เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2521 เรื่อง การกำหนด
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งปลัดอำเภอ  และให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการ
เพื่อให้แต่งตั้งสตรีเข้ารับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอได้ เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง
พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมการปกครอง  และ  ก.พ.    ได้พิจารณาอนุมัติแผน
อัตรากำลัง 3 ปี รอบที่ 3 พ.ศ. 2536 - 2538 แล้ว

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองทัพอากาศก่อหนี้ผูกพันงบประมาณข้ามปีงบประมาณ 2537 - 2540 เพื่อจัดซื้อ
เครื่องยนต์ F 100 - PW  - 220 จำนวน 18 เครื่อง เพื่อติดตั้งกับเครื่องบิน F - 16  A/B โดยวิธี   FM3  LOA  CASE TH-D-SMG  
ในวงเงิน  121,219,999 เหรียญสหรัฐ   โดยผูกพันงบประมาณปี 2537 - 2540 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ  โดยให้ยกเว้น
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  17  ธันวาคม  2534  และเมื่อวันที่  11 สิงหาคม  2535  เรื่องหลักเกณฑ์ในการผูกพันงบประมาณ
ข้ามปีล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี เป็นกรณีพิเศษ และให้ผู้บัญชาการทหารอากาศลงนามตอบรับในสัญญาแก้ไข ฉบับที่ 2

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตกรที่ประสบภัยพิบัติ หรือมี 
ปัญหาเกี่ยวกับพืชผลราคาตกต่ำ งวดประจำเดือนกันยายน 2535  ตามที่กระทรวงการคลัง รายงาน  
ได้แก่ มาตรการที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมาตรการที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2533และ 17 มีนาคม 2535 เกี่ยวกับโครงการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูบูรณะเมืองพัทยา
 ตามที่กระทรวงมหาดไทย รายงาน

          อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการผูกพันงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลราชบุรี  
โรงพยาบาลระยอง และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จากเดิม เป็นงบประมาณปี 2533 - 2536   ในวงเงินเท่า    
เดิม         สำหรับการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า  นนทบุรี    โรงพยาบาลมะการักษ์   
โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี และ โรงพยาบาลอุดรธานี นั้น  เนื่องจากตามสัญญามีระยะ 
เวลาผูกพันงบประมาณเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติไว้แล้ว   ซึ่งมิได้กำหนดปีงบประมาณ  จึงไม่  
จำเป็นต้องขยายระยะเวลาผูกพันงบประมาณออกไปอีก

          เห็นชอบการปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวด้านกัมพูชาเพื่อสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีความมั่นคง
แห่งสหประชาชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอเกี่ยวกับการขอผ่อนผันเป็นการเฉพาะคราวให้กองทัพ
อากาศแก้ไขสัญญาก่อสร้างเดิม เป็นสัญญาแบบปรับราคาได้ให้แก่ผู้รับจ้าง รวม 4 สัญญา ได้แก่ สัญญาจ้างเลข
ที่ 17/2533 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2533, สัญญาจ้างเลขที่ 2/2533 ลงวันที่ 4 เมษายน 2533, สัญญาจ้างเลขที่
20/2533 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2533 และสัญญาจ้างเลขที่ 2/2533  ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2533  โดยอนุมัติ
ให้กองทัพอากาศแก้ไขสัญญาจ้างทั้ง 4 สัญญา เป็นสัญญาแบบปรับราคาได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย

          เห็นชอบหลักเกณฑ์ในการผูกพันงบประมาณข้ามปีล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี ตามความเห็นของสำนัก
งบประมาณ ดังนี้
          1. สำนักงบประมาณจะไม่ระบุรายการที่เป็นเรื่อง "ลับ" หรือ "ลับมาก" ไว้ในเอกสารงบประมาณราย  
จ่ายประจำปี (เล่มสีฟ้า)    แต่จะเขียนเอกสารงบประมาณให้ปรากฎเฉพาะชื่อหัวข้อโครงการใหญ่ที่อยู่เหนือ  
"รายการ" ที่เป็นเรื่อง "ลับ" หรือ "ลับมาก"     
          2. การอนุมัติเงินประจำงวดในขั้นการบริหารงบประมาณ  สำนักงบประมาณเห็นควรปฏิบัติตามหลัก 
เกณฑ์และเงื่อนไขเดียวกับที่เคยปฏิบัติในปีงบประมาณ พ.ศ. 2535 ตามที่กระทรวงกลาโหม เสนอ
          ทั้งนี้  ให้กระทรวงกลาโหมถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการผูกพันงบประมาณข้ามปีล่วงหน้าเป็นเวลา
หลายปี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 ต่อไป      โดยมิต้องแก้ไขข้อความในข้อ 2 ของมติ
คณะรัฐมนตรีดังกล่าว 

          คณะรัฐมนตรีมีมติ
          1. รับทราบความก้าวหน้าโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 3   โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ใน      
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ตามที่คณะทำงานพิจารณานโยบายการดำเนินงานรถไฟฟ้าขนส่งมวล  
ชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเสนอ  
          2. อนุมัติให้องค์การรถไฟฟ้ามหานครลงนามสัญญาว่าจ้างบริษัท HALCROW ASIA จำกัด   ในวง  
เงินงบประมาณ 80.3 ล้านบาท  โดยอนุมัติงบประมาณปี 253 6 งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ    
กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว    สำหรับเงินค่าจ้างงวดที่ 2  และงวดต่อ ๆ    
ไป จนกว่าจะได้รับเงินทุนประเดิม จำนวน 950 ล้านบาท  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม  
2535
          3. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับนโยบายเพื่อกำกับ     และประสานการดำเนินงานโครง 
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 3 โครงการ 

          รับทราบการมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจพิจารณาวาระเพื่อทราบ  และ  
ตรวจพิจารณาข้อความตามมติคณะรัฐมนตรี       เนื่องจากในบางครั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   
(นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์) อาจมีราชการสำคัญและเร่งด่วนไม่สามารถเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีได้    หรือ  
อาจต้องเดินทางไปราชการต่างจังหวัดหรือต่างประเทศภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีตามที่สำนักเลขา  
ธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ      โดยให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหคฉ) ปฏิบัติ 
งานแทนในกรณีดังกล่าว ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

          ให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2535 เรื่อง การใช้หมวกเพื่อป้องกัน
อันตรายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ ดังนี้
          1.  มติคณะรัฐมนตรีในข้อ 2 ซึ่งมอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการ รวม 4 ข้อ นั้น  ให้  
เพิ่มเติม กระทรวงคมนาคม  กระทรวงสาธารณสุข  และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  เช่น  สำนักงานคณะ 
กรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
          2. ให้เพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเป็นข้อที่ 2.5 ดังนี้
              "2.5 ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยว 
ข้องประเมินผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าได้มีการปฏิบัติตามมาตรการข้างต้นไปแล้วเพียงใด  
และจากการรณงค์และการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว   มีผลให้ลดความถี่ของอุบัติเหตุและความรุนแรง 
ของอุบัติเหตุอันเกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เพียงใด     แล้วให้รายงานคณะรัฐมนตรีทราบทุก  3 
เดือน"

          รับทราบรายงานผลการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยแล้งตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2535 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงาน สรุปได้ดังนี้  
          1. การดำเนินการระยะเร่งด่วน ได้จัดหาน้ำอุปโภคบริโภคสำหรับประชาชน สนับสนุนจังหวัดส่งรถ    
บรรทุกน้ำจัดส่งหน่วยซ่อมแซมบ่อบาดาล   เร่งรัดเจาะบ่อบาดาลให้ศูนย์ปฏิบัติการแห่งชาติเร่งรัดเจาะบ่อ 
บาดาลตามโครงการ คจก. ให้โรงพยาบาลชุมชน
          2. การทำแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว กรมอนามัยได้ดำเนินการหาแหล่งเก็บน้ำสาธารณะประจำหมู่  
บ้านเพิ่ม โดยจะก่อสร้างตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นไป ปีละ 250 แห่ง เพิ่มชุดประปาสนามแก่ศูนย์อพยพสิ่งแวด  
ล้อมเขต 1 - 9  โดยแจ้งทุกจังหวัดผ่านศูนย์อนามัยสิ่งแวดล้อมขอใช้งบพัฒนาจังหวัดก่อสร้างถังเก็บน้ำเพื่อ 
จัดสร้างให้กับประชาชน    นอกจากนี้ได้ร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหา 
การขาดแคลนน้ำระยะสั้นรวม 5 แผน ซึ่งแผนนี้ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติในหลักการแล้ว  และ   
กรมอนามัยได้เริ่มโครงการสร้างถังเก็บน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้าน Water Bank  โดยเริ่มปี 2535 จำนวน 
12 หมู่บ้าน และมีแผนปี 2536 - 2540 จำนวน 1,250 หมู่บ้าน ปีละ 250 หมู่บ้าน

          มติคณะรัฐมนตรีเห็นว่า การออกกฎหมายควบคุมอาคารในเขตจังหวัดที่มีการขยายตัวของเมือง 
และการก่อสร้างอาคารเพิ่มมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการวางผังเมือง   การจัดสิ่งสาธารณู  
ปโภค  การป้องกันปัญหาอันเกิดจากสภาวะแวดล้อม   และการสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติซึ่งบาง 
ครั้งจำเป็นต้องทำเสียตั้งแต่แรกก่อนที่จะสายเกินแก้ แต่บางครั้งการกำหนดให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุม  
เต็มพื้นที่ของจังหวัด อาจก่อให้เกิดผลกระทบแก่ประชาชนโดยทั่วไปเกินความจำเป็นเพราะอาจกำหนด  
เฉพาะเป็นพื้นที่ หรือมีข้อยกเว้นอย่างใดอย่างหนึ่งได้      จึงมอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณา
ความเหมาะสมในการตราพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร  พ.ศ. 2522  บังคับใน 
ท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชัยนาท  จังหวัดนครสวรรค์  จังหวัดปราจีนบุรี  จังหวัดราชบุรี  จังหวัด  
สมุทรสงคราม   จังหวัดสิงห์บุรี   จังหวัดสุพรรณบุรี    จังหวัดอ่างทอง   และจังหวัดอุทัยธานี  พ.ศ. .... 
(เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมการสาธารณสุข  และการผังเมือง)   และพระราช
กฤษฎีกาอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันในโอกาสต่อไป แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

          คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2533  เมื่อวันที่ 28 เมษายน  
2535   และเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2535  เรื่อง การถ่ายทอดเสียงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทางวิทยุกระ 
จายเสียงและหรือโทรทัศน์แล้วมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวและเห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรม 
การประสานงานสภาผู้แทนราษฎร โดยให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้เป็นดังนี้   
          1. เห็นชอบให้มีการถ่ายทอดการประชุมสภา ฯ ทางวิทยุกระจายเสียงทุกครั้ง
          2. สำหรับการจัดให้มีการถ่ายทอดการประชุมสภา ฯ ทางโทรทัศน์ ให้เสนอคณะกรรมการ ปสส. 
พิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นคราว ๆ ไป

         เห็นชอบให้คงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการรักษาความลับของทางราชการ การรักษา
เอกสารของทางราชการที่เป็นความลับ  และการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี   ตามที่สำนักเลขาธิการคณะ 
รัฐมนตรี เสนอ ดังนี้  
          1. เรื่อง การรักษาความลับของทางราชการ 
             (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2519)
          2. เรื่อง การนำเอกสารลับของทางราชการไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์
             (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2532)
          3. เรื่อง การนำเอกสารระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 
             (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2532)
          4. เรื่อง การเสนอเรื่องเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา
              4.1 เรื่อง การเสนอเรื่องที่มีข้อมูลและเอกสารจำนวนมากหรือต้องใช้งบประมาณจำนวนมากให้
                    คณะรัฐมนตรีพิจารณา (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2532)
              4.2 เรื่อง การเสนอเรื่องเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นวาระจร
                   (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2533)
              4.3 เรื่อง การนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี
                   (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2533)

          มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทอดพงษ์  ไชยนันทน์) เป็นผู้ตรวจ   
พิจารณาวาระเพื่อทราบ และตรวจพิจารณามติคณะรัฐมนตรีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียกร่าง  
ก่อนการยืนยันไปยังส่วนราชการต่าง ๆ

           คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. ให้รัฐมนตรีทุกคนคงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2534   ดังนี้ 
              1.1 ให้รัฐมนตรีทุกคนแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน ตามแบบแสดงรายการสินทรัพย์และ  
หนี้สินของสำนักงาน ป.ป.ป. ต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งมติ  
เว้นแต่ผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีชุดก่อน   ซึ่งมีวาระติดต่อกันและเคยแสดงสิน
ทรัพย์และหนี้สินไว้แล้ว ไม่ต้องแสดงสินทรัพย์และหนี้สินอีก 
              1.2 ให้รัฐมนตรีทุกคนแสดงสินทรัพย์และหนี้สินตามแบบแสดงรายการสินทรัพย์และ 
หนี้สินของสำนักงาน  ป.ป.ป.  ต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ภายใน 15 วัน    นับแต่วันพ้นจาก 
ตำแหน่ง 
              1.3 สำหรับการแจ้งรายการอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน)         ให้แจ้งแต่เลขที่โฉนดที่ดิน   
อำเภอ จังหวัด ตำแหน่งที่ดิน ระวาง เลขที่ดิน หน้าสำรวจ  ตำบล  และวันที่ได้มาเท่านั้น  โดยไม่ 
ต้องถ่ายสำเนาโฉนดแนบมาด้วย
          2. เห็นชอบในหลักการให้มีการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการสินทรัพย์และหนี้สินของ
รัฐมนตรีทุกคนเป็นประจำทุกปี  หรือเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย    สำหรับรายละเอียดวิธีปฏิบัตินั้น  
มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ป. รับไปพิจารณาดำเนินการ  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา  
ทั้งนี้   ให้สำนักงาน ป.ป.ป.  พิจารณาดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกา  ตามความในมาตรา   
23  ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ.  
2518 เพื่อกำหนดให้คณะรัฐมนตรียื่นบัญชีแสดงรายการสินทรัพย์และหนี้สิน  รวมทั้งวิธีปฏิบัติ
ในการตรวจสอบด้วย

          รับทราบรายงานการค้าต่างตอบแทนตามสัญญาจ้างเหมาสร้างข่ายสายท้องถิ่น โครงการพัฒนา 
เศรษฐกิจและสังคมขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2527 - 2535    โดยองค์การโทรศัพท์ ฯ 
ได้เจรจาเงินค่าชดเชยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535   กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างข่าย
สายท้องถิ่น จำนวน 8 ราย แล้ว ปรากฎว่า บริษัททั้ง 8  จะชดเชยให้กับองค์การโทรศัพท์ ฯ  เป็นเงินประ
มาณ 145 ล้านบาท     สำหรับวงเงินที่ต้องชดเชยจริงขึ้นอยู่กับการปิดงานโครงการภายหลัง     แต่คณะ  
กรรมการองค์การโทรศัพท์ ฯ  เห็นควรให้บริษัททั้ง 8 ราย   เสนอวงเงินขั้นต่ำที่ต้องชดเชยให้ไม่น้อยกว่า  
150 ล้านบาท สุดแต่วงเงินใดจะสูงกว่า ก็ให้ใช้วงเงินนั้นเป็นค่าชดเชย ซึ่งบริษัททั้ง 8  ยินยอมรับเงื่อนไข   
แล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคม รายงาน   และให้นำเงินค่าชดเชยส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามมติคณะ 
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535 ด้วย