้ยกเว้นภาษีเงินได้เฉพาะระดับ  Professional  Staff  เท่านั้น  และคณะ
รัฐมนตรีเห็นว่าการจะทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2528   เรื่อง  การยกเลิก
เอกสิทธิ์ทางภาษีอากรสำหรับคนไทยในองค์การหรือสถาบันระหว่างประเทศ     โดยยกเว้นภาษี  
เงินได้ให้แก่ผู้ที่มีสัญชาติไทย หรือผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทยที่ทำงานในองค์การสหประชา  
ชาติหรือทบวงการชำนาญพิเศษแห่งสหประชาชาติหรือองค์การระหว่างประเทศที่มีข้อสัญญาหรือ
ความตกลงนั้น สมควรต้องมีข้อมูลอื่น ๆ ประกอบการพิจารณาด้วย   จึงมอบให้กระทรวงการต่าง  
ประเทศรับไปศึกษาแนวทางและวิธีการ ของประเทศต่าง ๆ ว่ามีวิธีดำเนินการในเรื่องนี้กับคนสัญ   
ชาติของตนหรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศของตนอย่างใด       ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งใน    
ระดับ Professional Staff หรือ Local Staff หรือไม่    และองค์การหรือทบวงการชำนาญพิเศษ ฯ 
ต่าง ๆ มีข้อกำหนดและวิธีการในเรื่องนี้อย่างใด     แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเสนอ 
แนวทางเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย