รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 52 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 1021 - 1040 จากข้อมูลทั้งหมด 1084 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
1021
ขออนุมัติเงินงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น(ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม)
รส
09/11/2536
อนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในเงินราชการลับ ค่าครุภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายในการประชุมสัมมนา ฝึกอบรมข้าราชการในสังกัดกระ
ทรวง ทั้งระดับผู้บริหารทุกลำดับชั้น และระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการ
เจรจาธุรกิจและการประชุมนานาชาติ ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ตามความเห็น
ของสำนักงบประมาณ
1022
รายงานผลการเจรจาในเรื่อง ทางด่วนขั้นที่ 2 กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท กูมาไก กูมิ จำกัด (KUMAGAI GUMI)
นร
02/11/2536
รับทราบรายงานผลการเจรจาในเรื่อง ทางด่วนขั้นที่ 2 กับ บริษัท กูมาไก กูมิ จำกัด
(Kumagai Gumi) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอำนวย วีรวรรณ) เสนอ
1023
โครงการจัดตั้งบริษัทประกันภัยของสหกรณ์
พณ
12/10/2536
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการจัดตั้งบริษัทประกันชีวิตของสหกรณ์ และ
อนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้อยู่ภายใต้
เงื่อนไข ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
28 มิถุนายน 2531 มอบหมายให้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้ง 6 ข้อ โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ไม่ให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าวในข้อหนึ่งข้อใด
ทั้งสิ้นในอนาคต ส่วนคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตของ
สหกรณ์ไม่ได้ลงทุนและไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ จึงมิได้มีส่วนเสียในหลักผลกำไร
ขาดทุนของบริษัท ประกอบกับธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยหลักวิชา
การเฉพาะด้าน ดังนั้น การคัดเลือกบุคคล ในระดับผู้บริหารหรือผู้จัดการ จึง
สมควรสรรหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์และมีความชำนาญในด้าน
ธุรกิจประกันชีวิตในลักษณะเป็นมืออาชีพ เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ
และกิจการของบริษัทดำเนินงานไปด้วยดีและต้องเป็นบุคคลที่ซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้ง
มีระบบควบคุมดูแลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปัองกันการทุจริตด้วย
จึงมีมติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการในการจัดเตรียมบุคคลากรของบริษัท ฯ ต่อไป
1024
การกำหนดเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย
ทม
17/11/2535
รับทราบรายงานเรื่อง การกำหนดเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย
ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย รายงาน ดังนี้
1. เงินประจำตำแหน่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
(1) ตำแหน่งผู้บริหารประเภทที่มีวาระการดำรงตำแหน่งตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
เห็นควรใช้หลักการเดิม โดยปรับเงินประจำตำแหน่งให้สอดคล้องกับการปรับบัญชีเงินเดือนของข้า
ราชการพลเรือน โดยเทียบอัตราเงินประจำตำแหน่งเดิมกับบัญชี ข. แล้วปรับเทียบเข้าสู่บัญชีหมาย
เลข 1 โดยปรับให้เป็นตัวเลขกลม
(2) ตำแหน่งผู้บริหารที่ไม่มีวาระ เห็นควรให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามบัญชีอัตราเงิน
ประจำตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงหรือบริหารระดับกลางเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ
2. เงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ (สาย ก.) เห็นว่าตำแหน่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยใน
สาขาวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะพิจารณาจากคุณวุฒิซึ่งต้องเริ่มจากระดับปริญญาขึ้นไป ตำแหน่งและลักษณะ
งานที่ปฏิบัติของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ย่อมจัดอยู่ในประเภทวิชาชีพเฉพาะได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น
ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์, รองศาสตราจารย์, และศาสตราจารย์ นอกจากจะเป็นตำแหน่ง
ประเภทวิชาชีพเฉพาะแล้ว ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ อีกด้วย
3. เงินประจำตำแหน่งประเภทชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญพิเศษ (สาย ข. และ
ค.) เห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวมีลักษณะงานเหมือนกับข้าราชการพลเรือน ดังนั้น จึงเห็นควรให้ใช้
หลักเกณฑ์การให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน
1025
รายงานผลการดำเนินการโครงการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา แก่ผู้บริหารระดับสูง ฯ
นร
03/11/2535
รับทราบรายงานผลการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาแก่ผู้บริหารระดับสูงของ
กระทรวง ทบวง กรม ซึ่งตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและอนุมัติให้สำนักเลขาธิการคณะ
รัฐมนตรีดำเนินการจัดประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาแก่ผู้บริหารระดับสูง ในวันจันทร์
ที่ 2 พฤศจิกายน 2535 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 09.00 น. นั้น การประชุมชี้แจงดัง
กล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 350 คน ประกอบด้วย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ปลัด
ทบวง และหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการกระ
ทรวง หัวหน้าส่วนราชการอิสระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา
นคร ปลัดกรุงเทพมหานคร อธิบดีและหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐ
ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายก
รัฐมนตรี เป็นประธาน และเป็นผู้ชี้แจงร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 ท่าน ซึ่งชี้แจงนโยบายของรัฐบาล
ในแต่ละด้าน ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงาน
1026
กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองลิเอจขอลาออกจากตำแหน่ง(นาย GEORGES GOLDINE)
กต
03/11/2535
รับทราบรายงานเรื่อง กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองลิเอจขอลาออกจากตำแหน่ง โดยศาลเมือง
ลิเอจได้พิจารณาลงโทษจำคุก นาย Georges Goldine กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำเมืองลิเอจ ในคดีพัวพัน
กับกรณีทุจริตของสำนักงานคณะผู้บริหารท้องถิ่น และให้รอการลงอาญาไว้ ซึ่งนาย Goldine ได้ขอ
อนุมัติลาออกจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ฯ ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ รายงาน
1027
โครงการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา แก่ผู้บริหารระดับสูงของทุกกระทรวง ทบวง กรม
นร
27/10/2535
1. เห็นชอบในหลักการโครงการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาแก่ผู้บริหาร
ระดับสูง และอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ
2. เห็นชอบให้กำหนดการประชุมชี้แจงดังกล่าว ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2535 เวลา 9.00
- 12.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
3. อนุมัติให้ผู้บริหารในตำแหน่งดังต่อไปนี้เข้าร่วมประชุม คือ
3.1 ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง และหัวหน้าส่วนราชการเที่ยบเท่า
3.2 หัวหน้าส่วนราชการอิสระ (นายกราชบัณฑิตยสถาน เลขาธิการพระราชวัง หรือผู้แทน
ราชเลขาธิการหรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และอัยการสูงสุด)
3.3 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ
3.4 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
3.5 ปลัดกรุงเทพมหานคร
3.6 อธิบดีและหัวหน้าส่วนราชการเทียบเท่า
3.7 อธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐ
3.8 ผู้ว่าราชการจังหวัด
3.9 ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ
3.10 ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ตรวจราชการกระทรวง
3.11 ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 26 คน
ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอเพิ่มเติม
4. อนุมัติในหลักการให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2536 งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการตามโครงการ ฯ ตามความจำเป็น
และเหมาะสม
1028
สรุปประเด็นการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในการแถลงนโนบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
นร
27/10/2535
รับทราบสรุปประเด็นการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
โดยได้สรุปสาระสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะตลอดจนแนวทางแก้ไขปัญหา
ต่าง ๆ แยกออกเป็ฯประเด็นสำคัญ ๆ รวมทั้งสิ้น 9 ด้าน คือ
1. การกระจายอำนาจการปกครอง การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและชนบทและการเลือกตั้ง
ผู้บริหารท้องถิ่น
2. ทรัพยากรน้ำ
3. การเกษตร พืชเกษตร หนี้สินเกษตรกร
4. การศึกษาและปัญหาครู
5. แรงงาน
6. ปัญหาชายแดนและความมั่นคง
7. การฟื้นฟูบูรณะกรุงเทพมหานคร
8. การเงินและการคลัง
9. อื่น ๆ ได้แก่ การเมืองและการบริหาร การต่างประเทศ เศรษฐกิจและสังคม
และเห็นชอบให้กระทรวง ทบวง กรม รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ หาก
เรื่องใด ปัญหาใด ที่จำเป็นต้องจัดทำเป็นแผนงาน/โครงการ หรือกิจกรรมเพื่อเสนอขออนุมัติต่อคณะ
รัฐมนตรี ก็ให้เร่งรัดพิจารณาดำเนินการโดยด่วนต่อไป กับอนุมัติแจกจ่ายสรุปประเด็นการอภิปราย ฯ
แก่ผู้บริหารระดับสูง ฯ ที่เข้าร่วมการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ในวันจันทร์ที่ 2
พฤศจิกายน 2535 เวลา 09.00 - 12.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ
1029
ร่าง พรฎ.และร่างกฎ ก.พ. เพื่อปฏิบัติการตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535(ขออนุมัตินำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง)
นร
01/09/2535
1. รับหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาชีพ
เฉพาะหรือประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ พ.ศ. .... ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน
สามัญ ประเภทบริหารระดับสูงหรือประเภทบริหารระดับกลาง พ.ศ. .... ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ และร่างกฎ ก.พ. ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ว่าด้วยการรับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชียวชาญเฉพาะ และตำแหน่งประเภทบริ
หารระดับกลางหรือบริหารระดับสูง จำนวน 1 ฉบับ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งสำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า
2.1 โดยที่ตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่วิชาชีพเฉพาะการแพทย์ และวิชาชีพเฉพาะเภสัชกรรม ใน
ระดับ 6,7 มีข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งดังกล่าวอยู่จำนวนมาก การที่ร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาชีพเฉพาะ และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ พ.ศ. ...
มาตรา 3 กำหนดตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไป จะแก้ไขทั้ง 2 ตำแหน่ง ในระดับ 6,7 เสนอคณะรัฐมน
ตรีพิจารณาโดยด่วน
2.2 ปัจจุบันยังคงมีตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะที่ขาดแคลนมากอีก 3 ตำแหน่ง คือ คณิตศาสตร์
วิศวกรรมเคมีและเคมีเทคนิค และวิศวกรรมปิโตรเคมี จึงให้สำนักงาน ก.พ. รับไปเร่งรัดพิจารณาเสนอ
คณะรัฐมนตรีโดยด่วน
2.3 การใช้คำว่า "ผู้บริหารระดับกลาง" สำหรับบางตำแหน่ง แต่ให้รับผลตอบแทนเท่าระดับ
ผู้บริหารระดับสูงบัญชี (บ.1) นั้น อาจทำให้เกิดความสับสนในโครงสร้างส่วนรวม ในขั้นพิจารณา
ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงควรพิจารณาด้วยว่าจะใช้คำอื่นหรือระบุตำแหน่งโดยตรง
ได้หรือไม่
1030
ขอความเห็นทางกฎหมาย (การดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ)
ยธ
28/07/2535
อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับ คำว่า
"ข้าราชการการเมือง" "ผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง" หรือ "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" และ
กฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจบางแห่ง และพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรม
การและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 ที่กำหนดลักษณะต้องห้ามสำหรับ
กรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ว่าต้องไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมอบให้รอง
นายกรัฐมนตรี (นายเกษม สุวรรณกุล) เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก
รัฐมนตรี (นายมีชัย วีระไวทยะ และ นางสาวสายสุรี จุติกุล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ
คลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รัฐมน
ตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขาธิการคณะ
กรรมการกฤษฎีกา เป็นกรรมการ และรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)
เป็นกรรมการและเลขานุการ แล้วเสนอผลการพิจารณาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในครั้ง
ต่อไป
1031
ขอความเห็นทางกฎหมาย
นรม
07/07/2535
ให้ขอความเห็นทางกฎหมายจากที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการร่างกฎหมาย ในปัญหาคำว่า
"ข้าราชการการเมือง" และ "ผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง" หรือ "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" หมาย
ความว่าอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร , กฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจบางแห่งกำหนดลักษณะต้อง
ห้ามสำหรับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและกรรมการรัฐวิสาหกิจเอาไว้ว่า ต้องไม่ดำรงตำแหน่งในทางการ
เมือง เช่น พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 มาตรา 26 (7) หรือ
ต้องไม่เป็นผู้มีตำแหน่งการเมือง เช่น พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.
2511 มาตรา 15 (2) ลักษณะต้องห้ามเช่นว่านี้มีความหมายอย่างไร และกล่าวโดยเฉพาะเจาะจง
แล้วจะหมายความรวมถึงการเป็นสมาชิกรัฐสภาด้วยหรือไม่ และโดยที่มีพระราชบัญญัติคุณสมบัติ
มาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 แก้ไขเพิ่มเติมคุณ
สมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหิจ จากเดิม เป็นว่า ต้องไม่เป็นข้า
ราชการการเมือง โดยตัดคำว่า ต้องไม่ดำรงตำแหน่งในทางการเมืองออก กฎหมายนี้มีเจตนารมณ์
ต้องการใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเพื่อความเป็นเอกภาพทั้งยังบัญญัติว่าบรรดากฎหมาย กฎ
และข้อบังคับในส่วนที่บัญญัติไว้แล้วในกฎหมายนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งกฎหมายนี้ ให้ใช้
กฎหมายนี้แทน ดังนี้ พระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐาน ฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้วดังกล่าว จะมีผล
ใช้บังคับแทนบทบัญญัติในทำนองเดียวกันของกฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ หรือไม่ ทั้งนี้
หากมีประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องและควรได้รับการพิจารณาก็ขอให้พิจารณาไปพร้อมกันด้วย โดยที่
ประชุมใหญ่คณะกรรมการร่างกฎหมาย แล้วให้รายงานผลการพิจารณาให้คณะรัฐมนตรีทราบ
ภายใน 2 สัปดาห์
1032
กรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจกับการดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นร
25/02/2535
โดยที่ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่า คำว่า "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" มีความหมายอย่างไร จะมี
ความหมายอย่างเดียวกั บคำว่า "ข้าราชการการเมือง" หรือจะครอบคลุมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการ
เมืองอื่น ๆ ด้วย เช่น สมาชิกวุฒิสภา แต่โดยหลักการแล้ว ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ย่อม
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่อาจมาจากฝ่ายราชการประจำหรือภาคเอกชนก็ได้ บุคคลเหล่านี้มีความรู้ ความ
สามารถ และประสบการณ์ อันน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนารัฐวิสาหกิจ จึงไม่ควรมีข้อจำกัดใน
การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายมีชัย ฤชุพันธุ์)
พิจารณาว่า ในกรณีที่คำว่า "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" มีความหมายหรือส่อไปในทางว่ามีความ
หมายครอบคลุมถึงสมาชิกวุฒิสภา จะควรดำเนินการอย่างไร หากจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย
รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ก็ให้ดำเนินการ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
1033
แนวทางการปรับปรุงการบริหารกิจการท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังตามนโยบายของรัฐบาล
คค
03/12/2534
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า คณะกรรมการการท่าเรือ ฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นควร
ปรับแนวทางการบริหารท่าเรือตามนโยบายของรัฐบาล โดยฝ่ายบริหารการท่าเรือ ฯ
ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ตามนโยบายของรัฐบาลบางส่วนแล้ว จำเป็นต้องใช้เวลาในการ
พิจารณาปรับแก้ และกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานบ้างเล็กน้อย
สำหรับรูปแบบการบริหารท่าเรือตามมติคณะกรรมการ ฯ มีรายละเอียดแนวทาง
การบริหารดังนี้
1.ให้ท่าเรือ ฯ เป็นบริหารท่าเรือ (MANAGEMENT OF PORT) ของท่าเรือ
พาณิชย์แหลมฉบัง ซึ่งหมายถึงงานต่อไปนี้
1.1การวางแผนพัฒนาท่าเรือ
1.2การดูแลการบริการด้านต่าง ๆ ในท่าเรือให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
1.3จัดให้มีสาธารณูปโภคในท่าเรือ
1.4ควบคุมการจราจรทางน้ำ
1.5ควบคุมดูแลในด้านสิ่งแวดล้อมภายในอาณาบริเวณท่าเรือ
2.ให้ภาคเอกชนเข้าบริหารงานท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง ทั้งหมด ตามข้อ 2.1
และ 2.2 ยกเว้นท่าอเนกประสงค์ (ท่าที่1) ท่าเทียบเรือชายฝั่ง และท่าเทียบเรือ
บริการ ตามเหตุผลข้อ 3.
2.1บริหารงานท่า (MANAGEMENT OF WHARVES) ซึ่งมีงานจัดเรือเข้า
เทียบท่างานบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
2.2งานประกอบการท่า (OPERATION OF WHARVES) ได้แก่ งานบรรทุก
ขนถ่ายสินค้า งานเคลื่อนย้ายและเก็บรักษาสินค้า และงานปล่อยสินค้า
3.สำหรับท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ (ท่าที่1) ท่าเทียบเรือชายฝั่ง
และท่าเทียบเรือบริการให้การท่าเรือ ฯ เป็นผู้บริหารและประกอบการ เนื่องจาก
กิจการท่าเรือมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศและในหลัการควรจะมีท่าเพื่อ
ให้บริการในลักษณะเป็นส่วนรวม (COMMON USE) ที่ท่าเรือแหลมฉบังด้วย
4.ให้การท่าเรือ ฯ พิจารณาดำเนินการเปิดประมูลให้เอกชนเช่าบริหาร
และประกอบการท่าเทียบเรือ ท่าที่2 เพื่อใช้เป็นฐานในการปรับปรุงเงื่อนไขของ
สัญญาที่ทำไว้กับผู้รับจ้างประกอบการท่าเทียบเรือท่าที่ 3,4 และถือเป็นแนวทาง
สำหรับเจรจากับผู้เข้าประมูลที่อื่นด้วย
5.ให้การท่าเรือ ฯ พิจารณากำหนดแนวทางและขั้นตอนรวมถึงการปฏิบัติ
ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการการท่าเรือโดยเร็ว
กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้อง จึงขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้
ความเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอต่อไป
คณะรัฐมนตรี
1.เห็นชอบในหลักการแนวทาง การปรับปรุงการบริหารกิจการท่าเรือพาณิชย์
แหลมฉบัง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สำหรับท่าเรืออเนกประสงค์ (ท่าเรือที่1)
ที่การท่าเรือ ฯ จะดำเนินการเองนั้น ถ้า 3 ปีผ่านไปแล้วการบริหารและประกอบการท่า
ยังไม่มีประสิทธิภาพแข่งขันกับเอกชนไม่ได้ก็ให้การท่าเรือ ฯ เปิดโอกาสให้เอกชน
เข้ามาบริหารได้
2.คณะรัฐมนตรีเห็นว่าเพื่อให้การบริหารคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ สมควร
เปลี่ยนสถานะของการท่าเรือ ฯ และท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบังให้เป็นนิติบุคคลทั้ง
2 องค์กร โดยจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นคณะหนึ่งเพื่อกำกับดูแลจึงมีมติมอบให้
กระทรวงคมนาคมรับไปดำเนินการยกร่างกฎหมายร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตามแนวทางดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายใน 2 สัปดาห์
1034
การลงนามร่วมลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมัน โรงที่ 4
นร**
29/10/2534
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัดได้พร้อมที่จะลงนาม
ในสัญญาจัดสร้างโรงกลั่นน้ำมัน โรงที่ 4 กับ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
อุตสาหกรรมเป็นผู้ลงนามร่วมกับผู้บริหารบริษัทเชลล์ฯ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
1035
การพิจารณาระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กค
17/09/2534
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯฝ่ายเศรษฐกิจ
เห็นควรให้ความเห็นชอบและให้ดำเนินการเกี่ยวกับ ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการพัสดุของ
รัฐวิสาหกิจระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สิน และหนี้สูญออกจากบัญชีของ
รัฐวิสาหกิจระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรัฐวิสาหกิจ และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับ
การตีราคาพัสดุ วัตถุดิบ สินค้าระหว่างผลิตและสินค้าสำเร็จรูปของรัฐวิสาหกิจ
ตามที่ กค.เสนอ และเห็นควรให้รัฐวิสาหกิจ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บริหาร
และคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนกระทรวงเจ้าสังกัด กำกับ ดูแล และติดตาม
ผลให้เป็นไปตามข้อเสนอของ กค. ในเรื่องการกำกับ ดูแลและติดตามผลต่อไป โดย
1.ให้ กค.รับไปกำหนดให้มีบทกำกับให้ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ
มีหน้าที่กำกับดูและเรื่องต่าง ๆ อย่างละเอียดครอบคอบ 2.ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง
เร่งดำเนินการกำหนดหรือแก้ไขปรับปรุงระเบียบหรือข้อบังคับหรือพระราชบัญญัติ
หรือพระราชกฤษฎีกา ตามข้อเสนอของ กค.ภายใน 30 วัน
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
นร
ยืนยันมติ (156/2534)
2
นร
ยืนยันมติ (15980/2534)
3
กค
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (41066/2534)
1036
การคัดเลือกผู้เข้าบริหารสถานีขนส่งสินค้าทางน้ำนครสวรรค์และตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
คค
06/08/2534
เห็นชอบในหลักการให้กรมเจ้าท่าดำเนินการทำสัญญากับ
บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เข้าเป็นผู้บริหารสถานีขนส่งทาง
น้ำ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
1037
การจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ทม
04/06/2534
รับทราบตามทบวงมหาวิทยาลัยรายงานผลการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อสนองนโยบายของ
รัฐบาล สรุปได้ดังนี้
1. พัฒนาระบบอุดมศึกษาของรัฐบาลให้มีความเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพ โดยกำหนด
มาตรการ คือ การชี้แจงต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัย/สถาบันของรัฐบาลให้ทราบแนวทางในการดำเนิน
การงาน กับให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ แล้วกำหนดแนวทางการบริหารมหา
วิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพและดำเนินการปรับปรุง กฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับแนว
ปฏิบัติของแต่มหาวิทยาลัย
2. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถานบันอุดมศึกษาของเอกชน
และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอุดมศึกษาของไทยกับสถาบันศึกษาและองค์กรต่างประเทศ
3. พัฒนาระบบอุดมศึกษาเอกชนให้มีความคล่องตัว
4. กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาจารย์ เช่น เพิ่มจำนวนทุนในการ
พัฒนาอาจารย์ และมีเงินสมนาคุณอาจารย์ในสาขาวิชาที่ขาดแคลน เป็นต้น
1038
การเตรียมการจัดประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
กค
14/05/2534
รับทราบตามที่นรม.แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีข่าวจากหนังสือพิมพ์ ได้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม
ได้จัดทำหนังสือแจ้งไปยังผู้บริหารของธนาคารโลกเรียกร้องไม่ให้มาร่วมประชุมสภาผู้ว่า
การธนาคารโลกฯ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในประเทศไทยระหว่างวีนที่ 15-17 ตุลาคม 2534
เพื่อประท้วงในกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขี้นในประเทศไทย และการประกาศ
ใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการจัดให้มีการประชุม
สภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ จึงขอให้รัฐมนตรี
ทุกท่านได้รับทราบ และหากจะให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเรื่องนี้ ก็ขอให้ยืนยัน
นโยบายดังกล่าวให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีในหมู่ประชาชน
และนานาประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เทคโนโลยีและการพลังงานชี้แจงเพิ่มเติมว่า
ได้พบประเจรจากับเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย และได้รับทราบว่า
รัฐบาลฟินแลนด์ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกครั้งนี้
โดยจะส่งผู้แทนมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ประเทศสวีเดน และนอร์เวย์ก็จะส่งผู้แทนมาร่วม
ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกด้วยเช่นกัน
1039
ขออนุมัติรับการสนับสนุนค่าพาหนะเดินทางให้กับข้าราชการกรมอาชีวศึกษา
ศธ
30/04/2534
อนุมัติให้มีคณะรัฐมนตรีเบิกค่าโดยสารเครื่องบินเดินทางไปกลับประเทศไทยออสเตรีย
ของคณะครู-อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ13 คน เป็นเงิน 362,700 บาท และคณะของผู้บริหาร
กรมอาชีวศึกษาจำนวน10 คน เป็นเงิน 279,000 บาท อนุมัติตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้ กระทรวงศึกษาธิการขอทำความตกลงกับ สำนักงานงบประมาณต่อไป
1040
การพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีกับคณะบุคคลต่าง ๆ
นร
19/03/2534
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ นรม.รายงานต่อที่ประชุม ครม. ว่ามีนโยบายที่จะพบปะกับ
กลุ่มบุคคลต่าง ๆ หลายคณะคือการร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชน การพบบุคคลที่เกี่ยวข้อง
กับปัญหาด้านสังคมซึ่งมาจากกรุงเทพและต่างจังหวัดและการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ
ภาวะเศรษฐกิจระดับผู้บริหารธุรกิจภาคเอกชน ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการยกร่างนโยบายรับทราบ
.....
|<<
Previous
<
Previous
51
52
53
54
55
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย